เปิดใจวิลาวัลย์ สาวปานกกกอก คนพาลุงพลป้าแต๋นไปหาหมอธรรม

 

ทีมข่าวของเราได้มีโอกาสคุยกับ นางสาววิภาวัลย์ ใจเที่ยง ที่เปิดเผยกับเราว่า เป็นชาวบ้านกกกอกที่ไปร่วมกันหาน้องชมพู่ตั้งแต่วันแรกที่หาย และในวันที่ 13 ตัวเองก็เป็นคนพาลุงพลป้าแต๋นไปหาหมอธรรมที่จังหวัดสกลนคร เพื่อจะให้ดูว่าน้องชมพู่อยู่ที่ไหน

 

ซึ่งสาเหตุที่ลุงพลกับป้าแต๋นต้องไปหาหมอธรรม ก็เพราะว่ามีการนั่งพูดคุยกันที่บริเวณหน้าบ้าน แม่น้องชมพู่หลายหลายคนชาวบ้านก็บอกกันว่าน่าจะไปหาหมอธรรมเพื่อให้ช่วยดู ป่าไม่มีใครไปกับลุงพลกับป้าแต๋นตัวเองจึงอาสาพาไปเพราะเคยไปหาหมอธรรมคนนี้ก่อน

 

ซึ่งในวันนั้นตัวเองยังจำเหตุการณ์ได้ดีและรู้สึกว่าลุงพลไม่ได้มีพิรุธที่จะส่อแววว่าเป็นคนก่อเหตุฆ่าน้องชมพู่เลย ระหว่างทางลุงพลกับป้าแต๋นก็พูดแต่เพียงแค่คำว่า “ ขอให้เจอด้วยเถิดไม่รู้น้องเป็นยังไง ” และระหว่างที่หมอกำลังทำพิธีดูอยู่นั้นการใช้ไข่ต้มมาเสี่ยง ซึ่งหมอทำทำนายว่าน้องชมพู่ยังมีชีวิต ลุงพลกับป้าแต๋นก็ดีใจมาก พร้อมกับถามหมอธรรมต่อว่าจะได้เจอหลานไหม หมอธรรมตอบว่าได้เจอแต่น้องเริ่มอ่อน

 

และพอมาทราบเรื่องว่าลุงพลตกเป็นผู้ต้องหาในคดีนี้ตอนนั้นรู้สึกตกใจมาก ซึ่งตำรวจก็มาถามตัวเองเพื่อสอบปากคำเกี่ยวกับท่าทีของลุงพลป้าแต๋นตอนที่พาไปหาหมอธรรม ซึ่งตัวเองก็บอกกับตำรวจไปตามตรงเหมือนที่เล่าให้กับทีมข่าวของเราฟังว่า ลุงพลกับป้าแต๋นไม่ได้มีท่าทีพิรุธอะไรเลยมีแค่แสดงความห่วงใยว่าจะหาหลานเจอไหมและเมื่อหมอธรรมบอกว่าเจอลุงพลกับป้าแต๋นก็ดีใจมาก

 

จนมาถึงตอนนี้ตัวเองก็ยังเชื่อว่าลุงพลเป็นผู้บริสุทธิ์ด้วยท่าทีต่างๆที่สัมผัสได้ตั้งแต่วันแรกที่น้องหายไปที่สำคัญลุงพลเองก็ยังมีความพยายามช่วยตามหาน้องรวมถึงช่วยสนับสนุนเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกอย่างในช่วงแรกซึ่งส่วนตัวแล้วมองว่าคงไม่มีคนร้ายคนไหนที่จะช่วยทำให้ตามจับตัวเองได้ง่ายขนาดนี้

 

เปิดใจพ่อแม่น้องชมพู่ ลั่นขอสู้คดีต่อชั้นอุทธรณ์ เชื่อ “ลุงพล” เจตนาฆ่าลูกสาว อึ้งวันตัดสินลุงพล ตรงวันเกิด พล.ต.อ.สุวัฒน์ อดีต ผบ.ตร.

