ค้นบ้านยามโหด เจอกล่องเหมือนที่ใช้ขนศพ


วันนี้ทีมข่าวยังได้ภาพขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางไปที่บ้านของยามแดง เพื่อไปตรวจสอบภายในบ้านหาหลักฐานเพิ่มเติม ปรากฏว่าเมื่อไปถึงพบว่า มีกล่องพลาสติกใส่ลักษณะเดียวกันกับกล่องที่บรรจุศพป้าอี๊ด ถูกเก็บวางไว้อยู่ด้านหลังบ้านจำนวนมาก โดยกล่องทั้งหมดมีไว้บรรจุใส่เสื้อผ้าของคนในครอบครัวเป็นส่วนใหญ่


ยามแดงเลือดเย็น ฆ่าเสร็จชวนเพื่อนกินเบียร์ชิลล์


ทีมข่าวลงพื้นที่ไปหาเพื่อนสนิทของยามแดง คือ นายทวีศักดิ์ เพราะคืนวันพบศพยามแดงมานั่งดื่มแอลกอฮอล์ด้วยกัน และนายทวีศักดิ์ ก็ได้ไปให้ปากคำกับตำรวจมาด้วย โดยทวีศักดิ์ เล่าให้ฟังว่า วันที่ 7 มี.ค. ยามแดงมารถจักรยานยนต์ ก็ไม่ได้คุยอะไร มานั่งกินเบียร์ไม่ได้มีพิรุธอะไร ไม่ได้มีอาการเครียดอะไร พอมีข่าวพบศพ ตนยังพูดว่าคนทำโหดไปนะ ยามแดงเขาก็นั่งกินเบียร์เฉย ๆ ไม่ได้พูดอะไรหรือหลุดพูดอะไร ดูนิ่ง ๆ ปกติ ๆ ไม่ได้ดูมีพิรุธและไม่ได้แสดงความเห็นอะไร ซึ่งตนเองก็ไม่ได้ถามอะไร แต่ยามแดง บอกว่า โทรศัพท์เขาตกน้ำอยู่ร้านซ่อมเลยติดต่อใครไม่ได้ตามข่าวไม่ได้ ทั้งนี้ส่วนตัวยามแดงก็ไม่ได้พูดเรื่องเงินอะไรให้ฟัง และตนเองไม่รู้ว่ามีปัญหาอะไร รวมถึงตนเองก็ไม่รู้เรื่องป้าอี๊ดด้วย




ส่วนเรื่องพนันนั้น เมื่อก่อนยามแดงก็พอมีเล่นนิดหน่อยตามงานศพ และเรื่องเคยยืมเงินหรือไม่นั้น ตนเองก็ไม่เคยรู้ เพราะยามแดงไม่ได้มาพูดเรื่องเงินเลยแต่ยอมรับว่า เคยยืมเงินตนเอง 500-1,000 บาท ซึ่งพอเงินเดือนออกก็เอาคืนให้


นายทวีศักดิ์ บอกอีกว่าปกตินิสัยยามแดง เป็นคนนิสัยดี ทำงานขยัน ชอบช่วยเหลือคน ไม่เอาเปรียบเพื่อน ไม่มีพฤติกรรมรุนแรง แต่พอรู้ว่าเพื่อนไปก่อเหตุก็เสียใจ ทำไมเพื่อนทำแบบนี้ เมื่อคืนตนเองไปสอบปากคำก็เจอแต่ไม่ได้คุยกัน คิดในใจกรรมใครกรรมมัน และตอนที่ตำรวจเรียกไปสอบปากคำตนเองก็ไม่ได้แปลกใจอะไร


ครอบครัวร่ำไห้เชิญวิญญาณ “ป้าอี๊ด” จุดทิ้งศพ - ลูกชายขอบคุณตำรวจ นักข่าว ตามจับคนร้ายตัวจริง


