จากกรณีที่ นายธนาธิป อายุ 31 ปี ได้ถูกฆาตกรรม ด้วยการใช้อาวุธมีดแทงจำนวนหลายครั้ง ที่บริเวณถนนทุ่งกลม - ตาลหมัน ซอย 10 พื้นที่ สภ.ห้วยใหญ่ และหลังจากนั้นผู้ก่อเหตุได้นำร่างร่างของนายธนาธิป ขึ้นรถของเขาเอง นำไปเผานั่งยางอำพรางศพ ที่บริเวณทางขึ้นเขาวัดถ้ำประทุน พื้นที่ สภ.บางละมุง ซึ่งอยู่ห่างจากจุดแทงประมาณ 18 กิโลเมตร

 

หลังจากนั้น เมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรภาค 2 ได้จับตัวผู้ก่อเหตุทั้งสองคนได้ทราบต่อมา คือ นายวา และ น.ส.รมิสตา โดยสาเหตุคือ ในที่เกิดเหตุได้เรียกใช้บริการโบวล์ (Bolt) ซึ่งผู้เสียชีวิตก็ได้ขับรถมารับไปส่งยังจุดหมาย แต่เมื่อถึงจุดหมายแล้วนายวา และ น.ส.รมิสตา ไม่มีเงินจ่าย ผู้เสียชีวิตจึงโวยวาย นายวาจึงได้ลงมือใช้มีดแทงนายธนาธิป และหลังจากนั้นก็ได้นำศพไว้บนรถ และได้โทรไปปรึกษาแม่ของเขาเพื่อให้ช่วยแก้ปัญหา หลังจากนั้นได้เข้าไปซื้อน้ำมันที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง และขโมยยางรถจักรยานยนต์ที่ร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ และได้นำขึ้นไปก่อเหตุเผาบริเวณทางขึ้นวัดถ้ำเขาประทุน

จากนั้น จึงได้นำรถของผู้เสียชีวิตไปขายให้กับหญิงคนหนึ่ง ชื่อโบว์ ก่อนที่จะ หลบหนีขึ้นรถโดยสารมายังหมอชิตเพื่อนั่งรถไปยังจังหวัดพิษณุโลก ซึ่งเป็นภูมิลำเนาของนายวา แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรภาค 2 ได้ติดตามจับกุมตัวไว้ได้ โดยหลังจากนี้ก็จะสอบสวนเพิ่มเติมถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง

 

เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธ เป็นเหตุให้ผู้นถึงแก่ความตาย โดยไม่มีเหตุอันสมควร ทำให้เสียหายเคลื่อนย้าย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพเพื่อปิดบังการตาย โดยในตอนนี้อยู่ระหว่างนำตัวจากจังหวัดพิษณุโลก กลับมาสอบสวนที่ สภ.หนองปรือ จังหวัดชลบุรี

ทีมข่าวจึงได้ลงพื้นที่ไปยังบริเวณจุดที่เป็นจุดเกิดเหตุที่นายธนาธิปถูกแทงเสียชีวิต ซึ่งอยู่ภายในซอยทุ่งกลม - ตาลหมัน ซอย10 แล้วได้ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่บริเวณดังกล่าว จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่อยู่บริเวณตลาดหน้าปากซอย จึงได้ภาพวงจรปิดที่มีการเคลื่อนไหวของรถยาริสสีขาว ซึ่งเป็นรถของผู้เสียชีวิต

จะเห็นภาพรถยาริสสีขาวของผู้ตาย แต่คาดว่าในเวลานี้ผู้ตายเสียชีวิตแล้ว และถูกซ่อนศพในรถ และขับมาจอดที่บริเวณลาดจอดรถของร้านสะดวกซื้อ ในคืนวันที่ 12 มกราคม 2567 ประมาณ 22.15 น.

 

ต่อมา ทางด้านคนร้ายขับรถของผู้ตายออกมา กำลังจะเลี้ยวรถปรากฏว่าเกิดอุบัติเหตุชนกับมอเตอร์ไซค์พอดี ทำให้ขับรถต่อไปไม่ได้ หลังจากนั้นจะเห็นคนขับลงมาจากรถ ซึ่งไม่ใช่ผู้ตาย

 

