จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.หลังสวน รับแจ้งพบผู้เสียชีวิตในบ่อน้ำ 2 ราย ทราบชื่อต่อมาคือนายนายเจือ เจียมวิจิตร อายุ 89 ปี และนางล้วน เจียมวิจิตร อายุ 85 ปี บ้านหลังหนึ่งที่ ม.14 ต.นาพญา อ.หลังสวน จ.ชุมพร และเจ้าหน้าที่กู้ภัยสมาคมพุทธประทีปหลังสวน เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ คาดว่าเป็นการถูกฆาตกรรมนั้น

 

หลังจากที่ทีมข่าวช่อง 8 ทราบแล้วว่าคุณตาเจือและคุณยายล้วน มีปัญหาหนักใจเรื่องภรรยาเก่าและลูกชาย จึงได้เดินทางมายังบ้านของนางหีด อายุ 77 ปี ซึ่งเป็นอดีตภรรยาของคุณตาเจือ ผู้เสียชีวิต โดยเมื่อมาถึงก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจากภาค 8 ขับรถเข้ามากว่า 10 คันรถ เพื่อนำหมายศาลและนำกำลังเข้าตรวจค้น บ้านของนางหีดและลูกชาย โดยในช่วงก่อนทำการตรวจค้น นางหีดไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจค้นภายในบ้าน เนื่องจากกลัวทางเจ้าหน้าที่จะมายัดข้อหาและจะมาจับลูกชายตนเองไป ก่อนในที่สุดจะใช้เวลากว่า 20 นาที จนยอมให้เข้าไปในที่สุด

  

โดยหลังจากที่นางหีด อนุญาตให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจค้นภายในบ้านแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้เข้าตรวจค้นกันอย่างเต็มที่ทั้งบริเวณบ้านและรอบบริเวณบ้าน รวมไปถึงในบ้านเองมีกล่องวงจรติดที่บ้านกว่า 6 จุด ทำให้เจ้าหน้าได้มีการถอดเอาเมมโมรี่จากตัวกล้องวงจรปิดทุกตัว เพื่อนำไปตรวจสอบเวลาเข้าออกของอดีตครอบครัวของคุณตาเจือ โดยจากการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ไม่พบสิ่งของต้องสงสัยแต่อย่างใด แต่ได้มีการนำเมมโมรี่การ์ดกลับไปตรวจสอบอีกครัง

 

และถัดมาทีมข่าวช่อง 8 ได้พูดคุยกับนางหีด อายุ 77 ปี อดีตภรรยาของคุณตาเจือ โดยนั่งหีด เปิดใจกับทีมข่าวช่อง 8 ว่า ในวันนี้ หลังจากที่มีเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบและค้นภายในบ้าน ตนก็ไม่ได้รู้สึกตกใจหรือมีอาการเกรงกลัวใดๆ ทั้งสิ้น เนื่องจากตนเองและลูก มั่นใจว่าไม่ได้เป็นคนก่อเหตุทำร้ายทั้งคู่จนเสียชีวิตอย่างแน่นอน อีกทั้งตนก็เลิกรากับคุณตาเจือ ไปนานกว่า 41 ปีแล้ว ด้วยเรื่องที่คุณตาเจือ มีนิสัยอารมณ์ร้าย และเป็นคนประหยัดเกิดเหตุ ที่บ้านจะมีไฟฟ้าก็ไม่ยอม ที่บ้านจะมีหม้อหุงข้าวก็ไม่เอา ต้องใช้แต่เตาถ่านเท่านั้น จนตัวเองทนไม่ไหวต้องหอบลูกหนีและแยกย้ายกันไปดีกว่า

 

และเมื่อ 4-5 ปีก่อน ตนพร้อมลูกๆตัดสินใจเดินทางเข้าไปหาคุณตาเจือและคุณยายล้วน แต่ก็ถูกคุณตาเจือ ถือมีดไล่แล้วบอกว่าต่อไปนี้ไม่อนุญาตให้เข้ามาที่บ้านหลังนี้ จึงทำให้ตั้งแต่นั้นมาพวกตนไม่เคยเจอทั้งคู่อีกเลยจนมาพบเป็นศพ ส่วนเรื่องที่ทั้งคู่ขายที่ดินได้ตนก็ไม่รู้เพราะไม่ได้ข้องเกี่ยวกันแล้ว และหากมีคนพูดกันว่าตนเองไปเอาเงินของทั้งคู่ คงเป็นไปไม่ได้ เพราะสมัยก่อนขนาดบัตรประชาชน จะมาขอให้ลูกเอาไปสมัครเรียน คุณตาเจือยังไม่ยอมให้เลย นับประสาอะไรกับเงินทอง สุดท้ายถึงแม้ทั้งคู่จะตายไปแล้ว ก็ไม่ขออโหสิกรรมให้ ยังไงก็ขอให้ทั้งคู่ตกนรกหมกไหม้ ไม่ต้องผุดไม่ต้องเกิดอีกต่อไป

 

