จากกรณีมูลนิธิกู้ภัยอรัญประเทศ ได้ลงข้อความว่า #พบศพลอยน้ำ #ถูกฆาตกรรม 12/1/67 เวลา 12.14 น. ที่เกิดเหตุพบ ผู้เสียชีวิตหญิง 1 ราย อายุ 40-50 ปี ทราบชื่อผู้เสียชีวิตภายหลังชื่อ นางสาวบัวผัน อายุ 47 ปี สภาพศพนอนคว่ำหน้า สวมเสื้อแขนยาวสีขาว กางเกงขายาวสีดำ กระเป๋าสะพายข้าง 1 ใบ ที่ศีรษะมีบาดแผลฉกรรจ์ขนาดใหญ่รอบศีรษะ คาดว่าบาดแผลน่าจะเกิดจากของแข็งหรือของมีคม



ภายหลังจากเกิดเหตุตำรวจได้ควบคุมตัวนายปัญญา หรือนายยา อายุ 56 ปี คู่ขาของผู้เสียชีวิต มาสอบปากคำ จนเมื่อคืนนี้นายยารับสารภาพว่าเป็นคนลงมือก่อเหตุ ทำร้ายร่างกายนางสาวบัวผันจนเสียชีวิต และนำศพไปทิ้งอำพรางในบ่อน้ำหลังโรงเรียนจริงนั้น

วันนี้ 13 มกราคม 2567 เวลา 08.00 น. ตำรวจได้คุมตัวนายปัญญา ผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุทั้งหมด 6 จุด จุดแรกที่บริเวณสี่แยกหน้า โรงพยาบาลอรัญประเทศ เป็นจุดเหตุการณ์เมื่อเช้ามืดวันที่ 11 มกราคม 2567 นายปัญญา อ้างว่า ได้เจอกับนางสาวบัวผัน จากนั้นนายปัญญาได้ขอเงินนางสาวบัวผันไปซื้อเหล้า แต่ผู้ตายไม่ให้จึงเกิดมีปากเสียงกันที่จุดนี้

จุดที่ 2 บริเวณสนามบอล โรงเรียนประถมศึกษาแห่งหนึ่ง ในอำเภออรัญประเทศ เป็นจุดที่ผู้ก่อเหตุและผู้เสียชีวิตเดินมามีปากเสียงกันข้างสนามบอล ก่อนที่นายปัญญาจะโมโห และเอาเก้าอี้ตีที่ศีรษะนางสาวบัวผันจำนวน 3 ครั้ง จนสลบ

จากนั้นตำรวจได้พาผู้ต้องหาไปทำแผนจุดที่ 3 ซึ่งเป็นจุดที่นายปัญญาตีนางสาวบัวผันด้วยเก้าอี้จนสลบ ก่อนจะแบกร่างนางสาวบัวผันใส่บ่า แล้วเดินลัดสนามฟุตบอล เพื่อไปที่บ่อน้ำหลังโรงเรียน

ต่อมาตำรวจได้พาผู้ต้องหามาชี้จุดที่ 4 บริเวณรืมบ่อน้ำที่พบศพ เมื่อมาถึงบริเวณนี้นายปัญญา ได้เล่าให้ตำรวจฟังว่า หลังจากตัวเองเอาเก้าอี้ตีศีรษะผู้เสียชีวิตจนสลบแล้ว ตัวเองได้นำร่างผู้เสียชีวิตมาวางไว้อยู่ริมบ่อน้ำหลังโรงเรียน ก่อนก่อนที่จะไปหาท่อนไม้จำนวนหนึ่งท่อน มาตีที่ศรีษะของนางสาวบัวผันอีกหนึ่งครั้ง จากนั้นตัวเองได้อุ้มร่างของนางสาวบัวผันแล้วโยนทิ้งลงน้ำ



