จากกรณีเมื่อ เวลา 01.00 น.( 8 ม.ค.67) เกิดเหตุสะเทือนขวัญ พบผู้เสียชีวิต 2 ราย คือนาย 1.นายประหยัด อายุ 66 ปี และ น.ส.เพียงเพ็ญ อายุ 33 ปี ถูกนาย นายวรุตย์ อายุ 35 ปี ทั้ง 3 คน เป็นชาว อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร ผู้ต้องหาซึ่งเป็นลูกชายและพี่ชายของผู้เสียชีวิตได้ฆาตกรรมถ่วงน้ำด้วยหีบเหล็กจนเสียชีวิต ที่บริเวณหนองหลุมหิน บ.สร้างขุ่ย ต.พังโคน อ.พังโคน จ.สกลนคร เบื้องต้นผู้ต้องหารับสารภาพเป็นคนลงมือทำ ส่วนสาเหตุจูงใจในการก่อเหตุนั้น จนท.กำลังสอบปากคำผู้ต้องหาอย่างละเอียด ส่วนสาเหตุจูงใจกำลังสอนสวนหาข้อเท็จจริง

 

พนักงานสอบสวน ร.ต.อ.ถาวร ใจปัดขา รอง สวป.สภ.พังโคน พร้อมด้วยพนักงานพิสูจน์หลักฐาน และกู้ชีพกู้ภัย จึงรุดไปตรวจสอบ พบชายต้องสงสัยคนดังกล่าวยืนอยู่บริเวณริมสระลักษณะพูดจาวกวน จนท.จึงคุมตัวไว้ก่อน ส่วนจุดเกิดเหตุพบแท่นเหล็กสร้างขึ้นใหม่อยู่กลางน้ำ จนท.ลงค้นหากล่องเหล็กในน้ำปรากฎว่าพบกล่องเหล็กขนาดใหญ่เท่าตัวคน 2 กล่อง ยังพบอีกว่าแต่ละกล่องมีร่างของชายและหญิงเสียชีวิตติดอยู่ภายในกล่องละ 1 คน โดยลักษณะกล่องเหล็กนี้ดูเหมือนไม่เคยผ่านการใช้งานมาก่อน บางส่วนของกล่องปิดผนึกด้วยเหล็กแผ่นแต่ก็เหลือช่องไว้ให้น้ำเข้าได้บางส่วน ด้านนอกถูกพันธนาการไว้ด้วยโซ่ 2-3 ชั้น ล็อกด้วยกุญแจอย่างแน่นหนา

 

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวนายวรุตย์ ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุเข้าไปสอบสวนเป็นเวลากว่า 3 ชั่วโมง จากนั้นในช่วงเวลาประมาณ 14.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวนายวรุตย์ ออกมาจากห้องสอบสวน ซึ่งนายวรุตย์ ปฏิเสธที่จะไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวกลับไปยังห้องควบคุมตัวที่ สภ. พังโคน โดยระหว่างเดินกลับไปที่ห้องควบคุมตัวผู้สื่อข่าวได้เข้าสอบถามนายวรุตย์ ถึง สาเหตุและวิธีการก่อเหตุ แต่นายวรุตย์ ไม่ตอบแต่อย่างใด เดินก้มหน้าโดยไม่มองทางเดินจนกระทั่งชนกับประตูบริเวณหน้าห้องสอบสวนก่อนที่จะเข้าไปยังห้องควบคุมควบคุมตัว

 

โดยหลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เป็นผู้รับผิดชอบคดี จึงได้ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ เพื่อ เก็บคู่ฐานที่ใช้วางกล่องเหล็กที่วางอยู่บริเวณจุดเกิดเหตุ ซึ่งก่อนที่จะเก็บกู้ฐานดังกล่าวแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ทีมกู้ภัยค้นหาโทรศัพท์มือถือของผู้ก่อเหตุที่ตกหล่นอยู่บริเวณจุดเกิดเหตุจึงได้พบว่า โทรศัพท์มือถือของผู้ก่อเหตุจมอยู่ภายในน้ำบริเวณก่อนที่จะถึงฐานวางกล่องเหล็กดังกล่าว