 

ล่าสุดทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินทางไปพูดคุยกับนางสาวิตรี วงศ์ศรีชา และนายอนามัย วงศ์ศรีชา พ่อแม่น้องชมพู่ หลังจากวันนี้ทั้งสองคนเดินทางเข้ากรุงเทพเข้ารายการของพี่หนุ่มกรรชัย โดยแม่น้องชมพู่ยังยืนยันกับทีมข่าวว่า ตนเองรู้สึกดีใจและขอบคุณศาลจังหวัดมุกดาหารที่ให้ความยุติธรรมกับครอบครัววงศ์ศรีชา ซึ่งตนเองรอคอยวันนี้มากว่า 3 ปีเต็ม วันนี้ตนเองพอใจในคำตัดสินของศาลชั้นต้นในระดับหนึ่ง แต่ไม่ได้พอใจเต็ม 100 % และยืนยันจะสู้คดีเพื่อลูกสาวต่อ

 

และตนเองยืนยันว่าจะดำเนินการต่อสู้คดีให้กับลูกสาวต่อในชั้นอุทธรณ์ เนื่องจากพยานหลักฐานที่ผ่านมา ตนเองและทีมทนายความมองว่า ลุงพลเจตนาฆ่าลูกสาว ไม่ใช่เพียงแค่กระทำการโดยประมาทเท่านั้น ส่วนเหตุผลที่ทำให้ตนเองคิดว่าลุงพลเจตนาฆ่าลูกสาว มีทั้ง

 

  1. หากลุงพลไม่ได้ตั้งใจอุ้มน้องไปทิ้งไว้บนภูเหล็กไฟจริง ทำไมลุงพลถึงไม่อุ้มน้องไปตามเส้นทางของชาวบ้านที่เขาเดินกันทั่วไป การที่ลุงพลมีเจตนาหลีกเลี่ยงเส้นทางของชาวบ้านพาน้องไปทิ้งบนภูเหล็กไฟ โดยมีพยานเห็นว่า ลุงพลไปปรากฎตัวอยู่แถวสวนยางพ่อแบม ก็ถือว่ามีเจตนาเอาลูกสาวไปโดยไม่อยากให้ใครเห็นอยู่แล้ว

 

  1. ศาลชั้นต้นได้ตัดสินว่าลุงพลเป็นผู้ลักพาตัวน้องชมพู่ขึ้นไปบนภูเหล็กไฟจริง และน้องชมพู่ถูกปล่อยทิ้งไว้อยู่บริเวณชั้น 5 ของภูเหล็กไฟ ซึ่งลุงพลต้องรู้อยู่แล้วว่าบริเวณด้านบนจุดที่ทิ้งน้องไว้ น้องไม่สามารถเดินลงหรือหนีไปไหนได้ และลุงพลต้องรู้อยู่แล้วว่า ตอนอุ้มน้องไปทิ้งบนภูเหล็กไฟ น้องยังมีชีวิตอยู่ เพราะ การอุ้มเด็กที่ตายไม่มีลมหายใจ กับอุ้มเด็กที่ยังชีวิต ลุงพลต้องดูออก นั่นแปลว่า ลุงพลมีเจตนาปล่อยให้ลูกสาวเสียชีวิตด้านบนเขาอยู่แล้ว

 

ส่วนเรื่องเส้นผมของน้องชมพู่ที่ตกอยู่บนรถลุงพล มีลักษณะการตัดตรงกับเส้นผมที่พบใกล้ศพน้องชมพู่ ลุงพลต่อสู้อ้างว่า ที่ผ่านมาลุงพลมักพาน้องชมพู่ขึ้นรถไปเที่ยวประจำ การที่ผมของน้องชมพู่จะตกอยู่บนรถก็ไม่แปลก และมองว่า ตำรวจได้เก็บหลักฐานโดยมิชอบ การตรวจเส้นผมด้วยแสงซิงโครตรอนไม่น่าเชื่อถือ ตนเองมองว่า ก็เป็นสิทธิ์ของลุงพลที่จะสู้

