"เศรษฐา" ลุย 3 จังหวัดชายแดนใต้วันแรก ตั้งเป้าส่งเสริมการท่องเที่ยว พัฒนาอาหารฮาลาล ดันปัตตานีเป็นเมืองมรดกโลก

 

ที่จังหวัดปัตตานี เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจราชการในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ จังหวัดปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ระหว่างวันที่ 27-29 กุมภาพันธ์ 2567 โดยนายกรัฐมนตรี และคณะสวมเสื้อผ้าปาเต๊ะ​สีเขียวลายชบาปัตตานี​ ซึ่งเป็นลายผ้าพระราชทาน​สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ในการลงพื้นที่จังหวัดปัตตานี เพื่อสักการะศาลหลักเมืองปัตตานี ก่อนเยี่ยมชมตลาดวิถีชุมชนพื้นบ้าน ซึ่งนายกรัฐมนตรี ระบุว่า มาที่นี่ชั่วโมงเดียวได้เห็น ได้ดู และได้รู้อะไรที่ไม่เคยรู้มาก่อน และตนมีหน้าที่ให้หน่วยงานของรัฐเข้าไปช่วยต่อยอดและฟื้นฟูจากสิ่งดีๆ ที่มีอยู่ ต่อมานายกรัฐมนตรีได้พบปะผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ และประชาชน ที่มัสยิดกรือเซะ โดยมีกลุ่มสตรีที่ขอให้ช่วยปรับปรุงสะพานตะลุโบะให้เสร็จ ในช่วงที่ดำรงตำแหน่ง ซึ่งนายกรัฐมนตรีรับปากว่า ไม่ใช่แค่ความหวัง แต่ทำเสร็จแน่นอน

จากนั้นนายกรัฐมนตรีเดินทางไปที่ บ้านขุนพิทักษ์รายา เพื่อเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวเมืองปัตตานี ประกอบด้วย บ้านเลขที่ 5 กือดาจีนอ , ตลาดวัฒนธรรมกือดาจีนอ , ตลาดซงจื่อ และสักการะศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว พร้อมชมการแสดงเชิดสิงโตบนเสาดอกเหมย และเยี่ยมชมมหกรรมท่องเที่ยวปัตตานีอาเซียน กตัญญูคู่ฟ้ามหาสมโภชเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวปัตตานี ประจำปี 2567 ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปยังมัสยิดกลาง อำเภอเมืองปัตตานี เพื่อพบปะคณะกรรมการอิสลามและคณะกรรมการมัสยิด พร้อมเยี่ยมชมมัสยิดกลาง

นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ฝากให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมถึงผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โปรโมตขนมพื้นถิ่นของปัตตานีให้นักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้รู้จัก โดยเสนอให้นำ เมี่ยงคำสมุนไพร ไปเป็นออร์เดิร์ฟบนเครื่องบินการบินไทย ทั้งแบบสดและแบบปรุงสุก ซึ่งแบบปรุงสุกสามารถเก็บไว้รับประทานได้ 1-2 เดือน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดเส้นทางมีการรักษาความปลอดภัยเข้มงวด ช่วงที่นายกรัฐมนตรีโดยสารด้วยเครื่องบินมาจังหวัดสงขลา มีเฮลิคอปเตอร์บินประกบเพื่อรักษาความปลอดภัย จากนั้นนายกรัฐมนตรีเดินทางต่อด้วยรถยนต์กันกระสุน โดยตลอดเส้นทางที่นายกรัฐมนตรีปฏิบัติภารกิจ มีรถตัดสัญญาณ รถรักษาความปลอดภัย และเจ้าหน้าที่ยืนประจำจุดตลอดเส้นทาง