เส้นทางที่คาดว่าแป้งใช้หนีจากวัดพรุนายขาวไปท่าเรือ

 

จากกรณี ซึ่งมีรายงานว่า นายสุเชษฐ์ ให้การว่าได้รับการติดต่อจากบุคคล (ไม่ขอเอ่ยนาม )ให้ไปรับตัวนายเชาวลิตฯโดยตนได้ใช้รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นเวฟสีดำ คันดังกล่าว ขี่ไปรับนายเชาลิตฯที่ บ้านป่าพง อ.ตะโหมด จ.พัทลุง โดยเมื่อไปถึงพบนายเชาวลิตฯริมถนน ตนจึงได้ส่งสัญญาณให้นายเชาวิตๆมาขึ้นรถ และได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ โดยมีนายเชาวลิต นั่งซ้อนท้าย จนมาถึงหน้าวัดพรุนายขาว ต.คลองใหญ่อ.ตะโหมด จ.พัทลุง จึงส่งต่อให้กับบุคคลอีกบุคคลหนึ่งซึ่งตนไม่รู้จักแต่จำรถที่มารับได้เป็นรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออสสีดำจำหมายเลขทะเบียนไม่ได้ โดยก่อนเดินไปขึ้นรถยนต์ก๋ง นายเชาวลิตฯได้สั่งตนว่าให้ไปเอาของโดยไม่ได้บอกว่าเป็นอะไรไปเก็บ

 

ล่าสุดทีมข่าวช่อง 8 ได้ไปตรวจสอบเส้นทางหนีของเสี่ยแป้ง หลังจากพบภาพวงจรปิดสอดคล้องกับคำให้การของนายสุเชษฐ์ ที่มีการไปรับและส่งเสี่ยแป้ง ขึ้นรถวีออสที่ข้างวัดพรุนายขาว

 

โดยเส้นทางที่ทีมข่าวไปตรวจสอบหลังภาพวงจรปิด จะเป็นเส้นทางต่อมาจากหน้าวัดพรุนายขาว ที่เห็นภาพรถวีออสสีดำ หลังจากไปรับเสี่ยแป้ง ออกมาแล้ว วันนี้ทีมข่าวจะพาไปดูเส้นทางต่อจากกล้องวงจรปิดหน้าวัด ซึ่งจากการตรวจสอบ หลังจากขับรถผ่านวัดมาประมาณ 3 กิโลเมตร ก็จะมาถึงทางแยก โดยหากเลี้ยวซ้ายไปตามถนนลาดยาง ตลอดเส้นทางจะมีบ้านคนและจะมีวงจรปิด ตามบ้านคนตลอดเส้นทาง ซึ่งเส้นทางนี้ จะเป็นถนนลาดยาง 2 เลน ที่ชาวบ้านใช้เป็นเส้นทางสัญจรผ่านไปมา ซึ่งปลายทางของถนนดังกล่าว จะไปโผล่ที่ทางแยกหน้า สภ.ตะโหมด และจากการตรวจสอบไม่มีกล้องตัวไหนที่สามารถจับภาพรถวีออสสีดำวิ่งผ่านไปตามเส้นทางดังกล่าว

 

ส่วนอีกเส้นทาง ก็คือเส้นทางตรง โดยหากไม่เลี้ยวซ้ายไปตามถนน ก็จะเป็นถนนคอนกรีต ซึ่งถนนเส้นดังกล่าว เป็นทางลัดที่เชื่อมไปสู่ ตำบลหนองธง อำเภอป่าบอน และไปสู่ถนนหลักที่จะมุ่งหน้าไปยังบ้านของผู้ต้องหาทั้ง 5 คนที่ช่วยเสี่ยแป้งได้ และเส้นทางดังกล่าวหากออกไปสู่ถนนหลัก ถ้าไม่เข้าไปในพื้นที่บ้านของผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ก็จะเป็นเส้นทางสายหลักที่มุ่งหน้าไปที่จังหวัดสงขลาและจังหวัดสตูลได้

 

