กรณีเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 14 เมษายน 2567 ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี นายกร (นามสมมติ) พี่ชาย น.ส.ส้ม (นามสมมติ) น้องสาว อายุ 38 ปี พนักงานโรงงานแห่งหนึ่งใน จ.พระนครศรีอยุธยา ได้เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี แจ้งว่า น้องสาวถูกนายสุรชัย หรือ เบิร์ด อายุ 34 ปี อดีตแฟนหนุ่มที่เลิกกันไป 2 เดือนก่อน ใช้น้ำกรดราดตั้งแต่ศีรษะลงมาทั่วร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัส มีบาดแผลที่ศีรษะ ลำคอ หน้าอก แผ่นหลัง ตามลำตัวและแขน ขณะนี้นอนรักษาตัวอยู่ที่ห้องปลอดเชื้อโรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.ปทุมธานี หลังเกิดเหตุได้ไปแจ้งความไว้แล้วที่ สภ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา แต่ผู้ก่อเหตุยังลอยนวล จึงเกรงว่าน้องสาวกับครอบครัวจะไม่ปลอดภัย




โดยกล้องวงจรปิดตัวที่ 1 เวลา 19.45 น. นางสาวส้ม ผู้บาดเจ็บ เดินเข้าไปทานอาหารที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง โดยตอนนั้นเป็นเวลาที่ผู้ก่อเหตุ ใช้กุญแจสำรองแล้วไป ซ่อนตัวอยู่ในรถของผู้บาดเจ็บแล้ว




จากนั้นกล้องวงจรปิดตัวที่ 2 เป็นเหตุการณ์หลังจากเกิดเหตุ เวลา 21.59 น. นายมิวส์ รปภ. ใกล้จุดเกิดเหตุ ได้ยินเสียงขณะเกิดเหตุ จึงออกไปชะโงกหน้าดู จากนั้น เวลา 21.59.19 น. ผู้บาดเจ็บวิ่งเข้ามาขอความช่วยเหลือกับ รปภ. หลังจากที่โดนน้ำกรดสาด พบว่า เนื้อตัวของผู้บาดเจ็บฝั่งด้านขวาเปลี่ยนไปด้วยน้ำกรด


กล้องวงจรปิดตัวที่ 3 เวลา 21.59.43 น. ผู้บาดเจ็บ เดินมาอีกฝั่งของป้อม ก่อนที่ รปภ. จะพาผู้บาดเจ็บไปบ้านของลูกบ้าน เพื่อให้โทรแจ้งเจ้าที่กู้ภัย และกล้องตัวที่ 4 เวลา 22.11.50 น. เจอที่กู้ภัยขับรถมาถึงจุดเกิดเหตุ และกล้องตัวที่ 5 เวลา 22.22.40 น. เจ้าที่กู้ภัยรับคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล




วันนี้ 15 เมษายน 2567 ทีมข่าวช่อง 8 เดินทางมายังจุดเกิดเหตุอีกครั้ง ที่ถนนแห่งหนึ่ง ต.บางกระสั้น อ.บางประอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายมิวส์ ซึ่งเป็น รปภ. ที่นางสาวส้ม ผู้บาดเจ็บวิ่งมาขอความช่วยเหลือ ตามภาพจากกล้องวงจรปิด และนายมิวส์ได้ส่งภาพนิ่งแกลลอนที่ผู้ก่อเหตุใส่น้ำกรดมาสาดฝ่ายหญิง ถูกพบตกอยู่ในจุดเกิดเหตุ และยังพบว่ามีคราบน้ำกรด ก่อเหตุสาดใส่ฝ่ายหญิงเสร็จแล้ว ติดตามพื้นถนนอีกด้วย


นายมิวส์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ ตัวเองเห็นรถของผู้บาดเจ็บมาจอดก่อนจะถึงหมู่บ้านตัวเองประมาณ 50 เมตร จากนั้นก็ได้ยินเสียงคนทะเลาะกัน ไม่นานก็มีเสียงของผู้หญิงกรี๊ดประมาณ 3 ครั้งยาว ๆ ก่อนที่ผู้หญิงที่ได้รับบาดเจ็บจะวิ่งมาขอความล่วยเหลือกับตัวเองที่อยู่หน้าป้อม โดยตอนนั้นตัวเองเห็นสภาพคนเจ็บ ถูกสาดน้ำกรดเข้าที่ฝั่งขวาของลำตัวเปียกตั้งแต่หัวจรดเท้า บริเวณเสื้อและกางเกง ก็เริ่มเปื่อยยุ่ย จากฤทธิ์ของน้ำกรด




จากนั้นตัวเองจึงพาผู้เสียหายไปนั่งพักที่บ้านลูกบ้าน ในหมู่บ้านหลังแรก เพราะเห็นบ้านหลังนั้นมีแต่วัยรุ่นผู้ชาย เพื่อให้วัยรุ่นคนนั้นโทร. แจ้งรถกู้ภัยและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนที่ตัวเองจะออกไปดูบริเวณหน้าหมู่บ้าน ว่าผู้ก่อเหตุเค้าตามมาก่อเหตุในหมู่บ้านอีกหรือไม่ จากนั้นตัวเองก็เห็นว่าผู้ก่อเหตุได้วิ่งหนีไปทางหน้าปากซอย ก่อนที่จะหายไปกว่าความมืด


