จากกรณีการเสียชีวิตของนางสาวบัวผัน ซึ่งตอนแรกตำรวจได้ควบคุมตัวนายปัญญา สามีของผู้ตาย ในฐานะผู้ต้องหาและพาตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพตั้งแต่เมื่อวานนี้ (13 ม.ค.67)

กระทั่งล่าสุด ทีมข่าวช่อง 8 ไปได้วงจรปิดพลิกคดีมา ซึ่งจับภาพกลุ่มวัยรุ่น 5 คน อายุระหว่าง 13-16 ปี ประกอบด้วย 1.นายบิ๊ก อายุ 16 ปี 2.ด.ช.โก๊ะ อายุ 14 ปี 3.ด.ช.เชน อายุ 14 ปี  4.ด.ช.กัส อายุ 13 ปี และ 5.ด.ช.แบงค์ อายุ 13 ปี โดยทั้งหมดใช้ยานพาหนะเป็นรถจักรยานยนต์ จำนวน 2 คัน คือ รถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ 110 I สีน้ำเงิน  และรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ 125 I สีแดง ในการก่อเหตุ โดยตำรวจควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งห้าคนได้ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา

 

ตั้งแต่เวลา 12:00 น. ของวันนี้เจ้าหน้าที่กู้ภัยอรัญประเทศ ได้งมหาหลักฐานตามคำให้การของกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุ ซึ่งคาดว่าหลักฐานที่เจ้าที่งมหายน่าจะเป็นเก้าอี้ที่ใช้ก่อเหตุตีหัวของนางสาวบัวผันเปื้อนเลือด โดยถึงเวลา 19:55 น. ยังไม่เจอหลักฐานอะไรเพิ่มเติมแต่อย่างใด ในวันพรุ่งนี้ เจ้าที่กู้ภัยจะมีการหาหลักฐานในบ่อดังกล่าวต่อไป

 

ผกก. สภ. อรัญประเทศ เผย พร้อมให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ยันตำรวจในโรงพัก ที่เป็นพ่อของหนึ่งผู้ก่อเหตุ ไม่ได้เข้าไปยุ่งยากพยานหลักฐานแน่นอน ส่วนนายปัญญาผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ ถือเป็นผู้บริสุทธิ์แล้ว

ด้าน พ.ต.อ.พิเชษฐ์ ศรีจันทร์ตรา ผกก.สภ. อรัญประเทศ ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวว่า คดีนี้ถือว่านายปัญญา ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมตัวในตอนแรกนั้น เขาเป็นผู้บริสุทธิ์แล้ว ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (จันทร์ 15 มกราคม 2567) ตำรวจจะไปทำเรื่องถอนฟ้องและนำตัวนายปัญญา มาสอบสวนอีกครั้งว่า ทำไมตอนแรกถึงได้สารภาพกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแบบนั้น

โดยทางตำรวจยืนยันว่า กรณีที่หนึ่งในผู้ก่อเหตุมีลูกของ สืบสวนใน สภ.อรัญประเทศนั้น ตำรวจนายดังกล่าวไม่ได้เข้ามาแทรกแซงในคดี หรือยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานแน่นอน และคดีนี้พร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

คุณณัฐดนัย นะราช ผู้สื่อข่าวช่อง 8 ที่เปิดเผยกล้องวงจรปิดในคดีนี้ บอกว่า คดีนี้ติดตามตั้งแต่วันแรก เจอศพ 12 มกราคม 2567 โดยช่วงค่ำของวันนั้น ตำรวจตำรวจได้ควบคุมผู้ต้องสงสัยคือนายปัญญา ซึ่งเมื่อเข้าไปสอบถามนายปัญญาว่า ได้เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของหรือไม่ แต่นายปัญญาก็มีลักษณะซึมๆ เหมือนคนเมา

กระทั่งเวลา 08.00 น. เมื่อวานนี้ ที่ตำรวจมีการคุมตัวนายปัญญา ผู้ต้องหา ไปทำแผน ทีมข่าวพบพิรุธหลายอย่าง อาทิ ตอนทำแผน นายปัญญาบอกว่าทิ้งศพผู้ตายแล้ว เจ้าตัวได้ถอดเสื้อ แล้วนำเสื้อไปทิ้งลงถังขยะด้านหลังโรงเรียน ในเวลาประมาณ 04.00 น. ถึงเวลา 05.00 น. วันที่ 11 มกราคม 2567 แต่ปรากฏว่า ทีมข่าวช่อง 8 ได้ไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดตรงข้ามถังขยะจุดที่นายปัญญาอ้างว่าทิ้งหลักฐาน ซึ่งจากการตรวจสอบตามช่วงเวลาที่นายปัญญาอ้าง และช่วงเวลาอื่นๆ เผื่อจากเวลานี้ ไล่กล้องวงจรปิดตรงข้ามจุดทิ้งหลักฐาน ก็ไม่ปรากฏเห็นนายปัญญามาทิ้งหลักฐานที่จุดดังกล่าวเลย ซึ่งทีมข่าวได้ตั้งคำถามว่า สิ่งที่นายปัญญาให้การในบรรยากาศตอนทำแผนนั้นเป็นความจริงหรือไม่

