จากกรณีพบศพ นายระพิน ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์และงบประมาณเทศบาลเมืองกำแพงเพชร อยู่ในสภาพเปลือยกายใช้กางเกงผูกคอตนเองกับกิ่งมะยม มีเสื้อยืดสีดำสวมอยู่ที่ปลายเท้า ด้านบนระเบียงบ้านพบเสื้อผ้า รองเท้า ซึ่งเป็นชุดทำงานของผู้ตายถอดวางไว้ รวมทั้งทรัพย์สินมีค่าของผู้ตายยังคงวางอยู่บริเวณดังกล่าว และจากกรณีเสียชีวิตดังกล่าวครอบครัวยังคงติดใจเกี่ยวกับลักษณะการตาย หลังพบพิรุธหลายอย่าง อีกทั้งภาพวงจรปิดร้านอาหาร สถานที่สุดท้าย ผอ.ระพิน ยังยิ้มร่าเริงคุยกับเพื่อนตลอด จนกระทั่งกลับบ้านและเกิดเหตุสลด นั้น




วันนี้ (5 เม.ย. 2567) ทีมข่าวช่อง 8 ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ซึ่งเป็นเส้นทางเข้าบ้านของ ผอ. โดยเป็นถนนเรียบแม่น้ำ ด้านหลัง อบจ. โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดหลายตัวจับภาพเอาไว้ได้ ซึ่งระยะ 1 กิโลเมตร ก่อนถึงบ้าน ทั้งก่อนและหลังที่จะเห็นรถของ ผอ. ขับผ่าน ไม่มีรถต้องสงสัยขับตามหรือขับนำ มีเพียงแค่รถกระบะของ ผอ. เพียงคันเดียวที่ขับขับบนถนน ในช่วงเวลาประมาณ 23.41 น.




โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดจับแสงไฟรถของ ผอ. ขับผ่านกล้องชุดดังกล่าว ก่อนที่จะถึงบ้าน โดยห่างประมาณ 300 เมตร ซึ่งเป็นกล้องจุดเดียวที่บันทึก แสงไฟรถของ ผอ. เอาไว้ได้ และจากกล้องตัวดังกล่าวก็ไม่สังเกตุเห็นว่ามีรถขับตามแต่อย่างใด


จากนั้นมีภาพจากกล้องวงจรปิดตั้งแต่สะพานข้ามแม่น้ำปิง หลังจากที่ ผอ. ขับรถออกจากเมือง กลับจากร้านข้าวต้ม โดยกล้องวงจรปิดหลังจากที่ข้ามสะพานและมุ่งหน้ากลับบ้านถนนเลียบแม่น้ำปิง มีภาพกล้องวงจรปิดหลายตัวจับภาพเอาไว้ได้ ซึ่งจะเห็นรถของ ผอ. ขับมาโดยปกติ และไม่มีรถขับตาม แต่กล้องบางตัวจะจับภาพสังเกตเห็นว่ารถของ ผอ. มีการขับลักษณะแตะเบรกเป็นช่วง ลักษณะขับเบรก




และจากข้อมูลชุดสืบสวนซึ่งมีการแกะรอยเพื่อหาเบาะแสและพิรุธ เกี่ยวกับการเสียชีวิตของ ผอ.ระพิน โดยได้มีการติดตามจากสัญญาณมือถือครั้งสุดท้าย การใช้โทรศัพท์ของ ผอ. และรวมถึงเส้นทางที่รถขับผ่าน หลังจากที่ออกจากร้านข้าวต้มก่อนที่จะกลับบ้าน ปรากฏว่าในคืนวันที่ 3 เม.ย. เวลาประมาณ 23.41 น. ซึ่งตรงตามภาพกล้องวงจรปิดที่จับภาพก่อนถึงบ้านเอาไว้ได้ รถ ผอ. ขับมาถึงช่วงเวลาตรงตามกล้อง แต่ไม่ได้มีการเลี้ยวเข้าบ้านตัวเอง