ต่อมาภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณ ตลาดทุ่งกลม ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง ห่างจากจุดเกิดเหตุ ประมาณ 800 เมตร ช่วงเวลา 03.42 น. ของเกิดเหตุ จะเห็นรถเก๋งสีขาว (คล้ายรถของผู้เสียชีวิต) ขับมาบริเวณ ถนนทุ่งกลม - ตาลหมัน 10  โดยจะเห็นพฤติกรรมของคนขับรถเก๋งสีขาว ซึ่งคนที่ขับรถไม่ใช่ผู้เสียชีวิตแต่เป็นคนก่อเหตุ  มีลักษณะขับรถเก้ๆ กังๆ ลักษณะจะตรงไปแต่ก็เปลี่ยนใจคล้ายจะกลับรถเลี้ยว แต่ก็เปลี่ยนใจอีก ด้วยการเลี้ยวเข้าซอยโครงการขุดลอกอ่างเก็บน้ำชากนอก ก่อนไปยังจุดที่คนก่อเหตุแทงร่างผู้เสียชีวิต

ภาพจากกล้องวงจรปิดมุมเดียวกัน ต่อมาช่วงเวลา 03.55 น. เป็นช่วงที่คนก่อเหตุออกมาจากจุดที่แทงร่างผู้เสียชีวิต โดยใช้เวลาก่อเหตุทั้งหมดประมาณ 13 นาที ซึ่งในเวลา 13 นาทีนี้ คนก่อเหตุขับรถออกมา ก็ได้เลี้ยวรถไปยังจุดแทงอีกครั้ง เพื่อไปเก็บมีดที่ก่อเหตุ ก่อนหนีออกมาจากซอยที่ก่อเหตุประมาณ 03.55 น. แล้วเชื่อว่ามุ่งหน้าไปยังจุดที่เผานั่งยาง

กล้องวงจรปิดมุมเดิม จับภาพรถยนต์ต้องสงสัยขับขี่ผ่านบริเวณจุดที่มีการแทงกัน ช่วงเวลา 03.59 น. มาถึงตลาดดังกล่าว ก่อนจะค่อยๆ เลี้ยวซ้าย หลุดมุมกล้องไป ซึ่งช่วงเวลานี้คาดว่า เกิดเหตุแทงกันเกิดขึ้นแล้ว

ภาพจากกล้องวงจรปิดมุมเดิม นาทีที่ 04.03 น. พบพฤติกรรมมีพิรุธของรถยนต์สีดำกับรถยนต์คันหนึ่ง ลักษณะคล้ายกับรถกระบะ โดยรถทั้งสองคันขับสวนกันมา มีจังหวะที่ทั้งสองคันกระพริบไฟใส่กัน 2 ครั้ง แล้วรถยนต์สีดำก็เลี้ยวซ้ายเข้าจุดเกิดเหตุ แต่จะสังเกตเห็นได้ว่า เมื่อเลี้ยวเข้ามาแล้ว รถยนต์คันสีดำปิดไฟหน้าลง ทั้งที่ซอยดังกล่าวทั้งมืดและเปลี่ยว

 

จากนั้นรถคันสีขาวขับมุ่งหน้าไปยังเส้นทางที่จะไปวัดถ้ำประทุน โดยวิ่งไปบนถนนทุ่งกลม - ตาลหมัน ห่างจากจุดแทงประมาณ 1 กิโลเมตร ซึ่งภาพวงจรปิดสามารถจับไว้ได้ จากนั้นจึงได้กลับรถกลับมายังที่เกิดเหตุอีก

จากนั้น กล้องมุมเดิม เวลาขยับออกไป 04.06 น. รถยนต์สีขาวคันเดิมขับวนมาจากอีกทาง (ฝั่งมุมขวาของจอ) ซึ่งรอบนี้ขับมาช้าๆ ตามภาพ ซึ่งเส้นทางที่ขับมานั้นสามารถไปยังจุดที่เผานั่งยางได้ แต่ก็เป็นไปได้ยากที่เวลาผ่านไปแค่ไม่ถึง 10 นาที (จากกล้องตัวแรก) จะเผาร่างคนได้รวดเร็วขนาดนั้น ตำรวจจึงคาดว่า ช่วงเวลานี้ ผู้ตายคงยังอยู่กับทั้งคนขับและพวกอีก 1 คน ซึ่งน่าสงสัยว่า อาจกำลังวนหาที่เพื่อวางแผนอำพรางศพ

 

ภาพจากกล้องวงจรปิดอีกมุม นาทีที่ 04.07 น. จับภาพรถยนต์คันสีขาวดังกล่าวขับเข้าซอยจุดเกิดเหตุมาอีกครั้ง

หลักฐานสำคัญอีกอย่างหนึ่ง คือ มีภาพแม่ของผู้ก่อเหตุซื้อน้ำมันที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง เวลา 03.55 น.