โดยเส้นทางดังกล่าว วันนี้จากการตรวจสอบพบว่า ตลอดเส้นทางที่เป็นถนนคอนกรีต ที่ต้นทางจะมีบ้านคนประมาณ 10 หลัง จากนั้นเมื่อผ่านบ้านคนไปประมาณ 1 กิโลเมตร จะมีทางแยกให้เลี้ยวซ้าย โดยเมื่อเลี้ยวไปแล้ว ก็จะเป็นทางลูกรัง ซึ่งสองข้างทางจะเป็นป่ายางและส่วนปาล์ม ประมาณ 2 กิโลเมตร

 

จากนั้นพอสุดทางป่ายาง ก็จะมีทางแยกให้ตรงไปกับเลี้ยวขวา ซึ่งหากเลี้ยวขวา ก็จะเป็นถนนคอนกรีต ผ่านบ้านคนไปอีกประมาณ 3 กิโลเมตร และพอสุดทางบ้านคน ก็จะไปโผล่ถนนหลักที่สามารถมุ่งหน้าไปยังอำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา ที่เป็นรอยต่อเส้นทางมุ่งหน้าไปยังจังหวัดสตูล

 

ด้าน นางพิน (นามสมมติ) อายุ 45 ปี ซึ่งเป็นชาวบ้านที่บ้านอยู่ในเส้นทางลัดไปสู่ถนนหลักอำเภอป่าบอน เปิดเผยว่า ถนนเส้นทางลัดที่ช่อง 8 มาสำรวจ เป็นเส้นทางไปสู่ถนนหลักที่สามารถไปยัง อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลาและไปยังจังหวัดสตูลได้ ซึ่งเส้นทางนี้ ส่วนมากคนพื้นที่จะใช้สัญจรผ่านไปมา โดยช่วงกลางคืนจะไม่ค่อยมีรถยนต์หรือรถกระบะวิ่งผ่าน ซึ่งส่วนมากรถที่วิ่งวนไปวนมาในเวลากลางคืน จะเป็นรถจักรยานยนต์ของชาวบ้านที่ขี่รถออกไปกรีดยางกัน ซึ่งการออกไปกรีดยางชาวบ้านทุกคนก็จะมีไฟฉายติดไปที่ด้วยที่ศรีษะ ส่วนเส้นทางแยกที่เชื่อมไปยัง อำเภอตะโหมด ส่วนตัวถ้าจะเดินทางไปตลาดก็จะขี่รถออกไปถนนหลัก โดยจะไม่ขี่รถย้อนไปทางหน้า สภ.ตะโหมด เนื่องจาก เส้นทางดังกล่าวมันเปลี่ยว

 

วันนี้ทีมข่าวยังได้เดินทางมาที่ท่าเรือบากันโต๊ะทิด อ.ละงู จ.สตูล และได้พูดคุยกับนายสมศักดิ์ ใจดี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 7 เล่าว่า ในพื้นที่บ้านบากันโต๊ะทิด อ.ละงู จ.สตูล มีท่าเรือลงเรือใหญ่ 3 ท่าเรือ คือ ท่าเรือรัฐซึ่งเป็นท่าเรือประมงของชาวบ้าน 1 แห่ง และท่าเรือเอกชนอีก 2 แห่ง โดยตลอดทางชุมชนติดคลองบากันโต๊ะทิด สามารถลงเรือได้ตามป่าชายเลนซึ่งเป็นทางธรรมชาติ จึงไม่สามารถบอกได้ว่า หากเสี่ยแป้งลงเรือในชุมชนนี้จะลงเรือที่ท่าเรือใด

 

ส่วนตัวเพิ่งเห็นภาพวงจรปิดรถต้องสงสัยที่คาดว่าเสี่ยแป้งนั่งคันนี้จากจ.พัทลุงมาที่จ.สตูล จากภาพที่ปรากฎตามสื่อ ยืนยันว่าตนและชาวบ้านไม่มีใครมีส่วนร่วมหรือให้การช่วยเหลือเสี่ยแป้งลงเรือในคืนวันที่ 10 พ.ย. ซึ่งตนไม่ทราบว่าเสี่ยแป้งเข้ามาในพื้นที่ และได้สอบถามชาวบ้านแล้ว ก็พบว่าไม่มีใครออกเรือประมงแล้วพาคนแปลกหน้าลงทะเลช่วงประมาณคืนวันที่ 9-10 พ.ย.