จากนั้นตัวเองจึงกลับมาดูคู่เสียหายอีกครั้ง ก็เห็นเขาร้องด้วยความเจ็บปวด ก่อนที่เจ้าที่กู้ภัยจะมารับตัวผู้บาดเจ็บไปส่งโรงพยาบาล ยอมรับว่าตัวเองรู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่พบเจอเป็นอย่างมาก สาเหตุก็คาดว่าฝ่ายชายน่าจะต้องการที่จะง้อฝ่ายหญิง เพราะถูกบอกเลิกไป และเลิกกันได้ประมาณสองเดือน แต่ฝ่ายชายง้อไม่สำเร็จจึงก่อเหตุดังกล่าว




ทีมข่าวยังได้รับแชตไลน์ที่นางสาวส้ม ส่งแชตมาบอกครอบครัว โดยมีการถ่ายภาพภาพนิ่งมาให้ครอบครัวเพื่ออัปเดตอาการล่าสุด และพิมพ์ข้อความมาบอกกับครอบครัวว่า “ตอนนี้แผลเริ่มยุบแล้ว เริ่มลืมตาได้แล้ว ได้กำลังใจดี”


สำหรับความคืบหน้าทางคดีเจ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อยู่ระหว่างติดตามตัวผู้ก่อเหตุดำเนินคดี ซึ่งมีข้อมูลว่า หลังจากก่อเหตุผู้ก่อเหตุได้โทรศัพท์ไปหายายในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อขอเงิน และเล่าเหตุการณ์ให้ยายฟังว่าเพิ่งไปสาดน้ำกรดใส่แฟนสาวมา




ล่าสุดทางทีมข่าวช่อง 8 ลงพื้นที่สอบถาม นายกร (นามสมมติ) ผู้เป็นพี่ชาย กล่าวว่า น้องสาวคบหากับนายสุรชัย หรือเบิร์ด มาประมาณ 2 ปี แรก ๆ นายเบิร์ดก็เป็นคนดี ระยะหลังเริ่มมีปัญหาเรื่องเงินซึ่งคาดว่าน่าจะติดการพนัน มักจะหาเรื่องทะเลาะกับน้องสาวเป็นประจำ ช่วงเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา น้องสาวจึงได้บอกเลิก ผู้ก่อเหตุก็ยังพยายามตามง้อขอคืนดี ต่อมาตนเห็นข่าวที่นายเบิร์ดไปก่อเหตุขโมยของวัดจนถูกแจ้งความดำเนินคดีเป็นข่าวโด่งดัง ตนจึงบอกน้องสาวให้ระวังตัว น้องสาวก็ต้องหนีไปหลบตามบ้านเพื่อนบ่อยครั้ง


กระทั่งช่วงค่ำวันที่ 9 เม.ย. ระหว่างที่น้องสาวขับรถออกไปกินข้าวกับเพื่อน นายเบิร์ด ได้แอบติดตามไปโดยที่น้องสาวไม่รู้ตัว และคาดว่าน้องสาวน่าจะลืมล็อกรถขณะเข้าไปในร้านอาหาร ทำให้นายเบิร์ดแอบเข้าไปหลบซ่อนตัวในรถอยู่ที่เบาะหลัง จนเวลาประมาณ 3 ทุ่ม น้องสาวได้ขับรถไปส่งเพื่อนที่หอพักเสร็จแล้วกำลังจะขับรถกลับบ้าน ระหว่างทางจู่ ๆ นายเบิร์ดก็โผล่ขึ้นจากเบาะหลังและบังคับให้น้องสาวขับรถมุ่งหน้าไปทางซอยคลองพุทรา อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อไปถึงบริเวณหน้าหมู่บ้านแห่งหนึ่ง น้องสาวจึงได้จอดรถและลงมาจากรถ โดยนายเบิร์ดได้ถือแกลลอนลงจากรถเดินตามมาด้วย แต่น้องสาวไม่รู้ว่าในแกลลอนคืออะไร




จากนั้นนายเบิร์ดก็พยายามง้อขอคืนดีแต่น้องสาวไม่ยอม และพยายามจะล้วงหาโทรศัพท์ในกระเป๋าเพื่อโทร. หาเพื่อนให้มาช่วย จังหวะนั้นน้องสาวไม่ทันระวังตัวเบิร์ดได้กระชากผมน้องสาวจากด้านหลัง ก่อนจะเทน้ำกรดที่อยู่ในแกลลอนราดที่ศีรษะลงมาตามลำตัว น้องสาวกรีดร้องด้วยความปวดแสบปวดร้อน และวิ่งเข้าไปหา รปภ. หมู่บ้าน และชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงเพื่อขอความช่วยเหลือ ก่อนที่พลเมืองดีจะแจ้งกู้ภัยมารับตัวน้องสาวส่งโรงพยาบาล ระหว่างนั้นนายเบิร์ดได้อาศัยจังหวะชุลมุนวิ่งหลบหนีไป ซึ่งขณะเกิดเหตุกล้องวงจรปิดจับภาพไว้ได้เป็นหลักฐาน แพทย์ที่ให้การรักษาระบุว่า น้องสาวถูกน้ำกรดผิวหนังเสียหายลึกอยู่ในระดับ 3 และต้องประสานแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากโรงพยาบาลอื่นมาช่วยดูอาการก่อนจะประเมินการรักษา


น้องสาวตอนนี้จิตใจย่ำแย่เมื่อเห็นสภาพตัวเองเหมือนตกนรกทั้งเป็น แต่หลังจากมูลนิธิได้ให้การช่วยเหลือก็รู้สึกสบายใจมากขึ้น น้องสาวดูสดใสมากขึ้น ขอมูลนิธิปวีณาฯ ช่วยติดตามคดีเร่งนำตัวนายดำมารับโทษตามกฎหมาย

 

ล่า "ไอ้เบิร์ด" สุดโหดกระชากหัวราดน้ำกรดใส่แฟนเก่าสาหัส