กรณี นายพริ้ง อายุ 78 ปี ยิง นายไป ซึ่งเป็นลูกเขย 1 นัดดับ ปมเรื่องเงิน เหตุเกิดวานนี้ (9 ม.ค.67) ภายในหมู่บ้านซึ่งตั้งอยู่ภายในซอยหมอบาง ต.ในคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ

 

ล่าสุดวันนี้ 10 ม.ค.67 ทีมข่าวช่อง 8 ยังติดตามคดีนี้อย่างต่อเนื่อง โดยวันนี้ทีมข่าวได้วงจรปิด เพิ่มเติมมา 6 มุม โดยมุมที่ 1 จะเห็นรถของนายไป ลูกเขย ขับเข้ามาเวลา 20.20 น.

 

จากนั้นวงจรปิดมุม 2 หน้าห้องเกิดเหตุ จะเห็นนายพริ้ง ใส่เสื้อคลุมสีดำ กางเกงขาสั้นยืนอยู่หน้าห้อง ลักษณะส่องบริเวณหน้าต่างบานเกล็ด จากนั้นจะเห็นว่า นายพริ้ง ถอยหลังออกมาและหยิบอะไรใส่กระเป๋ากางเกง

 

จากนั้นเวลา 21.02 น. จะเห็นนายพริ้งหยิบปืนออกมาจากกระเป๋ากางเกงฝั่งขวาลักษณะขึ้นลำไว้ และยืนมองๆอยู่ก่อนจะนำปืนมาซ่อนไว้โดยเอาเสื้อคลุมปืนไว้บริเวณเอวด้านซ้าย

ต่อมานายพริ้ง นำปืนกระบอกนี้ออกมาแล้วเล็งเข้าไปที่ช่องหน้าต่าง 1 นัด โดยไม่พูดอะไร เพราะอยู่คนละห้องลักษณะมาแอบยิง (จังหวะนี้นายไป ลูกเขยกำลังนั่งกินข้าวอยู่) โดยในกล้องจะเห็นว่า หลังยิงเสร็จก็มีเสียงในห้องพูดคุยกันว่า ยิงพ่อแล้ว

ก่อนที่นายพริ้ง จะถอยมาเดินเข้ามาหากล้องเอามือกุมหน้าผากเพราะได้รับบาดเจ็บจากปืนที่ลั่นออกไปกระแทกหน้าผากและดั้งจนเป็นแผลเลือดอาบ และก้มเก็บปืนที่พื้นก่อนจะเดินโซเซไป แล้วเพื่อนบ้านที่อยู่ห้องตรงข้ามก็เปิดประตูออกมาดู

 

ต่อมาเป็นกล้องวงจรปิด บริเวณชั้นล่างบริเวณทางขึ้นตึก ซึ่งด้านล่างของห้องพักที่เกิดเหตุ จะได้ยินเสียงปืนดัง ช่วงเวลา 20.44 น. คืนวันที่ 9 ม.ค.67 (เวลาเดินช้ากว่าเวลาจริงประมาณ 20 นาที) โดยจะได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด และเงียบไปก่อนจะมีเสียงเอะอะโวยวายไกลๆ และมีชาวบ้านเริ่มสงสัยพากันออกมายืนมองหาที่มาที่ไปของเสียงว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วก็ได้ยินเสียงผู้หญิงร้องโวยวายไกลๆ จากในห้องเกิดเหตุ ลักษณะร้องไห้ตกใจและบอกว่า พ่อๆ ๆ แล้วมีผู้ชายตะโกนเสียงหลงว่าใครก็ได้เรียกรถที และผู้หญิงร้องว่าช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยด้วยค่ะ

 

จากนั้นชาวบ้านก็คุยกันอีกรอบว่ามีอะไรระเบิดหรือเปล่า ขนาดหลับอยู่ยังตื่นเลย

ต่อมา วงจรปิดมุมนี้ จะเห็นชาวบ้านเดินออกมามุงดูเหตุการณ์จากบริเวณใต้ตึก

วงจรปิดตัว 5 จะเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและกู้ภัยเริ่มมาที่เกิดเหตุ

จากนั้น วงจรปิดมุม 6 จะเห็นว่า ตำรวจได้คุมตัวนายพริ้ง ลงมาจากตึก นำตัวไปสอบปากคำที่ สภ. ท่ามกลางวงล้อมชาวบ้านที่ยืนมุงอยู่ใต้ตึก

 