 

ขณะที่ประเด็นที่มีข่าวลือว่าอาจมีนักการเมืองในพื้นที่อ.ละงูให้การช่วยเหลือเสี่ยแป้ง ต้นขอเปิดเผยว่าตามข้อเท็จจริงในพื้นที่ทะเลมีสองนักการเมืองที่กลุ่มธุรกิจเกี่ยวกับทะเลอยู่สองคน โดยมีการแบ่งพื้นที่ดูแลทะเลสองฝั่งคือฝั่งอ่าวไทยและฝั่งอันดามัน ซึ่งนักการเมืองทั้งสองรายนี้ก็ต่างรู้จักกันกับเสี่ยแป้ง แต่เป็นเรื่องปกติที่นักการเมืองก็จะรู้จักกับคนที่เป็นนักการเมืองท้องถิ่นในภาคใต้หลายคนซึ่งแป้งก็เคยอยู่ในแวดวงนั้น และไม่ได้รู้จักแค่แป้งเพียงคนเดียวยังรู้จักกับอีกหลายคนด้วย

 

ส่วนตัวมองว่านักการเมืองสองคนที่ตนพูดถึงเชื่อว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องเสี่ยแป้งหลบหนี เนื่องจากนักการเมืองทั้งคู่ก็ทำธุรกิจทางทะเลได้กำไรแต่ละปีเยอะอยู่แล้วซ้ำยังมีเงินและพรรคพวกเยอะ คงไม่เอาตัวเองมาแลกกับการช่วยแป้งซึ่งแป้งก็ไม่ได้เอื้อผลประโยชน์อะไรให้นักการเมือง

 

แต่หากถามว่าตนคาดการณ์ว่าหากแป้งหนีลงเรือในชุมชนของตนจะหลบหนีได้อย่างไร เนื่องจากทั้งตนและชาวบ้านไม่รู้เรื่อง ตนสันนิษฐานว่าแป้งอาจจะมีเครือข่ายในพื้นที่ซึ่งเครือข่ายคนนั้นอาจจะมีการประสานญาติหรือใครบางคนที่อยู่เกาะต่างๆแล้วแล่นเรือประมงหรือเรือหัวโทงมารับแป้งที่ท่าเรือบากันโต๊ะทิด จากนั้นก็แล่นเรือหลบหนีไป

 

ส่วนกรณีที่ทำไมจะต้องเลือกเรือหัวโทงเป็นเรือหลบหนี เนื่องจากหากใช้เรือสปีดโบ๊ทเข้ามาในพื้นที่ก็จะมีพิรุธเพราะชาวบ้านแถวนี้ใช้เรือประมง อีกทั้งในส่วนพื้นที่ทะเลตั้งแต่คลองบากันโต๊ะทิดจนไปถึงเกาะตะรุเตา เป็นพื้นที่ประมงของชาวบ้าน จะมีเจ้าหน้าที่มาตรวจตราไม่มากทางทะเล ซึ่งถ้าเป็นเรือประมงจะรอดจากการตรวจตราแต่หากเป็นเรือสปีดโบ๊ตในพื้นที่ทางทะเลที่ตนพูดถึงจะต้องถูกตรวจสอบแน่นอน

 

แต่ในส่วนที่ว่าหากหลบหนีไปถึงเกาะตะรุเตาแล้วจะข้ามไปยังประเทศมาเลเซียและอินโดนีเซียเป็นไปได้ยากต่อการหลบหนีเพราะมีตำรวจหลายหน่วยที่ตรวจตราทางทะเลบริเวณนั้น เพราะย่านนั้นเป็นอุทยานและอยู่เขตชายแดนไทย

 

 

 

เปิดทางลับแป้งหลบกล้องหนีชุดล่าออกทะเลซุกอินโดฯ ผู้ใหญ่บ้านยันไร้คนช่วยเปิดทาง