จากกรณีเมื่อวานนี้ (13 มี.ค. 2567) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ฉลอง จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งจากหญิงสาวชาวรัสเซีย ว่าแฟนหนุ่มชาวรัสเซียหายตัวไปจากบ้านพักกว่า 2 วันแล้ว ซึ่งพิกัดสุดท้ายที่ปรากฏสัญญาณ GPS คือบริเวณบ้านเช่าในซอยใสน้ำเย็น ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบภายในบ้านก็ได้พบศพ นายอาเธอร์ อายุ 41 ปี ชาวสัญชาติรัสเซีย ในสภาพถูกคนร้ายฆ่าปาดคอเสียชีวิตตรงฟาร์มกัญชาอยู่บริเวณหลังบ้านดังกล่าว

ล่าสุดทีมข่าวได้ภาพจากกล้องวงจรปิดในวันที่ 11 มี.ค. ที่ผ่านมา เวลา 19.04 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนเกิดเหตุฆาตกรรมเพียง 1 วัน โดยในภาพจะเห็นว่านายอาเธอร์ได้ขับรถเก๋งมาจอดบริเวณหน้าบ้านของนายบาซู ซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยที่ฆ่านายอาเธอร์ ก่อนจะเดินเข้าไปภายในบ้าน จากนั้นในวันที่ 12 มี.ค. เวลา 18.12 น. ซึ่งเป็นวันที่เกิดเหตุฆาตกรรม จะเห็นว่านายอาเธอร์นั้นได้ขับรถเก๋งคันเดิมมุ่งตรงไปยังบ้านของนายบาซู

หลังจากที่นายอาเธอร์ขับเข้าไปหานายบาซูเพียง 1 ชั่วโมง ในเวลา 19.15 น. จะเห็นว่านายบาซูได้ขี่รถจักรยานยนต์ pcx สีแดงออกมาจากซอย และมุ่งหน้าไปยังสนามบินภูเก็ตเพื่อทำการหลบหนี และในวันที่ 13 มี.ค. หลังจากที่มีการพบศพของนายอาเธอร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน รถของกู้ภัย ก็ได้ขับเข้าไปบริเวณที่เกิดเหตุ

ขณะที่ทีมข่าวได้ข้อมูลการเดินทางของนายบาซู พบว่า นายบัคโตวาร์ มูโรโซดา หรือ “นายบาซู” ผู้ต้องสงสัย ได้มีการขึ้นเครื่องเดินทางออกนอกประเทศตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค. ด้วยสายการบิน TK 173 ตามตารางบินคือเวลา 22.45 น. ซึ่งเป็นเที่ยวตรงไปยังปลายทางคือ เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี

ล่าสุดวันนี้ (14 มี.ค.67) ทีมข่าวช่อง 8 ได้ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุพบว่าเป็นบ้านเช่าสองชั้น ซึ่งชั้นบนจะปล่อยให้คนภายนอกเช่าพักอาศัย ส่วนชั้นล่างนั้นจะเป็นฟาร์มกัญชา โดยที่ฟาร์มกัญชาจะเป็นของเจ้าของบ้านเช่าชาวไทย โดยมีเจ้าหน้าพิสูจน์หลักฐานได้ทำการเก็บวัตถุพยานหลักฐานต่าง ๆ ไปตรวจสอบเพิ่มเติม อย่างเช่น คราบเลือดของผู้เสียชีวิต รวมถึงได้นำรถเก๋งของนายอาเธอร์ ผู้เสียชีวิต และรถจักรยานยนต์ pcx สีแดง ของนายบาซู มาไว้ที่โรงพัก

จากนั้นทีมข่าวช่อง 8 ได้พยายามเข้าไปพูดคุยกับทางญาติของผู้เสียชีวิต ซึ่งนายจอห์นนี่ (นามสมมติ) ก็ได้ออกมาพูดคุยกับทีมข่าว บอกว่า ตัวเองนั้นไม่สามารถตอบเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้ แต่จะพยายามลองไปพูดคุยกับภรรยาของนายอาเธอร์ดู เผื่อภรรยาของนายอาเธอร์จะอยากพูดอะไรบ้าง แต่ในส่วนของพ่อและแม่ของนายอาเธอร์นั้นคงจะไม่สะดวกที่จะคุยแน่นอน เพราะพวกท่านก็ยังคงเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ ระหว่างนั้นนายจอห์นนี่ก็ให้คำตอบมาว่า ทางด้านของภรรยานายอาเธอร์ไม่สะดวกที่จะพูดคุย เนื่องจากเธอพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยคล่อง อีกทั้งที่เธอเองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสรุปข้อเท็จจริงก่อน จึงจะออกมาพูดคุยและให้รายละเอียดต่าง ๆ