 

โดยหลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงให้ทีมกู้ภัยขนย้ายฐานที่ที่ใช้วางกล่องเหล็ก ขึ้นมาจากหนองหลุมหิน เพื่อนำไปเก็บเป็นหลักฐานประกอบคดีที่สภ. พังโคน ซึ่งจากการตรวจสอบ กล่องเหล็กทั้งสองใบมีขนาดไม่เท่ากัน ซึ่งคาดว่าน่าจะสั่งต่อด้วยการวัดจากขนาดตัวคนที่จะเข้าไปอยู่ภายในกล่องเหล็กโดยกล่องเหล็กใบแรกเป็นกล่องที่ใช้ใส่นายประหยัด ซึ่งเป็นพ่อของผู้ก่อเหตุ มีขนาด กว้าง 65 เซนติเมตร ยาว 190 เซนติเมตร และสูง 55 เซนติเมตร และกล่องอีกใบนึงใช้ใส่ น.ส.เพียงเพ็ญ อายุ 33 ปี ซึ่งเป็นน้องสาวของผู้ก่อเหตุ มีขนาด กว้าง 58 เซนติเมตร ยาว 180 เซนติเมตร และสูง 55 เซนติเมตร ในส่วนของฐาน เป็นลักษณะคล้ายเวทีมีขาตั้งสี่ด้านยกขึ้นจากน้ำ โดยตัวที่เป็นแท่นคล้ายเวทีมีความกว้างและยาว 2.10 เมตร และความสูงของขามีความสูง 155 เซนติเมตร

 

จากการลงพื้นที่ทีมข่าว จึงได้ภาพวงจรปิด จากกล้องในร้านค้าภายในหมู่บ้านสร้างขุ่ย โดยภาพวงจรปิดจะมีทั้งหมดสองมุม โดยเส้นทางดังกล่าวจะเป็นเส้นทางที่สามารถ ใช้เดินทางไปที่หนองหลุมหินภายในหมู่บ้านได้

 

ช่วงที่1

ในช่วงนี้จะเป็นเวลา 12.34 น. ของวันที่ 8 มกราคม 2567 โดยช่วงนี้จะเห็นภาพรถของนายวรุตย์ ซึ่งเป็นรถเก๋งยี่ห้อฟอร์ดสีน้ำเงิน ขับมุ่งหน้าเข้าไป บริเวณหนองหลุมหิน ซึ่งเป็นลักษณะการขับนำหน้ารถบรรทุกที่ขนกล่องเหล็กและฐานเพื่อนำมาติดตั้งบริเวณหนองหลุมหินซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุดังกล่าว

 

ช่วงที่2

ในช่วงนี้จะเป็นเวลาประมาณ 12.35 น. ของวันที่ 8 มกราคม 2567 ในในช่วงนี้ กล้องวงจรปิดจะจับภาพรถบรรทุก ซึ่งด้านหลังบรรทุก กล่องเหล็กสองใบ และฐานวางซึ่งยังประกอบอยู่บริเวณหลังรถบรรทุก

 

ช่วงที่3

ในช่วงนี้จะเป็นเวลาประมาณ 13.49 น. ของวันที่ 8 มกราคม 2567 ภาพวงจรปิดจะเห็นภาพรถของนายวรุตย์ ขับออกจากหมู่บ้านไป ซึ่งคาดว่าน่าจะทำการติดตั้ง ฐานและ และกล่องเหล็ก ในหนองหลุมหินเสร็จเรียบร้อย แล้วเตรียมที่จะเดินทางไปรับพ่อและน้องสาวของเขา

 

ช่วงที่4

ในช่วงนี้จะเป็นเวลาประมาณ 13.55 น. ของวันที่ 8 มกราคม 2567 ในช่วงนี้ภาพวงจรปิดจะเห็นภาพ รถบรรทุก ขับตามรถของวรุตย์ ออกมาจากหนองหลุมหิน ซึ่งทำการติดตั้ง ฐานและกล่องเหล็กที่ใช้ก่อเหตุเสร็จเรียบร้อยจะเห็นว่าบริเวณหลังรถไม่มีฐานและกล่องเหล็กวางอยู่

