จากกรณี 13.00น. (16 เม.ย.67) ร.ต.ท.อลิฟษ์ สันตะกิจ รอง สว.(สอบสวน)สภ.สะเดา รับแจ้งมีเหตุผู้เสียชีวิตถูกฆ่าตัดศีรษะ ภายในบ้านพักหลังหนึ่ง บ้านห้วยคู ต.สำนักแต้ว อ.สะเดา จ.สงขลา จึงเร่งรุดตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียวอยู่ในสวนยางพารา ในห้องครัวพบศพ นายวิชัย อายุ 56 ปี หรือชัย เจ้าของบ้าน สภาพศพนอนหงาย ท่อนบนเปลือยกาย ท่อนล่างสวมกางเกงชั้นใน ศีรษะถูกตัดวางไว้ข้างลำตัว คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 4 วัน

 

นอกจากนี้ข้างศพยังพบด้ามมีดพร้าตกอยู่ และมีดพร้าถูกนำไปล้างวางไว้ในห้องน้ำหลังบ้าน เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานและนำไปตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอ

 

จากการสอบสวนทราบว่า นายวิชัย ซึ่งมีอาชีพกรีดยางพาราจะพักอยู่กับ นายทิวาธร อายุ 33 ปี ลูกชาย ซึ่งจะช่วยเก็บน้ำยาง โดยก่อนที่ตำรวจจะเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ ลูกชายได้ขับรถจักรยานยนต์ออกไปจากบ้านและมีชาวบ้านขับรถไปรับตัวกลับมา

 

ล่าสุดทีมข่าวช่อง 8 ได้ภาพวงจรปิดเป็นนาทีก่อนเกิดเหตุฆาตกรรม โดยวันที่ 9 เมษายน ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุ เวลา 09.27 น. เห็นลูกชายของผู้ตาย คือนายทิวาธร (ผู้ต้องสงสัย) ขี่รถจักรยานยนต์นำน้ำยางพารามาขายที่โรงรับซื้อในหมู่บ้าน ก่อนจะขี่รถกลับบ้านในเวลา 09.30 น. จากข้อมูลที่ถามชาวบ้านผู้ต้องสงสัยเป็นคนขยัน มักจะไปกรีดยางตอนเช้า พอสายก็จะนำน้ำยางมาขายที่โรงรับซื้อน้ำยาง

 

จากนั้นเวลา 11.03 น. หลังจากที่นายทิวาธร ผู้ต้องสงสัย กลับบ้านไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้ว ได้ขี่รถจักรยานยนต์กลับมาที่โรงรับซื้อน้ำยางอีกครั้ง เพื่อมาเอาเงินค่าน้ำยาง

 

หลังจากได้รับเงินเสร็จ ผู้ต้องสงสัยก็นับเงินใส่กระเป๋า ก่อนจะขี่รถจักรยานยนต์ออกจากโรงรับซื้อน้ำยาง เพื่อกลับบ้าน ในเวลา 11:05 น. ซึ่งตามภาพวงจรปิดเป็นเหตุการณ์ช่วงเช้าก่อนที่จะเกิดเหตุฆาตกรรมในช่วงค่ำ

 

พ.ต.อ.สุรจิต เพชรจอม ผกก.สภ.สะเดา ได้สอบปากคำผู้ต้องสงสัยด้วยตนเอง ซึ่งทางผู้ต้องสงสัยตอบกำกวม เพียงว่าวันที่ 9 เมษายนตัวเองอยู่ในบ้านพักซึ่งตอนนั้นพ่อก็อยู่ในบ้านพักเช่นกันและยังไม่ถูกฆาตกรรมตัดศีรษะ ต่อมาช่วง 20.00 น. ก็พบว่าพ่อถูกฆ่าตัดศีรษะแล้ว แต่ตอนนั้นตนเองก็ไม่ได้ทำอะไรแล้วก็ไม่กล้าบอกใคร

 

ก่อนพ่อเป็นศพ พ่อออกไปกินเหล้ากับเพื่อน ส่วนตอนกลับพ่อก็โทรเรียกตนไปรับกลับ โดยตนไปรับพ่อหลังพ่อกินเหล้าเสร็จตอน 19.00 น. แล้วพ่อก็เข้าห้องนอน ก่อนบังคับตนให้ไปนอนเช่นกัน แล้วช่วงเวลาประมาณ 07.00 -08.00 น ของวันที่ 10 เมษายน เป็นช่วงที่ตนตื่นนอนแล้วก็เจอพ่อกลายเป็นศพแล้ว ยืนยันว่าตอนที่ตนอยู่กับพ่อสองคนในบ้านไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยตอนที่เกิดเหตุและก็ไม่มีคนแปลกหน้าเข้ามาในบ้านด้วย