ซึ่งนายปัญญาก็ได้จำลองการตีผู้เสียชีวิต รวมถึงการอุ้มร่างผู้เสียชีวิตโยนลงน้ำให้กับเจ้าหน้าที่ดูขณะทำแผนอีกด้วย ทำแผนจุด 5 หลังจากโยนผู้เสียชีวิตลงน้ำเสร็จแล้ว นายปัญญา ได้ทำการถอดเสื้อออก เนื่องจากเสื้อตัวที่ใส่ในวันเกิดเหตุเปื้อนเลือดตอนที่แบกร่างผู้เสียชีวิตมานั้น พอนายปัญญาถอดเสื้อออกแล้ว เจ้าตัวก็เดินออกประตูหลังโรงเรียน แล้วเอาเสื้อไปทิ้งที่ถังขยะ จากนั้นตำรวจได้พาผู้ต้องหาไปชี้จุดสุดท้าย จุดที่ 6 เป็นเส้นทางที่นายปัญญา เดินหลบหนี หลังจากก่อเหตุ

หลังทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จ นายปัญญา ได้เปิดใจกับทีมข่าวที่จุดเกิดเหตุว่า ตัวเองก่อเหตุครั้งนี้เนื่องจากบันดาลโทสะ ซึ่งตัวเองก็รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่นางสาวบัวผันมาเสียชีวิต เพราะคนที่อรัญญะประเทศเขาจะชอบเรียกนางสาวบัวผันว่าเป็นเมียของตัวเอง

วันเกิดเหตุ ตัวเองมีปากเสียงกับนางสาวบัวผันเรื่องเงิน แล้วตอนนั้นตัวเองก็เมา นางสาวบัวผันก็เมาจนมีปากเสียงกัน จากนั้นตัวเองได้เอาเก้าอี้ตีที่ศีรษะนางสาวบัวผัน 3 ครั้ง และมาตีที่ข้างบ่อน้ำอีก 1 ครั้ง ยอมรับว่าตอนที่เจอศพนางสาวบัวผัน ตัวเองก็มายืนดูศพที่จุดเกิดเหตุ พร้อมกับชาวบ้าน แต่ตอนนั้นตัวเองไม่กล้าสารภาพกับตำรวจ

ล่าสุดทีมข่าวได้หลักฐานชิ้นสำคัญจากภาพวงจรปิดว่าความจริงนางสาวบัวผัน เสียชีวิตสาเหตุเพราะอะไร โดยกล้องวงจรปิดตรงจุดเกิดเหตุพบว่านางสาวบัวผันมักจะไปนอนตรงร้านสะดวกซื้อ และในกล้องจะเห็นว่ามีภาพนายปัญญาอยู่แถว ๆ นั้น ช่วงเที่ยงคืนกว่า ๆ ของวันที่ 11 ม.ค. 2567 ก่อนที่นางสาวบัวผันจะเสียชีวิต ซึ่งนายปัญญากำลังปั่นจักรยานผ่านหน้ากล้องไปและปั่นออกไปจากจุดเกิดเหตุ และเป็นภาพสุดท้ายที่เห็นนายปัญญาอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ และไม่ปรากฏภาพนายปัญญาอีกเลยจะนางสาวบัวผันเสียชีวิต



จากนั้นเวลา 01.59 น. ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญที่ทีมข่าวช่อง 8 ได้มาจะเห็นนางสาวบัวผัน เดินมาบริเวณจุดเกิดเหตุ ก่อนจะเดินไปนอนที่หน้าร้านสะดวกซื้อ จากนั้นมีแก๊งวัยรุ่น 4-5 คน ขี่ จยย. มาสองคัน เดินเข้ามาทำร้ายนางสาวบัวผัน โดยหนึ่งในนั้นมีการเตะไปที่ใบหน้า จนนางสาวบัวผันหงายหลัง ก่อนจะเดินมาขึ้นรถ จยย. แล้วขี่ออกไป