 

แต่จากที่ตนเองได้ติดตามข่าว วันที่ 11 มิถุนายน 63 ที่ตำรวจได้มีการค้นรถ ตนเองก็เห็นว่า ลุงพลก็อยู่ในเหตุการณ์ มีนักข่าว เจ้าหน้าที่ และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ยืนถ่ายภาพบันทึกวิดีโอไว้หมด ลุงพลจะอ้างว่า ตำรวจได้หลักฐานโดยมิชอบไม่ได้ และตอนนั้นที่ตำรวจเก็บหลักฐานไป ไม่มีใครรู้ด้วยซ้ำว่า ผลการตรวจเส้นผมมันจะไปตรงกับเส้นผมของลูกสาวที่ถูกตัดบนเขา ตำรวจนำเส้นผมไปเปรียบเทียบภายหลังแล้วถึงรู้ ลุงพลจะมองว่า ตำรวจกลั่นแกล้งก็เป็นไปไม่ได้

 

ส่วนผลของคำสาบานของลุงพลหลังจากนี้ที่เคยสาบานไว้จะเป็นอย่างไร ตนเองไม่รู้ แต่ตนเองเชื่อว่า ใครทำอะไรไว้ก็จะต้องได้แบบนั้น แต่ตนเองมองว่า การสาบานนั้น ถือเป็นสิ่งหนึ่งที่คิดว่า ใช้จับผิดพิรุธลุงพลได้ดี เพราะเหมือนเป็นการใช้จิตวิทยาอย่างหนึ่งเพื่อดูว่า ลุงพลจะปฎิบัติตัวอย่างไรในการสาบานตอนนั้น

 

ทีมข่าวได้สอบถามแม่ชมพู่ต่อถึงความสัมพันธ์ระหว่างแม่น้องชมพู่กับป้าแต๋นหลังศาลยกฟ้องป้าแต๋น จนถึงตอนนี้ยังเป็นพี่น้องกันอยู่หรือไม่ แม่น้องชมพู่ยอมรับว่า ตอนนี้ตนเองไม่ได้รักป้าแต๋นแบบพี่สาวเหมือนเดิมอีกแล้ว หลังจากที่ป้าแต๋นเข้าไปเกี่ยวข้องในคดีของลูกสาว ที่ผ่านมาป้าแต๋นปกป้องลุงพลมาตลอด พี่สาวปกป้องพี่เขยซึ่งเป็นจำเลยในคดีของลูกสาว ตนเองเป็นแม่ของผู้ตาย แม่ก็จะขออยู่ข้างลูกเหมือนกัน ตนเองที่ผ่านมาช่วงแรกๆ ของดคี ตนเองเคยพยายามบอกป้าแต๋นแล้วให้ถอยห่างจากลุงพล แต่ป้าแต๋นไม่เคยฟัง แถมยังตอบโต้ด้วยท่าทีที่รุนแรงอีกด้วย

 

สุดท้ายแม่น้องชมพู่ได้ฝากขอบคุณไปถึงตำรวจทุกนายที่เข้ามาช่วยคลี่คลายคดีให้กับลูกสาวจนได้รับความเป็นธรรม ขอบคุณตำรวจชุดสืบสวนซึ่งบางคนต้องฝังตัวอยู่ภายในหมู่บ้านกกกอกกว่า 3 ปีเต็ม เพื่อคอยปกป้อง คุ้มครองพยาน คุ้มครองครอบครัวตนเองมาโดยตลอด ซึ่งเรื่องนี้ตนเองไม่เคยบอกใคร แต่วันนี้ตนเองคงบอกได้แล้ว เพราะจบคดีแล้ว

 

