เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม ความคืบหน้ากรณี มีผู้เสียหาย คือ นายณัฐนนท์ อายุ 30 ปี เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.ทักษิณ อินทมะโน รองสารวัตรสอบสวน สภ.นาแก จ.นครพนม กรณีบิดาเสียชีวิตปริศนา คือ นายสุรศักดิ์ หรือเซียนตี๋ อายุ 30 ปี สืบเนื่องจากมีชาวบ้านแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ซาเล้งล้มเองทางเข้าหมู่บ้าน ใกล้ป่าสวนยาง ทางเข้าบ้านแก้ง ต.บ้านแก้ง อ.นาแก จ.นครพนม เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 4 มีนาคม ที่ผ่านมา




จนกระทั่งประสานกู้ชีพโรงพยาบาล และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเข้าไปช่วยเหลือ นำส่งโรงพยาบาลอำเภอนาแก ในสภาพมีบาดแผลฉกรรจ์บริเวณใบหน้า และศีรษะยุบหมดสติ แต่ยังมีชีพจรหายใจ จึงนำส่งรักษาเบื้องต้น พร้อมส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลนครพนม เนื่องจากอาการสาหัส จนกระทั่งเสียชีวิต ในช่วงเช้าวันที่ 6 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยญาติไม่เชื่อว่าเกิดอุบัติเหตุ คาดว่าถูกฆาตกรรมปริศนา เพราะจากการตรวจสอบบาดแผลเบื้องต้น พบว่ามีบาดแผลฉกรรจ์ บริเวณใบหน้า คล้ายถูกทำร้าย อีกทั้งรถจักรยานยนต์ซาเล้งไม่มีร่องรอยเฉี่ยวชน หรือประสบอุบัติเหตุ


ล่าสุดทางด้าน พ.ต.อ.ภาณุศักดิ์ เสมอศรี ผกก.สภ.นาแก ได้สั่งการให้ทีมสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบเก็บหลักฐานทุกจุด รวมถึงกล้องวงจรปิดที่บันทึกนาทีเซียนตี๋ออกจากบ่อนพนัน แล้วขี่รถซาเล้งออกไปหาลูกชายและลูกสาวก่อนเกิดเหตุดังกล่าว พร้อมส่งศพไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวช จ.ขอนแก่น เพื่อสรุปสาเหตุนำมาประกอบการดำเนินคดี เนื่องจากทางญาติติดใจการเสียชีวิต




จากการสอบถาม นายณัฐนนท์ ลูกชายผู้เสียชีวิต พร้อมพาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบหาสาเหตุ ติดตามหาหลักฐานจากกล้องวงจรปิด ตามเส้นทางผ่านก่อนถึงจุดเกิดเหตุ พบว่า ก่อนเกิดเหตุ เซียนตี๋ ซึ่งญาติยอมรับว่าชอบเล่นพนัน เป็นเซียนพนันในพื้นที่ และมีอาชีพหลักช่วยครอบครัวขายสินค้าอาหารออนไลน์ แต่ไม่เคยมีประวัติเรื่องบาดหมางกับใครมาก่อน ได้พบไทม์ไลน์จุดแรก คือ ออกจากบ่อนการพนันแห่งหนึ่ง ในเขตเทศบาลตำบลนาแก เวลาประมาณ 19.40 น. วันที่ 4 มี.ค. ก่อนที่จะขี่รถจักรยานยนต์ซาเล้งมาหาลูกชายและลูกสาวในโรงยิมฟิตเนสแห่งหนึ่ง ในเขตเทศบาลตำบลนาแก ห่างกันประมาณไม่เกิน 10 นาที โดยมีภาพหลักฐานจากวงจรปิด


จากนั้นได้ขับรถจักรยานยนต์ซาเล้ง มุ่งหน้ากลับบ้านพักในพื้นที่ บ้านแก้ง หมู่ 2 ต.บ้านแก้ง อ.นาแก จ.นครพนม ระยะทางประมาณ 4-5 กิโลเมตร ผ่านถนนเขตเทศบาลตำบลนาแก แต่จุดพบร่างผู้ตาย กลับพบข้อพิรุธว่า เป็นเส้นทางนอกเหนือจากเส้นทางหลัก คล้ายมีการหนีออกนอกเส้นทางกลับบ้าน




โดยญาติเชื่อว่ามีคนติดตามไปทำร้าย ห่างจากบ้านพักประมาณ 2 กิโลเมตร ทั้งนี้แต่ละจุดเป็นช่วงเวลาห่างกันประมาณ 10 นาที เชื่อว่าคนร้ายฉวยโอกาสฆาตกรรมทำร้ายอำพรางคดี ในช่วงระหว่างเดินทาง และจัดฉากให้เชื่อว่าเกิดอุบัติเหตุ ส่วนปมสาเหตุความขัดแย้งทางญาติเชื่อว่า น่าจะมาจากขัดแย้งกลุ่มมาเฟียเงินกู้ รวมถึงวงการพนัน พร้อมเรียกร้องให้ตำรวจเร่งคลี่คลายคดีหาเบาะแสให้ได้รับความเป็นธรรม และติดตามจับกุมคนร้ายให้เร็วที่สุด




นอกจากนี้ นายณัฐนนท์ ลูกชายเซียนตี๋ ยังระบุอีกว่า ตนได้ติดตั้งระบบจีพีเอสในมือถือของพ่อ เนื่องจากให้พ่อช่วยงานธุรกิจเกี่ยวกับการส่งขายอาหารออนไลน์ จึงต้องการติดตามความเคลื่อนไหว เบื้องต้นยอมรับว่าพ่อเป็นเซียนพนัน แต่ไม่เคยสร้างปัญหาให้ครอบครัวและไม่ดื่มเหล้า ไม่เคยหาเรื่องใคร ยอมรับว่ามีบ้างเรื่องยืมเงินนอกระบบแต่เป็นเรื่องส่วนตัว ไม่เคยให้ครอบครัวเดือดร้อน


อย่างไรก็ตามหลักฐานสำคัญ ตนเชื่อว่าไทม์ไลน์ของพ่อจะเป็นเบาะแสสำคัญที่จะติดตามหาตัวคนร้ายที่ก่อเหตุ เพราะจุดที่พบร่างพ่อเป็นทางตัน และไม่ใช่เส้นทางกลับบ้านตามปกติ คล้ายมีการหนีเพราะถูกไล่ทำร้าย




ส่วนไทม์ไลน์ในช่วงระยะเวลา 30 นาที พบว่าเริ่มออกมาจากบ่อนพนันตรงข้ามกับโรงพัก สภ.นาแก ก่อนที่จะมาหาลูกเพื่อนำน้ำดื่มในร้านฟิตเนสไปส่งลูกค้า ตามหลักฐานภาพวงจรปิดหิ้วน้ำออกจากร้านเป็นช่วงเวลาประมาณ 19.40-20.00 น. จากนั้นได้ขี่รถจักรยานยนต์ซาเล้งมุ่งหน้ากลับบ้านระยะทางประมาณ 4-5 กิโลเมตร แต่ออกนอกเส้นทางไปยังทางตันจุดเกิดเหตุที่พบร่างเซียนตี๋ ในเวลาไล่เลี่ยกันประมาณ 10 นาที และรับแจ้งขอความช่วยเหลือประมาณ 20.30 น. วันที่ 4 มี.ค. โดยจะส่งให้ตำรวจเป็นหลักฐานสำคัญในการหาเบาะแส

เซียนพนัน "ตี๋ นาแก" ออกจากบ่อนข้างโรงพักตายปริศนาทิ้งถนน