โดยมีการขับเลยซอยบ้านตัวเอง และมุ่งหน้าไปที่ลานดินหลัง ทางเข้า อบจ. ซึ่งจุดดังกล่าวเป็นประตูด้านหลัง โดยจะเปิด 8 โมงเช้า และจะปิดเวลา 18.00 น. ซึ่งรถ ผอ. ไม่สามารถขับผ่านหรือขับเข้าไปด้านหลังได้ แต่สัญญาณมือถือของ ผอ. พบว่าเจ้าตัวไปจอดอยู่ที่จุดดังกล่าว เป็นเวลา 10 นาที ก่อนที่จะขับย้อนกลับเพื่อกลับบ้าน และตามสัญญาณมือถือของ ผอ. เจ้าตัวจะกลับเข้ามาที่บ้าน ช่วงเวลาประมาณ 23.52 น. โดยประมาณ


โดยทีมข่าวได้เดินทางไปที่ถนนหลัง อบจ. ซึ่งเป็นลักษณะลานดินโล่ง โดยจุดดังกล่าวมักเป็นจุดที่ชาวบ้านมักจะกลับรถและรวมถึงเป็นเส้นทางที่เข้าด้านหลังของ อบจ. แต่ตามข้อมูลแล้วพบว่ากลางคืนประตูด้านหลังจะมีการปิดตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป ซึ่งรถไม่สามารถวิ่งผ่านได้ และยังมีป้ายเขียนเอาไว้ชัดเจน ว่ามีเวลาเปิดปิดกี่โมง


แต่จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดเส้นทางที่รถกระบะของ ผอ. ขับเลยซอยเข้าบ้านที่หายไปเวลา 10 นาที ไม่มีภาพจากกล้องวงจรปิดที่จับภาพได้ เพราะจากเส้นทางดังกล่าวมีกล้องของวัดและ อบต. ติดตั้งอยู่ แต่ระบบเป็นระบบเก่าใช้การไม่ได้ ซึ่งสังเกตมีต้นหญ้าและเถาวัลย์ติดอยู่ ดังนั้นการขับรถออกนอกเส้นทางของ ผอ. จึงไม่มีภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพเอาไว้ได้ แต่โดยเบื้องต้นชุดสืบสวนกำลังมีการประสานเพื่อขอถอดกล้องไปทำการตรวจสอบ เพื่อที่จะดูเบาะแสของรถ ผอ. ที่มีการขับออกนอกเส้นทาง




จากนั้นทีมข่าวช่อง 8 ย้อนลงพื้นที่ไปยังบ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นบ้านสวนแต่มีการสร้างบ้านเพื่อพักอยู่อาศัยด้านใน โดยรอบข้างมีการปลูกต้นมะม่วงและพืชอื่น เพราะเนื่องจากเป็นบ้านสวน และบ้านที่เกิดเหตุไม่มีรั้ว เป็นลักษณะสวนเปิดโล่ง มีทางเข้า-ออกทางเดียว


โดยรถกระบะของ ผอ. ยังคงจอดทิ้งเอาไว้อยู่ในโรงจอดรถ โดยทีมข่าวสังเกตเพิ่มเติมว่ารถของ ผอ. ที่จอดอยู่ในโรงจอดรถ กองพิสูจน์หลักฐานได้มีการตรวจรอยนิ้วมือแฝง ซึ่งมีการเน้นตรวจบริเวณกระโปรงหน้ารถฝั่งคนขับ ซึ่งมีลักษณะคล้ายเป็นรอยนิ้วมือ เจ้าหน้าที่จึงได้มีการตรวจสอบรอยนิ้วมือแฝง เพื่อเชื่อมโยงเกี่ยวกับกลุ่มคนต้องสงสัย และรอบบ้านยังคงมีการกั้นแนวเชือกเอาไว้


ขณะที่ชุดสืบสวนพร้อมทั้งร้อยเวรได้มีการตรวจสอบรอบบ้านเพิ่มเติม ก็ยังพบว่าบริเวณด้านหลังบ้านมีลักษณะอุจจาระเหลวติดอยู่ที่ท่อพีวีซี ซึ่งเบื้องต้นก็จะต้องมีการตรวจสอบว่าเป็นของคนตายหรือเป็นผู้ต้องสงสัย เพื่อเทียบกับกองอุจจาระก่อนหน้านี้ และยังมีรายงานว่าตำรวจได้มีการเข้าสอบปากคำชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงเพื่อสอบในฐานะพยานเกี่ยวข้องกับบุคคลต้องสงสัย หรือคนที่เข้า-ออกในคืนเกิดเหตุ