ต่อมาทีมข่าวช่อง 8 ได้พูดคุยกับนายหลุด สมเกียรติ อายุ 67 ปี วินมอเตอร์ไซค์ที่เจอกับคุณตาเจือ เป็นคนสุดท้ายถูกตำรวจเรียกไปสอบ โดยนายหลุดเปิดใจกับทีมข่าวช่อง 8 ว่าวันนี้ตนถูกตำรวจเรียกตัวมาสอบเนื่องจากตำรวจพบว่าในวันที่ 13 เม.ย. ที่ผ่านมา ตนเจอคุณตาเจือที่ตลาดและพาคุณตาเจือไปส่งโรงพยาบาลแล้วก็พาไปส่งที่บ้าน ซึ่งเป็นวันเดียวกันกับที่ตนเอาโทรศัพท์ที่ใช้ไปจำนำ เนื่องจากต้องการกินเหล้าแล้วไม่มีเงิน จึงเอาไปจำนำนั้นเอง ซึ่งเรื่องนี้ตำรวจก็ไม่ได้ติดใจและปล่อยตัวตนกลับไปหลังจากสอบสวนเสร็จ

 

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนก็รู้สึกตกใจที่ลูกค้าที่ใช้บริการต้องมาจบชีวิตเช่นนี้ แต่ในช่วงที่คุณตาเจือและคุณยายล้วน มีชีจิตอยู่ตนก็เป็นคนที่พาทั้งคู่ไปซื้อของกินของใช้และพาไปรพ.ตลอด แต่ทั้งคู่ไม่เคยเล่าอะไรเกี่ยวกับปัญหาที่มีอยู่ให้ตนฟังเลย เพราะทั้งคู่เป็นคนไม่สุงสิงกับใคร

 

จากนั้นทีมข่าวช่อง 8 ได้พูดคุยกับนายสวน (นามสมมติ) นายสวนได้บอกกับทีมข่าวช่อง 8 ว่าตนนั้นเป็นคนที่สนิทกับคุณตาเจือและคุณยายล้วน ถึงแม้ทั้งคู่จะเป็นคนที่ไม่เอาใครเลยก็ตาม เพราะเป็นคนไปรับไปส่งทั้งคู่นานกว่า 10 ปี จนทั้งคู่เองก็ไว้ใจและมักจะเรื่องต่างๆที่เข้ามาในชีวิตให้ตนฟังตลอด โดยเรื่องที่ทั้งคู่หนักใจที่สุดในตอนนี้เรื่องแรกก็จะเรื่องของลูกชายตัวเองกับเมียเก่า โดยตนได้ยกที่ดินที่มีอยู่ให้ลูกชายคนนี้เกือบทั้งหมด

 

แต่แทนที่ลูกชายคนนี้จะเอาที่ที่ดินไปต่อยอดทำกิน กลับนำไปขายและเอามาสุรุ่ยสุร่ายจนหมด จนมีเรื่องทะเลาะกันจนเกือบฆ่าแกงกันเลย เมื่อ 3-4 ปีก่อน ส่วนเรื่องอีกเรื่องคือที่ดินทางเข้าบ้านที่ตอนนี้ที่บ้านที่ทั้งคู่อยู่กลายเป็นที่ตาบอดไม่มีทางเข้าบ้าน และช่วงหลังก่อนที่ทั้งคู่จะเสียชีวิต ก็จะมาระบายเรื่องดินที่มีคนมาขอซื้อที่ดินที่บ้านของตัวเองที่กำลังอาศัยอยู่ โดยมักจะเข้ามาบีบคั้นให้ทั้งคู่ยอมขายเสียทีและขอราคาต่ำกว่า 3 ล้านที่ตั้งราคาเอาไว้ในตอนแรก ซึ่งทั้งคู่ก็บอกกับตนว่าให้ตายยังไงก็ขายราคาต่ำกว่า 3 ล้านไม่ได้เพราะมันน้อยเกินไป

 

ส่วนเรื่องที่คนมองว่าน่าจะเป็นขโมยขึ้นบ้านแล้วเกิดการต่อสู้กันจนเกิดเรื่องสลด ก็คงไม่ใช่แน่นอนเพราะตนนอกใครจะกล้าเข้าไปบ้านลึกๆในส่วนห่างถนนใหญ่แบบนั้น และถึงจะเข้าไปแต่เมื่อเห็นสภาพบ้านก็คงไม่มีขึ้นไปขโมยแน่เพราะสภาพรอบบ้านไม่ได้มีทรัพย์สินอะไรให้ขโมยเลย ทำให้ประเด็นที่คาดว่าจะทำให้ทั้งคู่ถึงแก่ความตายเช่นนี้ ตนก็มองว่าน่าจะเป็นเรื่องของเมียเก่าและลูกมากกว่า ที่อาจจะไม่มีเงินแล้วอาจจะมาให้ทั้งคู่ขายที่ดินพื้นที่มีบ้านอยู่ก็เป็นได้

ไขปมฆ่าโหด 2 ตายาย โยนศพหมกบ่อ ชายปริศนาสงสัย เมียเก่า-ที่ดิน