หนุ่มหลอนยา ขังเมียในห้องพักก่อนกระทืบจนใบหน้าบวมช้ำ จนต้องร้องขอให้ลูกชายช่วยเรียกรถพยาบาลและตำรวจมาช่วยเหลือ

 

ทีมข่าวลงพื้นที่ซอยสามัคคี 49 แยก 2 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี  ไปยังจุดเกิดเหตุพูดคุยกับเป็นห้องเช่า 2 ชั้น ไม่มีชื่อ

 

ทีมข่าวได้พูดคุยกับ น.ส.ศศินา อายุ 49 ปี ผู้บาดเจ็บให้ข้อมูลว่า ตัวเองได้คบกับนายสุเทพ อายุ 32 ปีผู้ก่อเหตุมาประมาณปีกว่าๆ โดยพื้นเพแล้วนายสุเทพเป็นคนบุรีรัมย์แต่มาอาศัยอยู่ในบริเวณแถวนี้โดยตัวเองและนายสุเทพพบเจอกันในตอนที่ตัวเองขายของบริเวณหน้าโรงเรียนแห่งหนึ่งโดยนายสุเทพประกอบอาชีพเป็นช่างทั่วไปจากนั้นจะได้มีการพูดคุยและตกลงย้ายมาอยู่ด้วยกันที่บ้านของตัวเอง 

 

ในตอนแรกที่พูดคุยกันนายสุเทพก็ไม่ได้เสพยาบ้า แต่เมื่อมาอยู่ด้วยกัน นายสุเทพก็เริ่มเสพยาบ้าให้ตัวเองเห็น โดยนายสุเทพจะเล่นยาอยู่ภายในห้องตัวเอง ตัวเองก็เคยได้ตักเตือนนายสุเทพไปแล้วว่าถ้าเล่นยาก็ไม่ต้องเล่นเยอะแต่เนื่องด้วยในปัจจุบันนี้ยาบ้านั้นราคาถูกลงเงิน 100 บาทได้ยาบ้ามา 3-4 เม็ดทำให้นายสุเทพซื้อยาได้ปริมาณเยอะขึ้นและเริ่มเสพยาเยอะขึ้นจนหลอน

 

ตั้งแต่ตัวเองเห็นนายสุเทพเสพยาตัวเองก็ตัดสินใจว่าจะไม่คบกับนายสุเทพต่อแต่ว่าตัวเองไล่นายสุเทพออกไปจากห้องของตัวเองนายสุเทพก็ไม่ยอมย้ายออกไป เนื่องจากนายสุเทพได้ที่อยู่ที่กินแล้วงานก็ไม่ต้องทำและก็สบายขึ้นก็ไม่อยากจะไปไหนแล้ว โดยนายสุเทพก็จะใช้จ่ายด้วยเงินของตัวเองแต่ภายหลังนั้นนายสุเทพเริ่มไปวุ่นวายที่ร้านขายของของตัวเอง โดยเอาอาวุธมีดไปยืนถือและเดินไปเดินมา บางครั้งลูกค้ามาซื้อของนายสุเทพก็เอามีดเคาะรถเข็นเพื่อข่มขู่ลูกค้าจนระยะหลังลูกค้าหายไปหมด จนตัวเองเริ่มขายของไม่ได้ ซึ่งนายสุเทพเริ่มมีอาการหลอนหนักตั้งแต่ช่วงประมาณเดือนธันวาปี 2566 ที่ผ่านมา โดยล่าสุดนายสุเทพก็ถูกกลุ่มวัยรุ่นรุมทำร้ายและใช้อาวุธมีดฟันแขนมาเมื่อช่วงประมาณกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา และนายสุเทพก็คิดว่าตัวเองเป็นคนว่าจ้างให้กลุ่มวัยรุ่นมาทำร้ายนายสุเทพ

 

ส่วนช่วงวันเกิดเหตุที่ผ่านมานั้นนายสุเทพได้กักขังตัวเองมาตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์แล้วโดยไม่ยอมให้ออกจากห้อง จะออกมาก็ได้แค่ช่วงตอนเย็นที่นายสุเทพพาตัวเองออกมาซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเข้ามาต้มกินภายในห้อง

 

ส่วนยาเสพติดนั้นก็จะมีคนมาส่งให้นายสุเทพครั้งละ 2-3 เม็ด ต่อหนึ่งรอบโดยหนึ่งวันนายสุเทพจะสั่งยาเสพติดมาเสพประมาณ 3 รอบใช้เงินไปกับค่าเสพยาเสพติดวันละประมาณ 300 ถึง 400 บาท

 

โดยในระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์ถึงวันที่ 12 กุมภาพันธ์นายสุเทพได้ลงมือทำร้ายตัวเองประมาณ 2 ครั้งด้วยการเตะพร้อมกับเอาอาวุธมีดมาจี้ที่บริเวณลำคอจากนั้นเมื่อวันที่ 12 และ 13 กุมภาพันธ์นายสุเทพเริ่มมีการทำร้ายตัวเองรุนแรงขึ้นโดยเริ่มเตะและใช้ไม้ทุบตีเข้ามาที่ใบหน้าและศีรษะของตน

 

ตนจึงพยายามให้ลูกชายโทรศัพท์หาเบอร์ 1669 เพื่อให้เจ้าหน้าที่มารับไปโรงพยาบาล โดยตัวเองคิดว่าจะหลบนายสุเทพไปนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลสักหนึ่งถึงสองวันเพื่อไม่ให้นายสุเทพทำร้ายร่างกายได้

 

เมื่อเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์มาถึงนายสุเทพก็โวยวายและไม่ยอมให้ตัวเองไปโรงพยาบาลซึ่งตัวเองก็ไม่ทราบว่าเป็นทางด้านลูกชายหรือเจ้าหน้าที่กู้ภัยโทรไปตามตำรวจ ทำให้มีตำรวจเดินทางมาช่วยตัวเองกันแทบจะหมดโรงพักซึ่งตามปกติแล้วที่ผ่านมาก็จะมีแค่สายตรวจมาระงับเหตุเฉยๆ

 

ที่ผ่านมาระหว่างที่คบนายสุเทพอยู่ประมาณเดือนตุลาคม 2566 นายสุเทพได้เริ่มเสพยาและไม่ไปทำงานจากนั้นนายสุเทพก็เริ่มหันมาใช้เงินของตัวเองแต่ในช่วงนั้นยาบ้ายังคงมีราคาแพงอยู่โดยมีราคา 2 เม็ด 160 บาทนายสุเทพก็เสพยาวันละสี่เม็ดซึ่งตัวเองก็ต้องให้เงินนายสุเทพทุกวัน วันละ 300 กว่าบาท โดยยังไม่รวมค่ากินต่างๆซึ่งตัวเองก็ต้องทยอยใช้เงินเก็บออกมาเรื่อยๆ

 

ซึ่งสาเหตุที่ตัวเองไม่ตัดสินใจแจ้งความหรือหนีออกไปเพราะว่าที่แห่งนี้เป็นบ้านของตัวเองและนายสุเทพเป็นคนนอกที่มาอาศัยอยู่ซึ่งตัวเองก็ไม่รู้ว่าจะหนีไปไหนส่วนสาเหตุที่ทั้งสองฝ่ายไม่มีการเลิกรากันนั้นตัวเองอยากบอกว่าเป็นฝ่ายของนายสุเทพเองที่ไม่ยอมเลิกเนื่องจากนายสุเทพสามารถเกาะและอาศัยอยู่กับตัวเองได้ จึงไม่ยอมไปไหนถ้าถามว่าตัวเองอยากเลิกไหมตัวเองอยากเลิกกับนายสุเทพตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566 เนื่องจากนายสุเทพเริ่มมีการเสพยามาตั้งแต่ช่วงนั้น

 

ซึ่งที่ผ่านมาตัวเองก็กลัวว่านายสุเทพจะคลุ้มคลั่งจนลงมือทำร้ายตัวเองจนเสียชีวิตซึ่งตัวเองก็ได้แจ้งไปยังตำรวจในพื้นที่แต่ตำรวจก็ทำได้เพียงแค่ส่งสายตรวจมาระงับเหตุ

 

ล่าสุดที่ตัวเองได้ไปโรงพยาบาลมาเมื่อคืนนี้ทางแพทย์ก็ได้เอกซเรย์ในทุกจุดที่มีรอยฟกช้ำตั้งแต่ศีรษะลำตัวและช่วงแขนแต่โชคดีที่ไม่พบร่องรอยกระดูกแตกหรือหักแต่อย่างใดจากนั้นตัวเองได้ไปพบตำรวจซึ่งตัวเองแจ้งความประสงค์ว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดแต่ทางตำรวจทำแค่ลงบันทึกประจำวันไว้ให้ตัวเองเฉยๆ ซึ่งล่าสุดวันนี้ตำรวจก็ได้ปล่อยตัวนายสุเทพออกมาแล้ว และแจ้งว่าตัวนายสุเทพจะต้องเข้าโครงการบำบัดยาเสพติดซึ่งตัวเองก็ไม่เข้าใจว่าในอนาคตเจ้าหน้าที่จะมีวิธีการปฏิบัติอย่างไรกับนายสุเทพ ซึ่งตัวเองก็มีความหวาดกลัวว่านายสุเทพอาจจะย้อนกลับมาทำร้ายตัวเองและลูกชายจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ ตัวเองจึงอยากฝากให้ตำรวจช่วยทำอย่างไรก็ได้ ให้นายสุเทพไม่เข้ามาวุ่นวายกับชีวิตตัวเองกับลูกชายอีก