 

ช่วงที่5

โดยในช่วงนี้จะเป็นเวลา 19.57 น. ภาพวงจรปิดจะเห็นรถของนายวรุตย์ ขับมุ่งหน้าเข้าไปยังบริเวณหนองหลุมหินอีกหนึ่งครั้ง ซึ่งในช่วงเวลานี้คาดว่าภายในรถของนายวรุตย์ น่าจะมีพ่อและน้องสาวของเค้าอยู่ ซึ่งเป็นการพาทั้งสองคนเข้าไปฆาตกรรมอย่างบริเวณจุดเกิดเหตุ

 

โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเวลาประมาณ 01.00 น. ของเช้าวันนี้ 9 มกราคม 2567 เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งทางโทรศัพท์ จากพลเมืองดีว่า เมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. มีรถยนต์เก๋งมาจอดอยู่บริเวณเกิดเหตุ ลักษณะน่าจะกระทำผิดอาญาเกิดขึ้น เมื่อทราบเหตุ ร.ต.อ.ถาวร ใจปัดขา รอง สวป.สอบสวน สภ.พังโคน ได้ไปตรวจสอบ พบรถเก๋งเปิดไฟสัญญาณกระพริบ ด้างล่างซึ่งมีบันไดเดินลงไปยังหนองหลุมหิน ประมาณ 5 เมตร พบ นายวรุตน์ หรือ ‘บิ๊กจอนห์’ ยืนอยู่ริมสระน้ำ และเมื่อส่องไฟไปพบแท่นเหล็กที่ถูกวางแช่น้ำห่างฝั่งประมาณ 2 เมตร และเมื่อสำรวจโดยรอบพบกรงเหล็ก ขนาดเท่าโลงศพจมน้ำข่างแท่นเหล็ก จำนวน 2 กล่อง เมื่อนำขึ้นมาพบศพผู้เสียชีวิต อยู่ด้านในกรงเหล็ก เบื้องต้น ‘บิ๊กจอนห์’ หรือ ‘วรุตย์ ให้การรับสารภาพว่าตนเป็นผู้ลงมือก่อเหตุฆ่าบิดา และน้องสาวของตนจนเสียชีวิตดังกล่าว

 

จากนั้นทีมข่าวจึงได้เดินทางไปที่อำเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร เพื่อตามหาร้านเหล็ก ที่นายวรุตย์ ได้ไปสั่งต่อกล่องเหล็กทั้งสองใบ และฐานวาง ซึ่งจากข้อมูลทราบว่าอยู่ใกล้เคียงกับ หอพักซึ่งพ่อของนายวรุตย์ เป็นเจ้าของ

 

เมื่อทีมข่าวเดินทางถึงร้านเหล็กดังกล่าวเค้าถึงได้พบกับ นายสมหมาย (นามสมมุติ) อายุ 46 ปี ซึ่งเป็นช่างคนหนึ่งที่ต่อกล่องเหล็ก และฐานวางดังกล่าวขึ้น โดยได้เปิดเผยกับทีมข่าวว่า

 

“นายวรุตย์ ได้มาสั่งต่อกล่องเหล็ก และฐานวางกับเถ้าแก่ เมื่อประมาณวันที่ 25 พฤศจิกายน 2566 โดยเขาได้เป็นผู้ออกแบบมาเองทั้งหมด และไม่รีบเร่งงาน ซึ่งทุกครั้งที่เค้าว่าง จะคอยมานั่งดูการประกอบกล่องเหล็ก และฐานวาง ด้วยตัวเองตลอด แต่ไม่เคยพูดคุยกับใคร เพียงแต่มานั่งดูเพียงเท่านั้น

 