ต่อมาทีมข่าวได้พูดคุยกับ นางสาวน้ำผึ้ง (นามสมมติ) อายุ 38 ปี ซึ่งเป็นผู้เช่าบ้านตัวจริง โดยเล่าว่า เมื่อก่อนตนได้เช่าบ้านหลังดังกล่าวเพื่ออาศัยอยู่กับแฟน แต่จากนั้นแฟนหนุ่มก็ได้เริ่มทำธุรกิจฟาร์มกัญชาภายในบ้านชั้นล่าง ซึ่งแฟนของตนก็มีเพื่อนชื่อ นายบาซู แต่เขาไม่ได้สนิทกันเท่าไร แค่รู้จักกันเผิน ๆ แฟนของตนจึงทำการว่าจ้างให้นายบาซูมาช่วยทำงานที่ฟาร์มกัญชา ไม่ว่าจะเป็นการรดน้ำ การเปิด-ปิดไฟ ซึ่งบาซูก็มาทำงานกับตนได้ซัก 2-3 เดือน

แต่หลังจากผลผลิตรอบแรกนั้นไม่ได้ตามเป้า ตนกับแฟนก็เลยเลิกทำฟาร์มกัญชา แล้วก็ย้ายออกไปอยู่ที่บ้านอีกตำบลหนึ่ง ซึ่งตนก็อนุญาตให้นายบาซูอยู่บ้านหลังนั้นต่อ เนื่องจากยังมีต้นกัญชาเหลืออยู่ในฟาร์ม เลยคิดว่าปล่อยให้เขาดูแลและอยู่ไปฟรี ๆ แต่ในส่วนของนายอาเธอร์ (ผู้ตาย) ตนยืนยันว่าไม่รู้จักและไม่เคยได้ยินชื่อ

แม้กระทั่งวันที่ 13 มี.ค. ที่มีคนโทร. แจ้งว่าพบคนเสียชีวิตภายในบ้าน ตนยังคิดว่านายบาซูฆ่าตัวตายเพราะตนอนุญาตให้นายบาซูอยู่บ้านหลังเพียงลำพัง จนท้ายที่สุดมาทราบว่าคนที่ตายไม่ใช่นายบาซูแต่เป็นนายอาเธอร์ และมันไม่ใช่การฆ่าตัวตายแต่ดันเป็นการฆาตกรรม ซึ่งหลังทราบเรื่องตนก็รู้สึกตกใจที่มีคนมาตายในบ้าน ถึงแม้ว่าจะเป็นบ้านเช่าตนก็รู้สึกใจคอไม่ดีอยู่ดี แต่คิดว่าคงไม่เป็นไรเพราะบ้านเช่าหลังนี้ก็ใกล้จะหมดสัญญาในอีกไม่กี่เดือนนี้แล้ว

ต่อมาทีมข่าวได้พูดคุยกับนายเต้ย (นามสมมติ) อายุ 24 ปี ซึ่งเป็นพนักงาน รปภ. อยู่บริเวณใกล้เคียงกับจุดเกิดเหตุ โดยนายเต้ยเล่าว่า ที่ผ่านมาตนนั้นเคยเห็นนายอาเธอร์ขับรถเข้า-ออกเป็นประจำ ซึ่งตนก็จำหน้านายอาเธอร์ได้แม่นเพราะเขามักจะเปิดหน้าต่างเวลาขับรถ เนื่องจากทุกครั้งที่เห็นเขาก็จะสูบบุหรี่ตลอด

เท่าที่ฟังมาก็รู้ว่านายอาเธอร์นั้นจะมาหาเพื่อนที่ชื่อบาซู เพราะเขาก็ทำธุรกิจปลูกกัญชาด้วยกัน โดยช่วงที่เขามาที่นี่บ่อย ๆ ก็จะเป็นเดือนกุมภาพันธ์ แต่ในเดือนมีนาคมตนไม่ค่อยเห็นนายอาเธอร์เข้ามา กระทั่งเมื่อวานนี้ได้ข่าวว่าพบศพนายอาเธอร์นอนเสียชีวิตอยู่ภายในฟาร์มกัญชา ตนก็รู้สึกตกใจเหมือนกัน เพราะก็เคยเห็นหน้าค่าตานายอาเธอร์มาเยอะพอสมควร ไม่นึกว่าวันนี้จะมาเสียชีวิตในลักษณะนี้