ขณะที่ นางสาวจันทร์แรม อายุ 50 ปี  (ภรรยาคนตาย ลูกคนยิง) เล่าให้ทีมข่าวช่อง 8 ฟังว่า พอนายไป สามีตนมา เขาก็มาอาบน้ำหากับข้าวมากิน จากนั้นนายพริ้ง ซึ่งเป็นพ่อตน ก็มาแอบดูจากด้านนอก เพราะพ่อพักอีกห้อง ซึ่งตอนนั้นลูกสาวตนบอกแล้วว่า แม่ตามา ตอนนั้นก็เลยพากันไปหลบในห้อง แล้วก็ปิดประตู ตอนนั้นคนตายไม่ได้เข้ามา จากนั้นได้ยินเสียงปืนดัง 1 นัด พวกตนเลยพากันออกมาดู ก็เห็นสามีนอนแผ่อยู่ก็เลยร้องให้คนช่วย

ส่วนปมก่อเหตุมาจากตนและสามี โดยสามีมีอาชีพขับรถตู้รับจ้าง แต่ช่วงโควิดมีปัญหาเรื่องการเงินเพราะงานรับจ้างไม่ค่อยมี เลยไม่มีเงินส่งค่างวดรถ จึงได้ไปยืมเงินพ่อมาเพื่อไปส่งค่างวดรถและนำรถตู้ออกมา ประมาณเมื่อต้นปี 2566 และได้ผ่อนใช้ไปแล้วประมาณ 70,000 บาท เหลืออีกประมาณ 130,000 บาท และก็ไม่ได้ส่งอีก ซึ่งทางตนไม่มีเงินส่งพ่อหมุนไม่ทัน ผลัดมาเรื่อยๆ ขาดส่งพ่อ 2 งวด ตอนนั้นพ่อก็บอกไม่เป็นไร

 

จากนั้นมางวด 3 พ่อก็ให้ตนตนมาทวงสามี สามีก็ยังไม่มีให้ จากนั้นพ่อตนก็มายิงดังกล่าว ส่วนที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหามาก่อนเลย ส่วนที่พ่อตัดสินใจยิงสามีตนแบบนี้เพราะพ่อเครียดประกอบกับกินยารักษาจิตเวชด้วย

ขณะที่เช้าวันนี้ ตนก็ไปหาพ่อที่ สภ.พระสมุทรเจดีย์ ตะโกนคุยกัน พ่อก็มีท่าทีว่าเสียใจ และขอโทษตนบอกว่าทำไปเพราะขาดสติ ส่วนสามีตนขอให้เขาไปสู่สุคติ ไปสู่ภพภูมิที่ดี ส่วนพ่อตนก็ไม่ถือโทษโกรธพ่อเลย อันนั้นก็พ่ออันนี้ก็แฟน ส่วนจะประกันตัวหรือไม่เดี๋ยวคุยกันในครอบครัวก่อน

ขณะที่ศพสามีจะนำไปไว้ที่ อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ ส่วนสภาพจิตใจตนตอนนี้ย่ำแย่ กินไม่ได้นอนไม่หลับ ไม่รู้จะทำอย่างไง

 

ทีมข่าวช่อง8 ได้ เดินทางมา สภ.พระสมุทรเจดีย์ พบว่า ลูกสาวได้กอดให้กำลังใจนายพริ้ง ตอนนั่งในห้องสอบสวน และตอนกำลังจะออกจากห้องสอบไปห้องคุมขัง

นอกจากนี้ทีมข่าว ช่อง 8 ได้พูดคุยกับนายพริ้ง พ่อตาที่ก่อเหตุยิงลูกเขย ซึ่งนายพริ้ง หูไม่ดี ไม่ค่อยได้ยินทีมข่าวสอบถาม เบื้องต้น นายพริ้งบอกกับทีมข่าวสั้นๆว่า “อยากขอโทษ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สาเหตุที่ตนยิง เพราะ นายไป ลูกเขย ได้ขอกู้เงินไป จำนวน 200,000 บาท แล้วไม่คืนเลยยิง

นายพริ้ง ยังกล่าวว่า ก็ต้องขอโทษลูกสาว และขออโหสิกรรมลูกเขย ที่ลงมือก่อเหตุไปนั้นเป็นแค่อารมณ์ชั่ววูบ ก็อยากจะขออโหสิกรรมกับสิ่งที่ทำลงไป หลังจากนี้ก็จะไปเข้ากระบวนการยุติธรรมทางกฏหมาย ชดใช้ในสิ่งที่ทำลงไป