จากกรณีที่ลุงเชาว์ วัย 62 ปี พิการแขน ขา ถูกกลุ่มวัยรุ่นทำร้ายร่างกายจนสลบในงานวันเกิดคนในหมู่บ้านเดียวกัน เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 1 นาฬิกา 30 นาที ของวันที่ 11 ธค 66 .ที่ผ่านมา โดยก่อนเกิดเหตุลูกชายของลุงเชาว์คือนายสามารถ อายุ 35 ปี ไปนั่งกินงานเลี้ยงวันเกิดของญาติผู้ก่อเหตุ ระหว่างนั้นกลุ่มวัยรุ่น ได้ทะเลาะกันและได้ชกต่อยกันขึ้นในงานจนได้รับบาดเจ็บ

 

ขณะเดียวกันลุงเชาว์ได้ถูกกลุ่มวัยรุ่นรุมเตะต่อยจนล้มฟุบอยู่กองอยู่พื้นหน้าบ้านจัดงาน อึดใจต่อมาลุงเชาว์ได้ลุกขึ้นยืน ผู้ก่อเหตุได้ตรงเข้าทำร้ายร่างกายอีก 1 ครั้ง จนเป็นเหตุให้ลุงเชาว์หมดสติกองกับพื้น ญาติจึงโทรแจ้งหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสัจจะพุทธธรรมกบินทร์บุรีนำตัวส่งโรงพยาบาลกบินทร์บุรีในเวลาต่อมา

 

ต่อมา วันที่ 1 มกราคม 2567 ลุงเชาว์ถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรเนื่องจากเลือดคั่งในสมอง ขณะนี้พักรักษาตัวอยู่ในห้อง ICU โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร และได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา สร้างความเสียใจให้กับภรรยา และลูกๆที่ต้องสูญเสียเสาหลัก โดยผู้ที่ก่อเหตุเป็นวันรุ่นในหมู่บ้านจนชาวบ้านในละแวกนั้นรู้จักกันดี รวมทั้งยังก่อเหตุทั่วไป จนชาวบ้านเอือมละอา จนกระทั่งลุงเชาว์ถูกวัยรุ่นกลุ่มนี้รุมทำร้าย จนเสียชีวิต ส่วนลูกชายได้รับบาดเจ็บ

 

จากกรณีดังกล่าวในวันนี้ทีมข่าว ได้ลงพื้นที่ไปยังบริเวณบ้านของ ลุงเชาว์ วัย 62 ปี ซึ่งเป็นผู้เสียชีวิต โดยงานศพได้จัดเคลื่อนที่บริเวณบ้าน โดยมีญาติและเพื่อนบ้านมาร่วมพิธีในการสวดอภิธรรมศพคืนแรกจำนวนหลายคน โดยจะตั้งศพสวดอภิธรรม เป็นเวลาสามวัน และฌาปนกิจในวันพฤหัสบดีที่ 4 มกราคม 2567 โดยในวันนี้หลังจากที่สวดอภิธรรมเสร็จทีมข่าวจึงได้พบกับ นายสามารถ อายุ 34 ปี ซึ่งเป็นลูกชายของลุงเชาว์ผู้เสียชีวิต และอยู่ในที่เกิดเหตุในวันที่เกิดเหตุเหตุการณ์ดังกล่าว โดยได้เล่าให้กับ ทีมข่าวฟังว่า

 

“ในวันที่เกิดเหตุคือวันที่ 11 ธันวาคม 2566 ในวันนั้นเพื่อนบ้านของตนได้จัดงานวันเกิดตนได้ไปร่วมงาน โดยหลังจากนั้น นายเชาว์ พ่อของตนได้เห็นว่าดึกแล้วจึงได้เดินไปตามหาตนบริเวณบริเวณที่จัดงานซึ่งอยู่ห่างห่างจากบ้านประมาณ 50 เมตร แต่เมื่อไปถึง พ่อของเจ้าของวันเกิด ก็ได้ให้พ่อของตนเปิดเพลงในโทรศัพท์มือถือของเขา แต่ในตอนนั้นกลุ่มเด็กวัยรุ่นได้เปิดเพลงฟังกันอยู่ ซึ่งเพลงดังกล่าวเปิดจากรถซาเล้ง ของพ่อของตน

 

โดยหลังที่พ่อของตนได้ปิดเพลงและเปิดเพลงในโทรศัพท์มือถือของพ่อ เจ้าของวันเกิด จึงทำให้กลุ่มวัยรุ่นไม่พอใจและเริ่มมีปากเสียง จากนั้นจึงได้เข้าทำร้ายพ่อของตน เมื่อ ตนเห็นว่าพ่อถูกทำร้ายจึงได้เข้าไปช่วยจนตนนั้นได้รับบาดเจ็บ คิ้วแตก หลังจากนั้นตนจึงเห็นว่าพ่อของตนโดนทำร้ายจนสลบ ตนจึงได้รีบวิ่งมาเรียกแม่ และหลังจากนั้นจึงได้รีบวิ่งไปบริเวณป้อมตำรวจเขาไม้แก้วแต่ไม่พบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ จึงให้ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านรีบมาดูที่เกิดเหตุและรีบเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจมาที่เกิดเหตุ