และผ่านไปไม่ถึง 5 นาที กลุ่มวัยรุ่นกลุ่มเดิมขี่รถ จยย. วนกลับมาอีกครั้ง และมีวัยรุ่น 2 คน พยายามเดินไปอุ้มนางสาวบัวผันขึ้นรถ ด้านนางสาวบัวผันที่มีอาการเมาพยายามต่อสู้ขัดขืน จนตกรถ แต่ทางกลุ่มวัยรุ่นยังวนรถกลับมาเพื่อจะอุ้มพานางสาวบัวผันไปด้วยให้ได้ แม้จะพยายามวิ่งหนีแล้ว แต่สุดท้ายก็โดนรุมทำร้ายอีกครั้ง จากนั้นกลุ่มวัยรุ่นก็อุ้มนางสาวบัวผันขึ้นรถ จยย. และนางสาวบัวผันก็ดิ้นสู้อีกรอบจนร่วงจากรถอีก ก่อนจะนอนระบมอยู่กลางถนน

กระทั่งเวลา 02.07 น. กลุ่มวัยรุ่นก็วนรถ จยย. กลับมาเพื่อจะอุ้มนางสาวบัวผันไปอีกจนได้ ซึ่งครั้งนี้นางสาวบัวผันแทบจะไม่มีแรงต่อสู้และถูกอุ้มขึ้นรถไปได้สำเร็จ และเป็นภาพสุดท้ายที่กล้องวงจรปิดสามารถจับภาพนางสาวบัวผันไว้ได้ ทั้งนี้จุดเกิดเหตุอยู่ใกล้กับ สภ.อรัญประเทศอีกด้วย



ด้านนางสาววาสนา อายุ 42 ปี นายจ้างของผู้เสียชีวิตและนายปัญญา ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวช่อง 8 ว่า หากย้อนกลับไปเมื่อวานนี้ (12 ม.ค. 2567) ช่วงเวลา 11.00 น. ก่อนจะพบศพ 1 ชั่วโมง นายปัญญาได้เดินมาที่ร้านแล้วกราบขอขมาตน พร้อมขอโอกาสทำงานกับตน ซึ่งตนก็ยังตกใจอยู่เลยว่า นายปัญญาทำงานกับตัวเองมาตั้งหลายปี เขาไม่เคยมายกมือขอขมาตัวเองเลย

กระทั่งเวลา 12.00 น. มีชาวบ้านมาบอกว่าเจอศพผู้หญิงอยู่ในบ่อน้ำหลังโรงเรียน ตัวเองจึงรีบไปที่บ่อน้ำดังกล่าว ก็พบว่าผู้หญิงที่ถูกพบศพเสียชีวิต เป็นนางสาวบัวผันลูกจ้างของตัวเองจริง ๆ ตอนนั้นนายปัญญาก็อยู่กับตัวเอง เขายังพูดขึ้นมาว่า “ผมเห็นกลุ่มวัยรุ่นทำร้ายบัวผัน ต้องเป็นฝีมือของกลุ่มวัยรุ่นแน่ ๆ” แล้วนายปัญญาก็แยกตัวออกมาจากบ่อน้ำ และมายืนร้องไห้ ตอนนั้นตัวเองจึงไม่ได้เอะใจว่านายปัญญาจะเป็นคนก่อเหตุ

เหตุที่เกิดขึ้นก็อยากให้นางสาวบัวผันลูกจ้างของตัวเองไปสู่สุคติ นางสาววาสนายังบอกกับทีมเขาอีกว่า เมื่อคืนนี้ตัวเองก็ฝันเห็นผู้ตาย โดยเขามาบอกว่าเขาปวดหัว เขาโดนตีหัว

ที่แรก! แฉภาพลับพลิกคดีสาวใหญ่ในบ่อ ตะลึงโจ๋หิ้วร่างทิ้ง แต่ดันจับผัวขี้เมาแทน