และที่สำคัญที่สุด ตนเองขอบคุณไปยัง พลตำรวจเอกสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข อดีต ผบ.ตร. ที่ลุยคดีของลูกสาวจนศาลตัดสินเอาผิดคนร้ายในคดีได้ ขอบคุณที่ท่านใส่ใจในคดีของลูกสาวมาโดยตลอด ซึ่งตนเองก็เพิ่งทราบเหมือนกันว่า วันที่ 20 ธันวาคม วันที่ศาลตัดสินคดีของลูกสาว ก็เป็นวันเกิดของท่านสุวัฒน์ อดีต ผบ.ตร. ด้วยเช่นกัน และท่านก็รอคอยผลการตัดสินคดีนี้เหมือนกัน ขอให้เหตุการณ์เมื่อวานเป็นของขวัญวันเกิดให้กับตัวท่านอดีต ผบ.ตร. ด้วย

 

น้าต่ายเผยดีใจที่ป้าแต๋นถูกยกฟ้อง ส่วนลุงพล ก็ให้เขาพิสูจน์ตัวเองต่อไป เชื่อลุงไม่ได้กระทำน้อง แต่ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานของตำรวจ

 

ต่อมาทีมข่าวช่อง 8 ได้มาพูดคุยกับนางจุไรภรณ์ หรือน้าต่าย น้าของน้องชมพู่ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า สำหรับคำตัดสินของศาลเมื่อวานนี้ อันดับแรก ตัวเองก็รู้สึกดีใจที่ศาลยกฟ้องป้าแต๋น ส่วนกรณีของลุงพลตัวเองก็ไม่อยากที่จะก้าวก่ายศาล ก็ให้ลุงพลเขาต่อสู้ต่อไป ในชั้นอุธรณ์ ถ้าหากว่าเขาไม่ผิดเขาก็ต้องหาหลักฐานมายืนยันความบริสุทธิ์ ซึ่งตัวเองก็ขอเป็นกำลังใจให้กับลุงพล ซึ่งตัวองก็รักและเคารพลุงพลเหมือนเดิม

 

ส่วนตัวก็คิดว่าลุงพลไม่น่าจะกระทำน้องชมพู่ เพราะที่ผ่านมา ลุงพลเป็นคนที่รักหลานสาวมาก และตัวเองก็อยากรู้ว่าแรงจูงใจมาจากอะไร เพราะตอนนี้ จากที่ศาลตัดสินเมื่อวาน ตัวเองก็ยังไม่ทราบแรงจูงใจในเรื่องนี้เลย แต่ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานของตำรวจ

 

น้าแตเผย ตอนชมพู่มีชีวิต ไม่เคยเห็นลุงพลตัดผม หรือขอเส้นผมน้องชมพู่

 

ทีมข่าวช่อง 8 ได้มาสอบถามนายนรินทร์ หลาบโพธิ์ หรือน้าแต ถึงประเด็น เรื่องเส้นผม

 

น้าแตบอกกับทีมข่าวว่า ตอนที่น้องชมพู่มีชีวิต ตัวเองก็ไม่เคยเห็นลุงพลมาตัดผมน้องชมพู่ หรือขอเส้นผมน้องชมพู่แต่อย่างใด และก็ไม่เคยเห็นลุงพลไปตัดผมหรือขอเส้นผมของเด็กๆคนอื่นๆในหมู่บ้านอีกด้วย

 

สำหรับลุงพล เท่าที่ตัวเองทราบมา เวลาลุงพลตัดผม เขาก็จะตัดผมด้วยชุดตัดผมของตัวเอง ที่ลุงพลซื้อมาและน้าแตก็ทราบมาว่า เมื่อปีนี้แต่ไม่รู้ว่าเดือนไหน ลุงพลก็ได้มอบชุดตัดผมดังกล่าว ให้กับชาวบ้านชื่อแมน เพื่อตอบแทนที่นายแมนกรีดยางพาราให้

หมอผียังช็อก! ลุงพลบุกสำนักตีเนียนหาชมพู่ "พุทธ" เผยนาทีดับชมพู่ทรมาน