นอกจากนี้ ทีมข่าวสังเกตรอบบ้าน ผอ. มีสายไฟ วางอยู่หลายจุด ซึ่งมีความเป็นไปได้หาก ผอ. จะใช้ในการก่อเหตุก็สามารถที่จะหยิบสายไฟไปใช้ได้ หรือแม้แต่บริเวณบันไดหลังบ้านเชื่อมกับห้องน้ำ จุดดังกล่าวสังเกตว่ามีการผูกสายไฟเอาไว้ แต่ไม่ได้มีลักษณะลักษณะทำเป็นบ่วง โดยทีมข่าวสังเกตุว่าหาก ผอ. ต้องการที่จะก่อเหตุก็สามารถที่จะมีการผูกคอตัวเองตายจากจุดที่มีสายไฟผูกเอาไว้ได้ ไม่จำเป็นต้องไปผูกที่ใต้ต้นมะยมด้านหน้า


อีกทั้งบริเวณรอบบ้านของ ผอ. มีผ้าขี้ริ้วและเสื้อผ้าเก่าวางทิ้งเอาไว้ในหลายจุด ซึ่งก็ตรงตามที่ภรรยาของ ผอ. ตั้งข้อสังเกต ว่า ผ้าที่ ผอ. ใช้ก่อเหตุ เป็นกางเกงเก่าที่เป็นผ้าขี้ริ้วอยู่รอบบ้าน จึงมีความเป็นไปได้เพราะเนื่องจากทีมข่าวเจอกันกางเกงถูกวางทิ้งเอาไว้ข้างบ้าน 1 ตัว และยังมีเสื้อแขวนเอาไว้ที่ใต้ต้นมะยมอีก 1 ตัว




ขณะเดียวกันทีมข่าวยังได้พูดคุยกับชาวบ้านในพื้นที่ ซึ่งอยู่ละแวกแถวบ้าน ผอ.ระพิน คนตาย ด้านนางยุภา (นามสมมติ) ชาวบ้านใกล้ที่เกิดเหตุ เผยว่า หากย้อนกลับไปในคืนวันที่ 3 เม.ย. สังเกตความผิดปกติ ในคืนนั้นช่วงเวลาประมาณ 5 ทุ่ม จะได้ยินได้ยินเสียงรถกระบะขับเข้าออกซอย ซึ่งมีการขับเข้าไม่นานมีการขับออก และในช่วงที่รถขับเข้าออกนั้นก็จะได้ยินเสียงหมาเห่ากระโชก โดยปกติแล้วหากเป็นรถของ ผอ. หรือชาวบ้านในละแวกแถวนี้ หมาจะไม่เห่าเพราะจำเสียงรถได้ คืนดังกล่าวตอนที่ได้ยินเสียงรถกระบะขับเข้า-ออก จึงไม่แน่ใจว่าเป็นรถของ ผอ. หรือไม่ แต่มันผิดปกติเพราะเนื่องจากหมาเห่าไล่


และถ้าหากตั้งข้อสังเกตว่า หมาอาจจะเห็นตอนที่ ผอ. เดินอยู่หน้าบ้านก่อนที่จะมีการก่อเหตุผูกคอ แล้วมีการมีการเห่าเสียงดังนั้น ส่วนตัวมองว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะส่วนใหญ่หมาจะอยู่แค่ปากซอยก่อนทางเข้าบ้าน แต่ไม่สามารถที่จะมองเห็นไปถึงด้านในบ้านของ ผอ. ได้ เนื่องจากบ้านตนเองมีหมา 2 ตัว และบ้านที่ถัดไปเลี้ยงเอาไว้อีก 2 ตัว ซึ่งคืนนั้นหมาทั้ง 4 ก็พากันเห่า