 

ล่าสุด เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ตำรวจชุดสืบสวนภาค 2 พร้อมด้วยตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) ได้เข้าตรวจสอบห้องพักของอพาร์ตเมนต์ ย่านซอยหนองใหญ่ ใกล้กับบ่อบำบัดน้ำเสียของเมืองพัทยา ม.11 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นห้องพักของผู้ก่อเหตุพบเสื้อและกางเกงเปื้อนเลือด ซึ่งสวมใส่ในวันเกิดเหตุ ตำรวจจึงยึดไว้เป็นหลักฐาน

 

ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยสอบถามกับลุงเปา (นามสมมติ) อายุ 52 ปี พยานปากเอกที่พบเห็นเหตุการณ์ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ช่วงเวลา ประมาณ 04.00 น. ของคืนเกิดเหตุ ตนตื่นแต่เช้า ได้ยินเสียงรถยนต์ขับมาจอดที่บริเวณหน้าบ้าน หมาในบ้านก็เห่าเสียงดัง ตนจึงเดินออกไปดูพบเห็นคนทะเลาะกัน เห็นนายธนาธิป ตะโกนร้องขอความช่วยเหลือด้วยความเจ็บปวด ตนแอบซุ่มดูอยู่ตรงพุ่มไม้ภายในบ้าน เห็นคนลักษณะคล้ายผู้หญิง สูงประมาณ 160 ซม. รูปร่างท้วม ผมบ็อบ กำลังใช้อาวุธมีดจ้วงแทงนายธนาธิป

ตนรีบวิ่งเข้าไปบอกกับภรรยาว่า มีคนกำลังจะฆ่ากันตาย บอกให้ภรรยาหลบอยู่แต่ภายในบ้าน แล้วตนก็ออกไปซุ่มดูเหตุการณ์อีกครั้ง ครั้งนี้เห็นนายธนาธิปพยายามวิ่งหนีไปที่กลางถนน แล้วหญิงคนดังกล่าวก็ตามไปแทงซ้ำ ปล่อยนายธนาธิปนอนจมกองเลือดอยู่พักหนึ่ง ก่อนลากตัวนายธนาธิปไปขึ้นรถยาริสสีขาว จังหวะที่กำลังจะลากขึ้นรถนั้น ตนรีบวิ่งไปหยิบโทรศัพท์มือถือเพื่อที่จะถ่ายภาพบันทึกเหตุการณ์เอาไว้ แต่เมื่อตนออกมาอีกครั้งปรากฏว่ารถคันดังกล่าวขับออกไปแล้ว

 

ต่อมาประมาณ 15 นาที เห็นรถคันเดิมขับมายังจุดเกิดเหตุอีกครั้ง โดยขับมาจอดอยู่หน้าบ้านตน แต่ครั้งนี้คนที่ลงมาจากรถคือชายคนขับ หน้าตาดี รูปร่างผอม ลงมาส่องไฟโทรศัพท์มือถือหาอาวุธมีดที่ทำตกไว้ที่พื้น ซึ่งมีดดังกล่าวตนเตะทิ้งไปแล้ว ครั้งนี้ตนเปิดไฟในบ้านเอาไว้ให้สว่างจ้า พร้อมกับตะโกนถามชายคนดังกล่าวว่า เมื่อกี้มีอะไรกัน ชายคนดังกล่าวจึงตกใจรีบวิ่งขึ้นรถ ขับออกไปประมาณ 1 นาที แล้วก็ตีโค้งกลับมาด้อมๆ มองๆ ที่หน้าบ้าน แล้วก็ขับออกไปเลย

ยืนยันว่าเหตุการณ์นี้ มีแค่รถยาริสสีขาวที่เกี่ยวข้อง ไม่มีรถคันอื่นเพิ่มเติม อีกทั้งช่วงเวลาดังกล่าวก็ไม่มีใครขับรถผ่านมาเลยสักคัน ตนจึงไม่กล้าตะโกนขอความช่วยเหลือจากพลเมืองดี

หลังเหตุการณ์ ตำรวจได้ขอความร่วมมือให้ตนกับภรรยาไปหลบอาศัยอยู่ที่อื่นเงียบๆ เนื่องจากกังวลความปลอดภัย กลัวจะถูกคนร้ายที่ยังหลบหนีวนกลับมาทำร้าย กำชับว่าห้ามกลับมาที่บ้านจนกว่าคดีนี้จะสิ้นสุด แต่ถ้าให้ตนทำเช่นนั้นคงจะไม่ไหว เนื่องจากตนเป็นห่วงไก่ที่เลี้ยงเอาไว้หลายตัวในเล้า สุดท้ายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนเชื่อว่า คนร้ายคิดว่าบ้านตนเป็นบ้านร้างจึงขับมาก่อเหตุบริเวณนี้

เดนคน 2 ผัวเมียรวมหัวเผานั่งยางหนุ่มขับโบลท์ อ้างไม่มีเงินจ่าย ตะลึงแม่ช่วยซื้อน้ำมัน