ซึ่งกล่องเหล็กและฐานวางดังกล่าว ช่างทุกคนในร้าน เวลาใครว่างงานก็จะช่วยกันประกอบ โดยส่วนตัวนั้นก็เป็นผู้ทำคนหนึ่ง โดยตนเป็นผู้ประกอบ ฐานวางแทบจะทั้งหมด ซึ่งงานดังกล่าวได้เสร็จไปในช่วงเมื่อวานนี้ และ นายวรุตย์ ก็ได้จ้างรถบรรทุกมาขนไปเองตนก็ไม่ทราบว่าจ้างรถมาจากที่ใด

 

ในส่วนของโซ่ที่เค้าใช้ล็อกนั้น ต้นก็ไม่ทราบว่าเค้าซื้อมาจากที่ใดแต่ในการประกอบนั้นตนไม่ได้ใส่หูช้างที่ใช้สำหรับคล้องกุญแจในการล็อก ซึ่งจากการพูดคุยทั้งตัวเขาและพ่อของเขานั้น ตนก็ไม่เห็นว่าจะมีอาการผิดปกติทางจิตแต่อย่างใดซึ่งทั้งสองคนรวมถึงน้องสาวของเขาก็เป็นคนพูดคุยดี

 

ซึ่งจากการที่ตนเห็นข่าวที่เกิดขึ้นนั้นตนก็รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก แค่เพียงเห็นภาพในโซเชียล ตนก็จำได้แล้วว่าทั้งกล่องเหล็กและฐานวางดังกล่าวพวกตนเป็นคนทำทั้งนั้น โดยเฉพาะฐานวางซึ่งตนเป็นคนทำเองแทบทั้งหมดจึงจำได้เป็นอย่างดี”

 

โดยข้ออ้างที่บอกร้านเหล็กถึงเหตุผลที่สั่งทำกล่องใส่ศพถ่วงน้ำคือ จะนำไปทำกล่องเอนกประสงค์ใส่กล่องตกปลาทำเป็นคอนเทนต์ยูทูบ

 

โดยหลังจากนั้นทีมข่าวได้พบกับ นายศักดิ์สิทธิ์ อายุ 54 ปี ซึ่งเป็น กู้ภัยตำรวจทางหลวง และในช่วงหลังจากเกิดเหตุเมื่อวาน ได้เข้ามาบริเวณจุดเกิดเหตุ โดยได้เล่าให้กับทีมข่าวฟังว่า

 

“ในช่วงเมื่อวานหลังจากทราบเรื่องตนได้เข้ามาที่เกิดเหตุ ในช่วงนั้นเป็นเวลาประมาณเที่ยงคืนกว่า โดยหลังจากที่ตนเข้ามาบริเวณจุดเกิดเหตุก็พบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ถึงจุดเกิดเหตุแล้วและได้ควบคุมตัวนายวรุตย์ไว้ เนื่องจากเป็นผู้ต้องสงสัยในตอนนั้น ซึ่งบริเวณจุดเกิดเหตุตนได้พบว่าบันไดทางลงไปที่หนองหลุมหิน ซึ่งเป็นสระน้ำกลางหมู่บ้านสร้างขุ่ย ได้มีแท่นลักษณะเหมือนเวที วางอยู่ตรงสุดทางบันได โดยมีขาตั้งแช่อยู่ในน้ำ และเมื่อสองไฟไปบริเวณด้านข้าง จะพบกับเงาที่อยู่ในน้ำเป็นลักษณะเหมือนกล่องเหล็ก อยู่ทั้งสองฝั่ง ทางซ้ายและขวา จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ให้ทีมกู้ภัยลงนำกล่องเหล็กขึ้นมา จะพบว่าภายในภายในมีศพของชายสูงอายุและหญิงวัยกลางคน ซึ่งอยู่ภายในกล่องเหล็กทั้งสองฝั่ง โดยฝั่งด้านซ้ายจะเป็นของชายสูงอายุ และฝั่งด้านขวาจะเป็นของหญิงวัยกลางคน จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้สอบสวนเบื้องต้นกับนายวรุตย์

 