จนกระทั่งรุ่งเช้าเพิ่งทราบว่า ผอ. ผูกคอตายอยู่ใต้ต้นมะยม ตนเองจึงได้มานึกย้อนเกี่ยวกับเสียงรถกระบะที่ได้ยิน และรวมถึงเสียงหมาเห่าที่ผิดปกติกว่าทุกวัน เพราะโดยปกติแล้วหมาจะไม่เห่าลักษณะแบบนี้ จึงไม่แน่ใจว่าหมาเห็นอะไรหรือไม่ หรือคนนอกเข้ามายุ่งเกี่ยวหรือไม่ จึงทำให้หมาคุ้นชินแล้วมีการเห่า


และหลังจากที่พบศพ ตนเองในฐานะชาวบ้านที่อยู่ละแวกนี้ก็ได้เข้าไปดูที่เกิดเหตุ ซึ่งก็มองเรื่องแปลกเอาไว้ในหลายเรื่องและหลายประเด็น อาทิ การแต่งกายของ ผอ. ซึ่งโดยปกติเจ้าตัวเป็นคนแต่งตัวเนี้ยบ เดินออกจากบ้านเรียกได้ว่าไม่เคยใส่กางเกงขาสั้น แต่งขายาวตลอด ซึ่งมันผิดแปลกจากลักษณะศพที่เจอ เพราะมีลักษณะเปลือย ไม่มีการสวมใส่เสื้อผ้า


อีกทั้งตอนที่ไปเจอศพ ตำรวจตรวจสอบลูกบิดประตูบ้านและกุญแจของประตูบ้าน ยังไม่มีการไขกุญแจเข้าไป มีเสื้อผ้าของ ผอ. รองเท้า กองเอาไว้อยู่หน้าบ้านใกล้กับจุดพบศพ ซึ่งก็เป็นเรื่องแปลก ที่คนกลับบ้านแต่ไม่ถอดเสื้อผ้าในบ้าน ถอดทิ้งเอาไว้ แต่เบื้องต้นยังไม่ได้สังเกตว่าเป็นเสื้อหรือกางเกงชุดเดียวกันกับที่ใส่ไปกินข้าวที่ร้านข้าวต้มหรือไม่ เห็นแต่มีการถอดทิ้งเอาไว้เท่านั้น


สำหรับในละแวกแถวนี้ โดยปกติก็ไม่มีเรื่องของขโมย แม้ว่าจะไม่มีรั้วรอบขอบชิดก็ตาม และที่สำคัญไม่มีใครเข้าไปในพื้นที่บ้านของ ผอ. เพราะเข้าใจว่าเป็นพื้นที่ส่วนบุคคลและเป็นพื้นที่บ้านสวน ไม่มีชาวบ้านหรือคนนอกเข้าไปยุ่งย่าม




วันเดียวกันนี้ ทีมข่าวช่อง 8 ยังได้เดินทางไปที่สำนักงานเทศบาลเมืองกำแพงเพชร ซึ่งเป็นที่ทำงานของ ผอ.ระพิน โดยพบว่าห้องทำงานของ ผอ. เจ้าหน้าที่ได้มีการปริ๊นป้ายข้อความ “ห้ามเข้า” เอามาติดเอาไว้บริเวณหน้าห้อง เนื่องจากได้รับการประสานจากร้อยเวรรวมถึงตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ยังไม่อนุญาตให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปภายใน ซึ่งรอทำการตรวจสอบภายในห้องทำงานเพิ่มเติม ในการเก็บหลักฐานเชื่อมโยง หากพบว่าการตายของ ผอ. มีบุคคลอื่นมีส่วนเกี่ยวข้อง


นอกจากนี้ ทีมข่าวได้รับภาพซึ่งเป็นกิจกรรมและรวมถึงภาพถ่ายของ ผอ.ระพิน ที่มีการถ่าย รูปกับเจ้าหน้าที่และระดับหัวหน้างาน โดยมีหลายกิจกรรมที่ตัว ผอ. ไปร่วมกิจกรรมและบันทึกภาพ สังเกตุเห็นว่าเจ้าตัวมีท่าทียิ้มแย้มและมีความสุข


