นางสาวพลอย (นามสมมุติ) อายุ 25 ปี พร้อมแม่เข้าขอความช่วยเหลือ นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ “กัน จอมพลัง” ให้ช่วยเหลือหลังถูกนายวิเชษฐ หรือนาย แป๊ป ทำร้ายร่างกาย ทั้งเตะ ต่อย ตบตี เหตุเกิดในพื้นที่อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

 

ขณะที่เมื่อช่วงบ่ายของวันนี้ได้พาผู้เสียหายเดินทางมาติดตามความคืบหน้าสถานีตำรวจภูธรอุทัย จังหวัดอยุธยา โดยเปิดเผยว่านายวิเชษฐ์ ผู้ก่อเหตุเป็นอดีตนักมวย ระหว่างที่คบกับภรรยาได้ลงมือทำร้ายร่างกายหลายครั้ง ทั้งทุบตี เตะ ต่อย ระหว่างที่ภรรยากำลังตั้งครรภ์ เนื่องจากมีพฤติกรรมติดยาเสพติด เมื่อเกิดอาการคลุมคลั่ง จะลงมือทำร้ายร่างกายเป็นประจำ

 

นอกจากนี้ยังบังคับภรรยาให้ไปยืนขายบริการ ย่านปิ่นเกล้า เพื่อแลกเงินหลักร้อย มาให้ตัวเองได้เสพยา ที่ผ่านมานางสาวพลอย เคยขอความช่วยเหลือจากโรงแรม แต่ก็ไม่ได้รับความช่วยเหลือ กระทั่งสามารถหนีเอาตัวรอดออกมาได้

 

แต่หลังหนีมาอยู่กับแม่ในพื้นที่อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายวิเชษฐ์ได้บุกมาตามหาโดยมาสอบถามกับแม่ยาย เพื่อหาตัวนางสาวพลอย แต่แม่ยายไม่รู้ว่าลูกสาวอยู่ที่ไหน

 

ทำให้นายวิเชษฐ์ไม่พอใจ ตัดสินใจขี่รถจักรยานยนต์มาที่ร้านตามสั่งของแม่ยายแล้วนำน้ำมันมาราดจุดไฟเผาร้าน จนพังเสียหาย พร้อมข่มขู่มาโดยตลอดว่าจะบุกไปเผาบ้านและฆ่าญาติๆของนางสาวพลอย ที่ผ่านมาตำรวจได้ออกหมายจับนายวิเชษฐ์แล้วแต่ยังไม่สามารถตามจับตัวได้ เพราะพบว่าทำงานเป็นก่อสร้าง มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ทำให้ตอนนี้ครอบครัวของนางสาวพลอยต้องใช้ชีวิต ด้วยความหวาดกลัว

 

ขณะที่นางสาวพลอย หญิงสาวผู้เสียหาย ได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ให้ทีมข่าวฟังว่า ตนเองคบหาก็ได้นายแป๊บ อดีตสามีเมื่อปี พ.ศ. 2563 ซึ่งก่อนหน้านี้เคยเป็นนักมวยชกตามงานวัด ก่อนจะมาเปลี่ยนอาชีพเป็นคนงานก่อสร้าง ส่วนตนเองมีอาชีพทำหน้าที่เป็นเสมียนของคนงานก่อสร้าง ระหว่างที่คบหากันแรกๆ นายแป๊บก็ดูเป็นปกติยังไม่ออกลายให้เห็น จนกระทั่งต่อมาในปีเดียวกันตนเองได้ตั้งครรภ์ลูกคนแรกกับนายแป๊ป หลังจากนั้นนายแป๊บเพิ่งเริ่มทำร้ายตนเองระหว่างที่ตั้งครรภ์ มาตั้งแต่นั้นมาโดยตลอด เพราะนายแป๊บมีพฤติกรรมการเสพยาเสพติดหากไม่ได้เสพก็จะมีอาการหงุดหงิดและโมโหทำร้ายตนเองทั้งโดนตบ โดนตี โดนกระทืบที่ ศีรษะ บางครั้งถึงขั้นถอดรองเท้าตบหน้า และนายแป๊ปยังเคยทำร้ายพ่อแม่ของตัวเองด้วย แต่ถ้าได้เสพยาเสพติดก็จะอารมณ์ดีมากอดมาหอมเหมือนกับรักตนเองอย่างมาก

 

ตนเองก็ยอมทนเรื่อยมาจนกระทั่งมาตั้งครรภ์ลูกคนที่สอง ซึ่งนายแป๊ป ก็ยังมีพฤติติกรรมทำร้ายร่างกายตนอยู่บ่อยครั้งเวลาที่ไม่ได้เสพยาเสพติด ต่อมาเมื่อช่วงต้นปีที่แล้ว 2566 ตนเองจึงตัดสินพาลูกหนี ซึ่งในแป๊บก็มีการส่งข้อความข่มขู่ตนเองอยู่ตลอดเวลา ก่อนที่ เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว นายแป๊บออกตามหาแต่ไม่รู้ว่าตนเองไปอยู่ที่ไหนนายแป๊บจึงมาตามหาที่บ้านแม่ของตนเองที่จังหวัดอยุธยา แต่ไม่เจอในแป๊บได้ถามแม่ตนเองซึ่งก็ไม่รู้ว่าตนเองไปอยู่ที่ไหนแต่นายแป๊บไม่เชื่อ คิดว่าแม่โกหกจึงเกิดความโมโหด่าทอแม่ตนเอง ด้วยถ้อยคำหยาบคายก่อนที่จะมาจุดไฟเผาร้านขายของของแม่ ตนเองจนทำให้ไฟลุกไหม้ข้าวของเสียหายรวมถึงชาวบ้านทางร้านสะดวกซื้อและบ้านที่อยู่บริเวณนั้นได้รับความเสียหายไปด้วย