 

จากนั้นทีมข่าวได้ย้อนกลับมาที่จุดเกิดเหตุจุดแรก บริเวณด้านหน้าโรงพยาบาลอรัญประเทศ ซึ่งเป็นจุดที่นายปัญญาได้ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ตามเหตุการณ์ที่อ้างว่าได้ขอเงินกับผู้เสียชีวิต และมีปากเสียงกับผู้เสียชีวิตที่จุดนี้ ก่อนที่จะเดินทะเลาะกันเข้าไปในโรงเรียนแห่งหนึ่ง ทีมข่าวก็ได้มาตรวจสอบกล้องวงจรปิดในจุดนี้อีกเช่นกัน จากการตรวจสอบตั้งแต่เวลา 00.00 น. วันที่ 11 มกราคม 2567 ถึง 06.00 น วันเดียวกัน ทีมข่าวไม่เจอภาพนายปัญญามีปากเสียงกับนางสาวบัวผันตามคำให้การแต่อย่างใด

แต่ทีมข่าวกลับไปเจอภาพกลุ่มวัยรุ่นที่รุมทำร้ายนางสาวบัวผัน ก่อนที่จะนำร่างนางสาวบัวผันขึ้นท้ายรถมอเตอร์ไซต์แล้วขี่มุ่งหน้าไปบ่อน้ำจุดทิ้งศพ ทำให้ทีมข่าวเริ่มตั้งประเด็นขึ้นมาในหัวว่า นายปัญญาอาจเป็นแพะในคดีนี้หรือไม่ จนได้เป็นการรวบรวมกล้องวงจรปิด และนำเสนอตามที่เป็นข่าว

นอกจากนี้ ช่วงก่อนจะฝากขัง คุณณัฐดนัยเอง ก็ได้ไปนั่งคุยสอบถามข้อมูลกับนายปัญญา เพื่อถามเกี่ยวกับเหตุการณ์และพฤติการณ์ในคดี แต่ตอนที่สอบถามข้อมูลนอกรอบพบว่าในปัญญาให้ข้อมูลไม่ตรงกับตอนที่ทำแผน อาทิ จุดที่ตี และจำนวนครั้งในการตี ไม่ตรงกับสิ่งที่ให้การตำรวจ ซึ่งประเด็นนี้ก็ทำให้ทีมข่าวเกิดความสงสัยในตัวของนายปัญญาเช่นกัน

ซึ่งการไขคดีดังกล่าวคุณณัฐดนัย ยังบอกอีกว่า ทำคดีนี้ต้องขอขอบคุณทีมงานช่างภาพ และผู้ช่วยช่างภาพ ที่ร่วมกันหาหลักฐาน จนคดีคลี่คลาย

 

นางสาวฟ้า นามสมมติชาวบ้านใกล้จุดที่นางสาวบัวผันหลับนอน (จุดเกิดเหตุ) บอกกับทีมเขาอีกว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่กลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนี้มาก่อเหตุทำร้ายร่างกายป้าบัวผัน แต่เมื่อหนึ่งเดือนที่ผ่านมากลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนี้ยังเคยแอบมาเผาเสื้อผ้าและที่นอนของป้าบัวผันแล้วหนึ่งครั้ง จนตัวเองที่ทำงานอยู่แถวนั้นต้องมาเป็นคนดับไฟให้ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าวัยรุ่นกลุ่มนี้และป้าบัวผันมีปัญหาอะไรกันแต่ยอมรับว่าป้าบัวผัน จะชอบด่ากลุ่มวัยรุ่นเวลาขับรถผ่านไปมา

ทีมข่าวเดินทางตลาดอรัญประเทศ ได้พูดคุยกับนางเขียว นามสมมติ แม่ค้าในตลาด ให้สัมภาษณ์ว่า โดยส่วนตัวรู้จักนายโก๊ะ หนึ่งในผู้ต้องหา เนื่องจากเค้ามีวีรกรรมชอบขโมยของ แม่ค้าในตลาดอรัญประเทศหลายครั้ง และเขาก็เป็นเด็กที่ซน แต่ก็ไม่คิดว่าเค้าจะถึงขั้นมาก่อเหตุฆ่านางสาวบัวผันได้ถึงขนาดนี้ เพราะจากที่ตัวเองดูกล้องวงจรปิด ยอมรับว่ารับไม่ได้กับพฤติกรรมของกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนี้เป็นอย่างมาก

 

โดยส่วนตัวสงสัยคดีนี้ตั้งแต่แรกว่ามีพิรุธหลายอย่าง ว่าจะมีการจับแพะ สุดท้ายก็มาเป็นแบบนั้นจริงๆ  และอีกอย่าง หนึ่งในผู้ต้องหาก็เป็นลูกตำรวจชุดสืบสวนของ สภ.อรัญประเทศ ยิ่งทำให้ตัวเองติดใจการทำงานของตำรวจชุดดังกล่าว

โคตรเหี้ยม! ช่อง 8 ล่าลูกตำรวจจับคนทิ้งบ่อ แฉภาพรุมปาหิน ทำกับคนแก่เยี่ยงสัตว์