 

ซึ่งในวันนั้นพ่อของตนถูกทำร้ายจนสลบทั้งๆที่พ่อของตนเป็นคนพิการ แขนขาขาพิการ จากอุบัติเหตุ และในวันนั้นตนเห็นว่าพ่อตนถูกรุมทำร้ายกว่า 10 คน ซึ่งตนก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้ โดยหลังจากนั้นพ่อของตนก็ได้รักษาตัวที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร์ จนกระทั่งถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2566 จึงได้เสียชีวิตลง  ตนจึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรีบจับตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด“

 

จากนั้นทีมจึงได้พูดคุยกับ  นางลำไพ อายุ 59 ปี ซึ่งเป็นภรรยาของผู้เสียชีวิต โดยได้เปิดเผยกับทีมข่าวว่า

 

“ ในที่เกิดเหตุหลังจากที่ลูกชายของตนมาเรียกว่าสามีของตนถูกทำร้ายจนสลบอยู่ไม่ไกลจากบ้านนัก ตนจึงรีบวิ่งไปไปดู จึงได้พบว่าสามีของตนตักหลานของตนอยู่ ซึ่งเรียกยังไงก็ไม่ตื่นตนจึงตกใจ และได้ให้หลานอีกคนโทรหารถพยาบาลเพื่อมารับสามีของตนไปส่งโรงพยาบาล ซึ่งอาการของสามีตนตอนนั้นมีอาการได้รับความกระทบกระเทือนทางสมอง และมีเลือดออกในสมอง โดยหลังจากนั้นทางแพทย์ได้มาแจ้งกับตนว่าสามีของตนตายโดยถาวรและได้มาเสียชีวิตในวันที่ 30 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา

 

ซึ่งตัวผู้ก่อเหตุเองนั้นก็คือเด็กวัยรุ่นในหมู่บ้านและตนยังเห็นอยู่ว่าผู้ที่ที่ก่อเหตุยังใช้ชีวิตอยู่ตามปกติแต่ก่อนหน้านี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้มาถ่ายรูปไปก่อนหน้านี้แล้วสองคน  ซึ่งหลังจากนี้ตนก็อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินดำเนินการให้อย่างรวดเร็ว และดำเนินการคดีให้ถึงที่สุด

 

ซึ่งส่วนตัวนั้นตนรู้สึกเสียใจมากที่สามีของตนต้องมาถูกทำร้ายจนเสียชีวิตและในตอนนี้ตนก็ไม่รู้ว่าจะไปพึ่งใคร  เพราะสามีของต้นก็เป็นหัวหน้าครอบครัว และตนอยากให้ผู้ก่อเหตุออกมารับผิดชอบและเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ”

 

ล่าสุดวันนี้ 2 ม.ค.67 ที่สภ.กบินทร์บุรี ทางด้านผู้ก่อเหตุได้ดอดเข้ามอบตัวตั้งแต่เช้าตรู่โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เวลาสอบสวนประมาณ 3 ชั่วโมง

 

ทางด้าน นายกิตติพันธ์ อายุ 26 ปี นายพงศกร อายุ 23 ปี กล่าวว่า พวกตนก็นั่งกินเลี้ยงวันเกิดของน้องเปิดเพลงอยู่บ้านถึงเที่ยงคืนกว่าๆ ทางนั้นได้เปิดเพลงสวนมาแล้วพี่ชายได้บอกให้ปิดเพลงก็เดินไปบอกดีๆ ไม่ได้ด่าอะไร เหมือนเขาไม่พอใจทางผู้เสียชีวิตเขาได้ต่อยทางพี่ชายแล้วแกก็ล้มหัวฟาดพื้น พี่ชายไปคนเดียวไม่ได้มีการรุมกัน หลังจากนั้นตาและแม่ของตนก็ได้ไปเยี่ยมผู้เสียชีวิตแทนตนเพราะตนทำงาน หลังจากเกิดเหตุแล้วตนไม่ได้หลบหนีตนไปทำงานกลับมาบ้านทุกวัน ช่วงวันหยุดยาวปีใหม่พวกตนก็พากันไปเที่ยวแล้วก็พึ่งกลับมา เขาลงข่าวบอกว่าพวกตนได้หลบหนีตั้งแต่เกิดเหตุยังไม่กลับบ้านทั้งๆ ที่ตนยังอยู่บ้านไปทำงานตลอด

 

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการ สอบปากคำพร้อมส่งผู้ต้องหาฟ้องศาล และแจ้งข้อหา ทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย พร้อมส่งฟ้องศาลฝากขังต่อไป

 

ส่อพลิก! ลุงพิการถูกทืบปิดเครื่องเสียงงานปีใหม่ 2 หนุ่มแฉลื่นล้มตั้งท่าต่อย