ทีมข่าวยังได้เดินทางไปพูดคุยกับนายแอ๊ว ลูกชายคนที่ 3 ของป้าอี๊ด ซึ่งก่อนหน้านี้เจ้าตัวเคยตกเป็นผู้ต้องสงสัยหมายเลขหนึ่ง เนื่องจากมีชาวบ้านให้ข้อมูลว่า เจ้าตัวมีประวัติเสพยาเสพติดมาก่อน และหลังจากพบศพป้าอี๊ด ตำรวจได้คุมตัวนายไปสอบปากคำเตรียด พร้อมกับ แจ้งข้อหา เสพยาเสพติดกับนายแอ๊วไว้ก่อน




ซึ่งล่าสุดวันนี้เจ้าตัวได้รับการปล่อยตัวออกมาแล้วเนื่องจากเป็นผู้ป่วย และเตรียมเข้ารับการบำบัด ซึ่งนายแอ๊วได้มีโอกาสกลับมาไหว้ศพของผู้เป็นแม่ หลังตำรวจสามารถตามจับฆาตกรตัวจริงได้แล้วว่า ไม่ใช่เจ้าตัว นายแอ๊วบอกกับทีมข่าวทั้งน้ำตาว่า ตนเองรู้สึกขอบคุณตำรวจ และบรรดาผู้สื่อข่าวมาก ๆ ที่ช่วยเร่งติดตามหาฆาตกรตัวจริงที่ฆ่าแม่ของตนเองได้


ขณะเดียวกันเมื่อช่วง 16.30 น. ครอบครัวของผู้เสียชีวิต คือ ลูกทั้ง 5 คนของป้าอี๊ด พร้อมญาติได้นิมนต์พระสงฆ์ 1 รูป มาทำพิธีเชิญดวงวิญญาณของผู้เป็นแม่ที่สระน้ำจุดทิ้งศพเพื่อกลับมาทำพิธีที่วัด บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า ลูก ๆ ได้จุดธูปพร้อมเรียกชื่อของป้าอี๊ด ให้ตามกลับวัด ไม่ต้องจองเวรจองกรรมกับใครอีก จากนั้นเมื่อเชิญดวงวิญญาณมาถึงวัดเหมืองแร่ ครอบครัวได้ช่วยกันยกโลงศพที่ตั้งอยู่ด้านนอก บรรจุใส่โลงเย็น หลังเชิญดวงวิญญาณป้าอี๊ดมาถึงวัดแล้ว


ลากไส้ยามแดง ชอบตีสนิทเศรษฐีใช้เงินเกินตัว


ทีมข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านของยามแดงอีกครั้ง เพื่อจะไปพูดคุยกับภรรยาและลูกของนายแดง ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเมื่อไปถึงบ้านยังคงปิดเงียบ แต่พบว่าหน้าต่างเปิดอยู่หลายบาน


ส่วนสาเหตุที่ผู้เสียชีวิตถูกยามแดงฆ่า มีเพื่อน ๆ ที่รู้จักกับยามแดง มีการโยงปมไปที่เจ้าอาจหาเงินไม่พอกับความต้องการตัวเอง เพราะที่ผ่านมายามแดงถือว่าเป็นคนที่ใช้เงินเกินตัว ออกรถฟอร์ดคันละเป็นเกือบล้าน เมื่อเทียบกับเงินเดือนตัวเอง และชอบพูดคุยกับลูกค้าที่แต่งตัวดูดี มีเงิน เหมือน อยากยกระดับฐานะตัวเองไปด้วย ซึ่งการที่ป้าอี๊ดไม่ยอมให้ยามแดงยืมเงิน แต่ยามแดงต้องการใช้เงิน จึงทำไปด้วยความขาดสติก็เป็นได้

 

ยามแดงแหกตา! เนียนช็อกรู้ข่าวป้าอี๊ด จิบเบียร์วันเจอศพ เปิดปมฆ่าเพิ่งถอยป้ายแดง