โดยนายวรุตย์ ได้ให้การกับตำรวจว่า ผู้เสียชีวิตภายในกล่องทั้งสองกล่องคือพ่อและ น้องสาวของเขา โดยก่อนหน้านี้เค้าได้ไปสั่งต่อกล่องและแท่นวาง โดยใช้อุบายว่าจะนำไปทำคอนเทนท์เกี่ยวกับการตกปลา ซึ่งเป็นร้านเหล็ก แห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้กับหอพักของเขา จากนั้นเมื่อได้ต่อเสร็จจึงได้จ้างรถบรรทุกมาขนย้าย เพื่อนำมาวางบริเวณจุดที่เกิดเหตุแห่งนี้ ซึ่งจุดที่เขาเลือกช่วงแรกจะมีอยู่สองจุด คือบริเวณจุดหนองหลุมหินแห่งนี้ และ เขื่อนน้ำอูน แต่ที่เขาเลือกจุดแห่งนี้ ก็เพราะว่าบริเวณเขื่อนน้ำอูนมีผู้คนพลุกพล่าน

 

จากนั้นในช่วงเมื่อวานจึงได้ออกอุบายให้พ่อและ น้องสาวของเขา นั่งรถมากับเขาเพื่อที่จะมาทำคอนเทนท์เกี่ยวกับที่นอนของคนตกปลาราคาถูก โดยออกอุบายว่าเมื่อท่านนอนลงไปในกล่องที่เป็นลักษณะกล่องเหล็กนั้นแล้ว บริเวณด้านในจะมีแผ่นฟิวเจอร์บอร์ดทาด้วยเจลใส่ผม เมื่อโดนกับอุณหภูมิของร่างกายก็จะกลายเป็นฟูกนุ่มๆขึ้นมา แล้วจะนอนอย่างสบาย เขาจึงได้ใช้อุบายนี้หลวงพ่อกับน้องสาวของเขาอยู่ระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งหลังจากทั้งสองคนได้เชื่อแล้วได้ลงไปภายในกล่องดังกล่าว นายวรุตย์ จึงได้ใช้โซ่ ร้อยพันรอบกล่อง จากนั้นจึงใช้กุญแจล็อก ทั้งสองกล่อง

 

ซึ่งหลังจากนั้นได้มีชาวบ้านผ่านมาเห็นและได้ถามว่าเขาทำอะไร และพยายามที่จะลงไปดู แต่เขาได้ตะโกนห้ามไว้แล้วบอกว่ายังไม่ได้ใส่เสื้อผ้า และมีท่าทางลุกลี้ลุกลน จากนั้นชาวบ้านคนดังกล่าวจึงได้รีบไปแจ้งกับผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งในขณะนั้นนายวรุตย์ จึงใช้ช่วงเวลาดังกล่าวผลักกล่องทั้งสองใบ ลงน้ำไปทางด้านฝั่งขวาและฝั่งซ้ายของแท่นวาง ทั้งที่พ่อและน้องสาวของเขายังมีชีวิตอยู่ ซึ่งหลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านได้มาถึง ก็ยังพบว่านายวรุตย์ นั่งอยู่บริเวณริมหนองหลุมหินดังกล่าว ตำรวจจึงได้รีบควบคุมตัวไว้ และได้ให้กู้ภัยลงไปดูก็พบว่ากล่องทั้งสองใบมีผู้เสียชีวิตถูกขังอยู่ เมื่อนำขึ้นมาก็พบว่าทั้งสองคนได้เสียชีวิตไปแล้ว

 

โดยจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนไม่ได้ตกใจอะไร แต่หนองหลุมหินแห่งนี้เป็นสระน้ำที่ใช้ทำประปาหมู่บ้าน ก็น่าจะมีผลต่อสภาพจิตใจของชาวบ้าน ซึ่งเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นนี้ ก็นับว่าเป็นการฆาตกรรมที่เลือดเย็นพอสมควร โดยลักษณะของผู้ก่อเหตุ ดูแล้วก็น่าจะมีอาการทางจิต

 