สำหรับภายในสำนักงานนโยบายและงบประมาณของเทศบาลเมืองกำแพงเพชร ยังคงมีเจ้าหน้าที่และพนักงานราชการ ปฏิบัติงานกันตามปกติ ก่อนที่ช่วงเย็นวันนี้ ทั้งหมดจะเดินทางไปร่วมรดน้ำศพ ที่วัดบาง จังหวัดกำแพงเพชร




ต่อมาทีมข่าวเดินทางไปที่วัดบาง จังหวัดกำแพงเพชร ซึ่งญาติได้มีการเดินทางไปรับศพ ผอ.ระพิน ออกจากนิติเวช มาประกอบพิธีรดน้ำศพ ซึ่งได้มีเพื่อนร่วมงาน พนักงานเจ้าหน้าที่จากเทศบาลเมืองกำแพงเพชร และรวมถึงกลุ่มเคลื่อนทหารเรือ ที่ไปนั่งดื่มสังสรรค์กันในกลุ่มสุดท้ายก่อนที่จะพบ ผอ. กลายเป็นศพ โดยการรดน้ำศพเป็นไปด้วยความสุขเศร้า โดยมีช่วงช่วงหนึ่ง ในบรรยากาศที่มีการรดน้ำศพ ภรรยาของ ผอ.ระพิน ได้มีการกระซิบข้างหูของคนตาย โดยเป็นการกระซิบบอก “อยากให้ความจริงปรากฏ แม้ว่าวันนี้จะมีการประกอบพิธีทางศาสนาให้”


ขณะเดียวกันทีมข่าวยังได้พูดคุยกับ นางรัตติกร อายุ 53 ปี ภรรยาคนตาย เผยว่า แม้ว่าวันนี้ผลชันสูตร จะระบุว่าสามีขาดอากาศหายใจจากการบีบรัดคอ แต่คำว่าบีบรัดคอนั้นไม่ได้หมายความว่า จะเกิดขึ้นจากการผูกคอตายเพียงอย่างเดียว ส่วนตัวยังสงสัยและเชื่อว่ามีบุคคลอื่น หรือคนที่ทำให้สามีถึงแก่ความตาย แต่ขอไม่ปรักปรำใคร แม้ว่าในใจจะมีประเด็นอยู่แล้วก็ตาม


และสำหรับการตายของสามีครั้งนี้ นอกจากจะพบพิรุธหลายอย่าง ตนเองก็อยากจะสื่อสารและ ให้ข้อมูลเพิ่มเติม โดยสามีเป็นคนที่ไม่ชอบถอดเสื้อผ้าหรือเปลือยกาย เหมือนเช่นสภาพที่เจอศพ แม้ว่าจะเมามากแค่ไหนเจ้าตัวก็ไม่เคยที่จะทำตัวแบบนี้ และไม่เคยที่จะเปลือยล่อนจ้อน เนื่องจากเป็นคนเนี้ยบ ฉะนั้นเรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นจุดที่ครอบครัวยังคาใจอยู่




รวมถึงกองอุจจาระที่พบหลังบ้าน 3 กอง โดยจุดที่มีมีการอุจจาระทิ้งเอาไว้เป็นลักษณะเนิน หากตั้งข้อสงสัยว่าคืนนั้นสามีเมา แล้วไปนั่งอุจจาระ ซึ่งจุดดังกล่าวเป็นเนินลาดชันลงไปที่แอ่งน้ำ ตัวเองเชื่อว่าคนเมาหากไปนั่งอุจจาระตรงนั้นก็จะลื่นล้มและตกลงไปในน้ำ จึงเป็นไปได้ยากที่คนเมาจะไปนั่งอุจจาระตรงเนิน และที่สำคัญคนเมาหรือคนกินเหล้า เวลาอุจจาระจะเป็นลักษณะของการถ่ายเหลว ซึ่งอุจจาระที่พบเป็นลักษณะแข็งเป็นก้อน 3 จุด จึงเชื่อได้ว่าเป็นของบุคคลอื่น ที่ไม่ใช่ของสามี และอยากจะตั้งคำถามว่าหากสามีอ้างว่าห้องน้ำเสียใช้ไม่ได้ หรือแม้แต่กลัวผึ้งหรือจิ้งจก หรือตุ๊กแกที่อยู่ในห้องน้ำ ไม่กล้าเข้าไปขับถ่าย แต่มีการอุจจาระนอกห้องน้ำ เรื่องนี้จึงเป็นไปได้อีกเรื่องเช่นเดียวกัน