 

ต่อมาทีมข่าวได้พูดคุยกับน้องอาร์ต ได้เล่าให้ทีมข่าวฟังว่านายสุเทพชอบทำร้ายตบตีแม่ ตนเลยแอบโทรหาตำรวจเพื่อมาช่วยแม่ เพราะตนช่วยอะไรมากไม่ได้เพราะนายสุเทพแรงเยอะ ตนรู้สึกกลัวมาก

 

โดยหลังจากนั้นทีมข่าวจึงทราบข้อมูลมาว่า หลังจากที่นายสุเทพ อายุ 32 ปี ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุนั้นได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวไปในช่วงเมื่อคืนที่ผ่านมาและหลังจากนั้น จึงได้ถูกปล่อยตัวเนื่องจากเป็นเพียงแค่ผู้เสพซึ่งตามกฎหมายถือเป็นผู้ป่วยจึงจะต้องถูกส่งบำบัดเพียงเท่านั้น โดยหลังจากถูกปล่อยตัวได้กลับมาอยู่ที่บ้าน ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านเช่าจุดเกิดเหตุประมาณ 2 กิโลเมตร ซึ่งบ้านหลังนี้เป็นบ้านของแม่นายสุเทพ โดยเมื่อทีมข่าวเดินทางถึงได้พบว่านายสุเทพได้นอนอยู่บริเวณบริเวณใต้ถุนบ้าน ทีมขาวจึงขอเข้าไปพูดคุยโดยนายสุเทพได้เล่าให้กับทีมข่าวฟังว่า

 

“ โดยจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากความหึงหวงส่วนตัว ของตนเอง เนื่องจากตนเองระแวงว่า น.ส.ศศินา จะมีคนอื่น จะแอบคุยกับคนอื่นแล้วจะแอบไปนอนกับคนอื่น และในเรื่องที่ว่าตนกักขัง น.ส.ศศินา มากว่าครึ่งเดือนนั้น ในเรื่องนี้ตนไม่ได้กักขังเพียงแต่ให้อยู่อยู่ด้วยกัน โดยไม่ให้ไปขายของ เพราะการที่ น.ส.ศศินา ไปขายของก็ทำให้ตนระแวงว่าจะไปพบกับผู้ชายคนอื่น และเมื่อตนโทรไปคุยตนก็ได้ยินเสียงว่าเสียงไม่ใช่ที่บริเวณที่ น.ส.ศศินา ไปขายของแต่เป็นที่อื่นเพราะตนจำเสียงบริเวณนั้นได้

 

ด้วยสาเหตุดังกล่าวจึงทำให้ตนต้องทำร้าย  น.ส.ศศินา อีกทั้งเพราะ น.ส.ศศินา บีบบังคับให้ตนทำเช่นนี้ ในส่วนเรื่องของการใช้ยาเสพติดตนยอมรับว่าตนใช้ยาเสพติดจริง แต่ใช้เพียงวันละ 3-4 เท่านั้น ซึ่งตนคิดว่ามันไม่ได้ติดอะไรเพียงแค่ลองใช้เพียงแค่ ลองใช้เพียงเท่านั้น  และหลังจากนี้ตนยืนยันว่าจะไม่กลับไปคบหากับ น.ส.ศศินา อีก และจะไม่ไปใช้ยาเสพติดอีก โดยจะกลับตัวเป็นคนใหม่และอาจจะกลับไปทำงานที่บ้านเกิดที่จังหวัดบุรีรัมย์

 

ในส่วนแผลที่แขนของตนนั้นก็เกิดจากที่ถูกวัยรุ่นรุมทำร้ายโดยใช้มีดฟันซึ่งตนก็ไม่เคยรู้จักมาก่อน  และยังคิดว่าจะเป็นเพราะเหตุจาก น.ส.ศศินา ไปมีชู้หรือคบหากับคนอื่นหรือไม่จึงทำให้ตนถูกทำร้าย ทั้งนี้ตนยืนยันว่าไม่ได้ตั้งใจอยากจะทำแบบนี้แต่ถูกกดดันจาก น.ส.ศศินา จึงให้ต้องทำร้ายร่างกาย จนเป็นเหตุดังกล่าวที่เกิดขึ้น”

ลูกเมียผวา ผัวเมายา ตร.ไม่จับอ้างกฎใหม่แค่ 4 เม็ด โชว์หน้าเละต้องเป็นฝ่ายหนีเอง