จากนั้นทีมข่าวจึงได้ย้อนกลับมาที่หอพักของพ่อของ นายวรุตย์ ซึ่งอยู่ที่อำเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร โดยหอพักดังกล่าวจะอยู่ห่างจากร้านเหล็กประมาณ 30 เมตร โดยจะมีบ้านหลังหนึ่งขั้นอยู่ ซึ่งเมื่อทีมข่าวกลับไปถึงที่หอพักดังกล่าวก็ไม่พบว่ามีผู้ใดออกมาจากห้องพักแต่อย่างใด และสำนักงานของหอพักก็ยังปิดทำการ

 

โดยหลังจากนั้นทีมข่าวได้พบกับนางหนูพัฒน์ อายุ 67 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านที่อยู่ติดกับหอพักดังกล่าว โดยได้เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า

 

“โดยปกติผู้ก่อเหตุกับพ่อและน้องสาวของเขาก็พักอาศัยอยู่ที่หอพักแห่งนี้แต่จะเป็นคนที่ไม่ค่อยพูดอะไรกับใครโดยจะเป็นคนที่อยู่เงียบ ๆ ซึ่งตนก็ไม่เคยไปสุงสิงอะไรด้วยถึงแม้ว่าบ้านจะอยู่ติดกัน ในเรื่องของอาการทางจิตนั้น ตนก็เห็นว่าเค้าอาจจะมีอาการทางจิตกันอยู่บ้างเพราะไม่ค่อยพูดคุยอะไรกับใคร และจะเก็บตัวอยู่เงียบกันในครอบครัวเท่านั้น

 

โดยในช่วงก่อนนี้แม่ของผู้ก่อเหตุได้เสียชีวิตไป ซึ่งฐานะของครอบครัวนี้ค่อนข้างที่จะมีฐานะดี นอกจากหอพักแห่งนี้แล้วเขายังมีที่ดินอีกหลายแห่งและยังมีบ้านอีกหลัง ซึ่งรายละเอียดอื่นนอกจากนี้ตนก็ไม่ทราบเช่นกัน โดยหลังจากเกิดเหตุตนก็เห็นว่ามีทางน้ำของผู้ก่อเหตุได้มาเป็นผู้ดูแลหอพักแห่งนี้ ซึ่งเห็นเข้ามาแค่ช่วงครู่เดียวเท่านั้น แล้วก็เห็นว่าออกไปจากหอพักและไม่ได้กลับเข้ามาอีก

 

น้าน้อย น้าของนายวรุตย์ ผู้ต้องหากล่าวว่า ทางครอบครัวนายประหยัดผู้เสียชีวิต เอากุญแจหอพักมาฝากไว้กับตนและบอกว่าจะไปเที่ยวเขื่อนภูมิพล จ.ตาก ต่อมา เวลาประมาณ 11.00 น.วันที่ 8 ม.ค.67 นายประหยัดบอกว่า จะพาลูกชายไป ที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งใน อ.พังโคน ไม่แน่ใจว่าไปทำอะไรกัน ก่อนจะเกิดเหตุสลดขึ้น ตนไม่เห็นนายวรุตย์มานานตั้งแต่อยู่ ม.6 เพิ่งมาเห็นหน้าอีกครั้งเมื่อวานนี้ และไม่ได้พูดคุยกันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาจำตนได้หรือเปล่า แต่แม่นายวรุตย์ที่ปัจจุบันเสียชีวิตไปแล้ว เคยบอกตนว่าลูกชายเป็นคนเรียนเก่ง มีความสามารถด้านคอมพิวเตอร์ ส่วน น.ส.เพียงเพ็ญ น้องสาวผู้ก่อเหตุ เมื่อครั้งยังเด็กครอบครัวเคยพาไปเที่ยวภูกระดึงแล้วพลัดหลงกันตั้งแต่นั้นมาก็มีลักษณะสภาพจิตใจไม่ปกติ และนายประหยัดผู้เสียชีวิตปกติเป็นคนนิสัยดีเข้ากับครอบครัวได้ดี แต่เคยมีปากเสียงกับนายวรุตย์ลูกชายเมื่อครั้งตอนแม่เสียเมื่อ 10 ต.ค.66 ซึ่งตนก็ไม่ทราบเชิงลึกว่าก่อนหน้าจะเกิดเรื่องมีอะไรบาดหมางหรือทะเลาะกันมาหรือเปล่า