และจากการสืบสวนของพนักงานสอบสวนครั้งนี้ ยังพบว่า มีช่วงเวลาที่สามีหายไปก่อนที่จะขับรถเข้าบ้านประมาณ 10 นาที ไปสอดคล้องกับสมาร์ตวอตช์ที่สามีสวมใส่อยู่ มีการหยุดทำงานไป 15 นาที ก่อนที่จะพบว่ากลับมาออนอีกครั้ง โดยปกติหากสมาร์ตวอตช์มีการแบตหมด ก็คือต้องดับและไม่สามารถที่จะเปิดหรือกลับมาออนได้ แต่ในเมื่อมีการดับไปเพียงแค่ 15 นาทีแล้วติดกลับขึ้นมาใหม่ จึงมองว่าเรื่องนี้ยังเป็นข้อพิรุธที่ครอบครัวคาใจ และยังเชื่อมั่นว่าการตายของสามีมีคนอยู่เบื้องหลังและเกี่ยวข้อง




อย่างไรก็ตาม ภรรยาของคนตาย ยังบอกกับทีมข่าวว่า ในช่วงที่มีการกระซิบข้างหูของสามี ในช่วงบรรยากาศที่มีการรดน้ำศพนั้น ตนเองได้บอกสามีว่า “ใครทำคุณ หรือใครเกี่ยวข้อง ให้ไปลากลากตัวมันมา ให้ความจริงปรากฏ ขอให้คุณได้รับความเป็นธรรม”




ขณะเดียวกันทีมข่าวช่อง 8 ยังได้มีการลงพื้นที่สำรวจดินและทดสอบดินตามที่ภรรยาของคนตายให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับทีมข่าวช่อง 8 โดยระบุว่าภายในเล็บและด้านหลังของศพ มีดินติดอยู่ ลักษณะดินสีดำนั้น ทีมข่าวมีการลงพื้นที่สำรวจดินบริเวณหน้าบ้านที่เกิดเหตุที่พบร่างของ ผอ. เสียชีวิตอยู่ใต้ต้นมะยม โดยใต้ต้นมะยมไม่มีดินและหิน เพราะเนื่องจากใบมะยมร่วงจนทับถม เห็นแต่ใบไม้แห้ง แต่สภาพดินบริเวณลานดินหน้าบ้านที่เกิดเหตุ เป็นดินร่วนปนทราย และมีกรวดผสมและออกลักษณะเป็นสีขาวเทา ไม่ตรงกับในสภาพศพที่ภรรยาให้ข้อมูล




จากนั้นทีมข่าวยังได้เดินทางไปที่ลานดินบริเวณด้านหลัง อบจ. ซึ่ง เป็นจุดที่ข้อมูลพบคนตายไปปรากฏอยู่บริเวณดังกล่าว และยังเป็นจุดที่สมาร์ตวอตช์ของคนตายไปหยุดทำงาน โดยสภาพดินบริเวณจุดที่พบตามสัญญาณมือถือ เป็นดินเหนียวที่ถูกขุดมาจากทุ่งนาแล้วนำมาถมที่จึงมีทั้งดินแดง ดินเทา ผสมด้วยกองฟางที่ถูกขุดมาจากทุ่งนา แต่พบว่ามีบางช่วงที่มีการขุดเอาดินช่วงที่มีการเผาต่อฟางติดมาด้วย จึงทำให้ดินมีลักษณะเป็นสีดำ โดยมีความใกล้เคียงหรือคล้ายกับตามที่ภรรยาให้ข้อมูลที่พบว่าอยู่ในเล็บและด้านหลังของคนตาย

 

"ผอ." ตายเปลือยปริศนา! เจอนาฬิกาหยุดทำงาน - ขับรถเลยบ้านก่อนตาย