 

ตอนที่ตนเจอศพศีรษะพ่อขาดแล้วตั้งอยู่กับพื้นอยู่ไม่ไกลจากลำตัวพ่อ ไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำและไม่รู้ว่าทำไมพ่อถูกฆ่า แต่ก็ยืนยันว่าช่วงที่เกิดเหตุตนอยู่กับพ่อเพียงสองคนเท่านั้น โดยตนนอนอยู่ที่บ้านกับพ่อที่ถูกฆ่าแล้วเพียงลำพังเป็นเวลา 4 วัน ช่วงเวลานั้นส่วนใหญ่ตนเองจะนอนในบ้านพัก ไม่ได้กินข้าวในบ้านเพราะไม่หิวข้าว

 

ยืนยันอีกว่าตนเองไม่มีความขัดแย้งอะไรกับพ่อ แม้ว่าพฤติกรรมของพ่อตอนที่มีชีวิตอยู่จะชอบว่าและชอบทำร้ายร่างกายตนก็ตาม โดยตนพยายามเป็นลูกที่ดีทำงานทุกวัน หาเงินให้พ่อใช้ และซื้อกับข้าวให้พ่อทุกวัน แต่ตนเองกับพ่อก็ไม่เคยกินข้าวพร้อมกัน

 

หลังตำรวจนำตัวผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำที่โรงพักสะเดา ผู้ต้องสงสัยก็ยังให้การวกไปวนมา ตำรวจจึงให้ญาติของผู้ต้องสงสัยเข้าไปสอบถามเพื่อจะได้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าใครคือคนลงมือก่อเกหตุ ซึ่งญาติก็ถามว่าผู้ต้องสงสัยเห็นว่าใครมาที่บ้านเกิดเหตุบ้างหรือเปล่าผู้ต้องสงสัยก็บอกว่าไม่เห็น และไม่ได้ยินเสียงพ่อเอะอะโวยวายหรือทะเลาะกับใคร

 

ซึ่งวันที่ 9 เมษายน ผู้ต้องสงสัยเป็นคนไปรับพ่อกลับมาบ้าน หลังจากพ่อไปกินเหล้ากับเพื่อน พอกลับมาถึงบ้านพ่อก็ให้นอนหลับ พอตื่นมาก็พบว่าพ่อ หัวขาดและเสียชีวิตแล้วแต่ก็ไม่ได้ไปบอกกับใคร

 

ญาติที่เข้าไปคุยกับผู้ต้องสงสัย เปิดเผยว่า น้องบอกว่าไปรับพ่อมาจากบ้านเพื่อนพอมาถึงบ้านคนตายก็บอกให้น้องนอนหลับ แต่พอน้องตื่นขึ้นมาก็เห็นว่าคนตายหัวขาดนอนเสียชีวิตแล้ว และไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำเพราะน้องไม่เห็นว่าใครเข้ามาในบ้านรวมถึงไม่ได้ยินเสียงพ่อทะเลาะกับใคร และเหตุผลว่าทำไมถึงไม่ไปตามหรือแจ้งให้คนรู้ว่าพ่อเสียชีวิตแล้ว น้องบอกว่าเพราะไม่ได้บอกใคร

 

ซึ่งตอนนี้ตัวเองก็ยังไม่รู้ว่าใครคือฆาตกร ยังมืดแปดด้าน ซึ่งปกติคนตายไม่มีความขัดแย้งกับใคร ส่วนน้องนั้นปกติก็ไม่ได้มีปัญหากับคนตายและอยู่บ้านด้วยกัน 2 คน คอยทำงานกรีดยางเก็บขี้ยางได้เงินก็จะเอามาให้คนตายรวมถึงหุงหาอาหารให้คนตายกิน และเวลาคนตายไปกินเหล้าที่บ้านเพื่อน น้องก็จะขี่รถมอไซค์ไปรับกลับบ้าน

หลอนตัดหัวพ่อนอนกับศพ 4 วัน ลูกเสียงแข็งปัดลงมือฆ่าบั่นหัว