 

จากนั้นช่วงเวลาประมาณ 18.00 น. ที่บริเวณศาลาประชาคมหมู่บ้านสร้างขุ่ย ได้มีการจัดพิธีสู่ขวัญ เพื่อเรียกขวัญชาวบ้านและผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ กลับคืนมาตามความเชื่อของประเพณีชาวอีสาน

 

โดยในพิธีได้มีการนิมนต์พระจากวัดบ้านสร้างขุ่ย จำนวนสามรูป มาสวดพระพุทธมนต์ และพรหมน้ำมนต์ให้ชาวบ้าน โดยหลังจากนั้นมีหมอสู่ขวัญทำพิธีเรียกขวัญให้กับชาวบ้าน ด้วยการผูกข้อไม้ข้อมือ โดยผู้เฒ่าผู้แก่ของหมู่บ้าน จึงเป็นอันเสร็จพิธี

 

โดยหลังจากนั้นทีมข่าวจึงได้พบกับนายมนตรี อายุ43ปี ซึ่งเป็นชาวบ้านที่พบเห็นเหตุการณ์ก่อนที่จะแจ้งผู้ใหญ่บ้านและเจ้าหน้าที่ ตำรวจ ได้เล่าเหตุการณ์ในช่วงเมื่อคืนให้ฟังว่า

 

ตนได้ผ่านไปบริเวณหนองหลุมหินช่วงเวลาประมาณเกือบห้าทุ่ม จากนั้นจึงได้เห็นว่ามีรถคันหนึ่งเปิดไฟขอทางจอดอยู่บริเวณริมหนองหลุมหิน จึงได้เข้าไปดูว่าเขาทำอะไร เมื่อเข้าไปก็ได้ส่องไฟฉายลงไปตามบันไดทางลงหนองหลุมหิน จึงได้พบว่ามีชายคนหนึ่งตะโกนขึ้นมาว่าอย่าลงมาเขาไม่ได้ใส่เสื้อผ้า และได้เห็นว่ามีแท่นและมีลักษณะกล่องวางอยู่ด้านบน จากนั้นตนจึงรู้สึกถึงความผิดปกติจึงได้ถอยขึ้นมาและรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้ใหญ่บ้าน

 

โดยหลังจากนั้นผู้ใหญ่บ้านได้มามาถึงบริเวณจุดเกิดเหตุ พร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชายคนดังกล่าวก็ยังนั่งอยู่บริเวณริมหนองหลุมหิน โดยในช่วงที่ตนเห็นช่วงแรกตนยังเห็นว่าบริเวณบนแท่นยังมีกล่องเหล็กวางอยู่สองกล่อง แต่หลังจากที่ต้นกลับมารอบที่สองตนเห็นว่าไม่มีกล่องเหล็กดังกล่าวแล้ว จึงได้ลงไปดู บริเวณริมน้ำและส่องไฟฉายลงไปก็พบว่าด้านข้างของแท่นทั้งสองฝั่งมีกล่องเหล็กอยู่ในน้ำ หลังจากนั้นตนจึงลงไปในน้ำและเอื้อมมือเข้าไปในกล่อง จึงได้สัมผัสพบกับศรีษะของผู้หญิง ตนจึงตกใจมากและรีบขึ้นมาแจ้งกับผู้หญิงผู้ใหญ่บ้านและเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงทราบว่าชายคนดังกล่าวนำทั้งสองคนมาฆาตกรรม

 

ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ตนนอนไม่หลับในช่วงเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยในวันนี้ ทางผู้ใหญ่บ้านก็ได้จัดให้มีการสู่ขวัญซึ่งก็ทำให้ตนสบายใจยิ่งขึ้น แต่ก็ก็ยังจำภาพเหตุการณ์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างไม่ลืม

ผ่าแผน! ลูกอำมหิตคิดพล็อตข้ามปีลวง พ่อ-น้อง ยัดหีบเหล็กถ่วงน้ำ ทึ่งสมองอัจฉริยะ