 

โดยต่อมาหลังจากนั้นนายแป๊บได้ตามหาตนเองจนเจอแล้วนำตนเองกลับไปอยู่ด้วย และก็จะพาตนเองและลูกตะเวนไปทำงานตามที่ต่างๆ และเมื่อประมาณเดือนพฤศจิกายนของปีที่แล้ว นายแป๊บ ได้พาตนเองพร้อมลูกไปเปิดโรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่งย่านปิ่นเกล้า ซึ่งให้ตนเองเป็นคนออกเงินค่าห้อง แต่อยู่ได้ประมาณหนึ่งอาทิตย์เงินไม่มีนายแป๊บ ได้ทำร้ายตนเองตามคลิปที่ปรากฏในโรงแรมต่อหน้าลูกเพื่อบังคับให้ตนเองอุ้มลูกไปยืนริมถนนบริเวณถนนปิ่นเกล้า เผื่อไปขายบริการทางเพศ ซึ่งในแป๊บจะยืนอยู่ด้วย และคอยหาลูกค้าเป็นนายหน้าบอกว่าหากใครอยากจะซื้อบริการทางเพศได้ราคาจำนวน 300 บาทสามารถติดต่อได้ แต่คนที่เดินผ่านไปผ่านมาก็ไม่ได้สนใจ เพราะตนเองอยู่ในสภาพที่ยืนอุ้มลูกอยู่และมีบาดแผลถูกทำร้ายมาและยืนร้องไห้ แต่ก็ไม่มีใครเข้ามาช่วยเหลือแต่อย่างใด

 

โดยเมื่อไม่มีเงินจ่ายค่าห้องโรงแรมนายแป๊บได้พาตนเองและลูกสองคนไปอาศัยนอนอยู่ที่สถานีรถไฟบางซื่อ พร้อมกับอ้างกับเจ้าหน้าที่ว่ามารอรถไฟเพื่อจะไปต่างจังหวัด ต่อมาเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว นายแป๊บได้พาตนเองไปอยู่ที่แคมป์คนงานในจังหวัดสมุทรสาคร และทำงานอยู่ในแคมป์คนงานแห่งนั้น จนกระทั่งเมื่อปลายเดือนมกราคม ที่ผ่านมา เมื่อตนเองสบโอกาสจึงพาลูกหนีออกมาเพราะทนพฤติกรรมของอดีตสามีอีกต่อไปไม่ไหว และต้องอยู่อย่างหลบซ่อนและหวาดกลัวเพราะเกรงว่านายแป๊บจะตามหาตนเองเจอ เพราะที่ผ่านมานายแป๊บเคยพูดอยู่ตลอดว่า ตัวเองไม่กลัวถูกตำรวจจับเพราะ เคยถูกติดคุกมาแล้วและหากติดคุกก็ติดไม่นานเดี๋ยวก็ออกมาได้ ตนเองจึงตัดสินใจขอความช่วยเหลือจากกันจอมพลัง

 

ขณะที่แม่เล็ก ซึ่งเป็นแม่ของนางสาวพลอย เล่าด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่ารู้สึกสงสารลูกที่ต้องมาโดนสามีที่เป็นนักมวยทำร้ายร่างกาย ที่ผ่านมาตัวเองไม่ทราบเรื่องราวมาก่อน เพราะลูกสาวไม่ค่อยเล่าอะไรให้ฟังมากนัก กระทั่งมารู้เรื่องราวทั้งหมดหลังถูกนายแป๊ป ลูกเขย บุกเผาร้านเมื่อช่วงเดือนกันยายนปีที่แล้ว

 

โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคาดว่านายแป๊ปต้องการมาจุดไฟเผาตัวเอง แต่วันดังกล่าวตัวเองกลับบ้านเร็วกว่าเวลา เพราะส่วนใหญ่จะกลับตี 1 แต่วันนั้นไม่สบายเลยกลับประมาณ 5 ทุ่ม ทำให้นายแป๊ปบุกไปที่ร้านแล้วไม่เจอ จึงจุดไฟเผาร้านแทน

 

ตอนนี้ต้องตัดสินใจแยกกันอยู่กับลูกสาวเพราะหากถูกนายแป๊ป บุกมาทำร้ายจะต้องมีคนใดคนหนึ่งที่รอดชีวิต เพราะถ้าหากอยู่รวมกันอาจเสียชีวิตหรือถูกทำร้ายทั้งคู่

 

หลังเกิดเหตุได้นำหลักฐานทั้งหมดไปแจ้งความกับตำรวจ ซึ่งตำรวจได้ออกหมายจับนายวิเชษฐหรือแป๊ปในข้อหาวางเพลิง แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่สามารถตามจับตัวได้

 

ด้านแม่ของผู้ก่อเหตุ เปิดใจกับทีมข่าวว่าวิเชษฐเป็นคนไม่ทำมาหากินและติดยา ตนประกาศตัดขาด ไม่ขอรับรู้เรื่อง เพราะลูกเป็นคนเกเร

"กัน จอมพลัง" ช่วยสาวท้องถูกผัวนักมวยทารุณบังคับขายตัวแลกยาบ้า