ประธานติ่งไร้กังวลหลังให้ข้อมูลจเรตำรวจ ลั่นบางเรื่องอยู่ในสำนวนของคดีตอบไม่ได้ ด้าน จ่ามิตร ดาบติ๊ก วิ่งหนีหลบสื่อ ขณะที่ไสว รุยันต์ผู้สื่อข่าวจเรเรียกสอบที่มาของคลิป

ความคืบหน้าในส่วนคดีของ เสี่ยแป้ง ซึ่งภายหลังที่มีการอัดคลิปและมีการพูดพาดพิงย้อนกลับไปในส่วนของคดีเก่าเกี่ยวกับการชิงตัวประกัน นายจรวด เมื่อช่วงปี 2562  ซึ่งในส่วนเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นได้มีชื่อของบุคคลที่เข้าไปเกี่ยวข้องในเหตุการณ์รวมทั้งสิ้น 4 ราย  ประกอบด้วย พ่อนายจรวด , อัยการบอย , ประธานติ่ง , จ่ามิตร  และ ดาบติ๊ก 

ล่าสุดทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการเรียกบุคคลที่ถูกพาดพิงในคลิปเข้าให้ข้อมูลกับทางสำนักงานจเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.)  โดยเมื่อวานนี้ทางด้านนายจรวด ได้เดินทางมาให้ปากคำแล้ว แต่ปฎิเสธที่จะให้ข้อมูล  

ต่อมาเวลา 13.20 น. ภายหลังที่ทางประธานติ่ง ให้ข้อมูลกับตำรวจแล้ว  โดยมีสีหน้านิ่งเฉย และไม่ได้มีอาการเครียด โดยประธานติ่ง กล่าวว่า วันนี้เป็นการเข้ามาให้ข้อมูล ยืนยันว่าการเข้ามาให้ข้อมูลไม่ได้มีประเด็นอะไรมากมาย เป็นเรื่องที่หลายคนเองก็ทราบตามกระแสข่าว  

ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการสอบถามในหลากหลายประเด็น แต่ประเด็นหลักจะอยู่ในเรื่องของสำนวนคดีในอดีต ซึ่งหลังจากนี้เองตอนนี้ตำรวจก็ไม่ได้มีการนัดหมายเข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติม ย้ำว่าไม่เครียดและไม่ได้รู้สึกกดดัน เพราะทุกอย่างตนเองก็พูดไปตามความจริง ทุกอย่างอยู่ในสำนวน ยืนยันว่าในส่วนของประกันที่มีการชิงตัวผู้ต้องหาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้มีการสอบถาม เช่นเดียวกับทางจ่ามิตร และ ดาบติ๊ก ก็ไม่ได้มีความกังวลแต่อย่างใด ทั้งนี้ทั้งเจ้าตัวได้ขึ้นรถและขับออกไปตามปกติ

ขณะที่ในส่วนของ ดาบติ๊ก และ จ่ามิตร ซึ่งเป็นอีกบุคคลที่มาให้ให้ข้อมูล ภายหลังให้ข้อมูล แล้วเสร็จ ได้ใช้ช่องทางบริเวณด้านข้างของอาคารสำนักงานขึ้นรถกระบะส่วนตัวที่จอดอยู่บริเวณด้านหลังออกไปทันที 

ต่อมาเวลา 13.40 น. นายไสว รุยันต์  ผู้สื่อข่าวภูมิภาค ประจำจังหวัดพัทลุง ซึ่งเป็นบุคคลที่ทางด้านเสี่ยแป้งได้ไว้วางใจ และมีการส่งคลิปในส่วนของ EP 1และ EP 2 ที่พูดถึงเรื่องราวเกี่ยวกับคดีความและการเรือนจำออกมา ซึ่งวันนี้ทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการเชิญตัวมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับกรณีเอกสารร้องเรียนเจ้าหน้าที่รัฐรวมไปถึงประเด็นเกี่ยวกับที่มาที่ไปของคลิปดังกล่าว 

โดยเจ้าตัวได้มีการเปิดใจว่า สำหรับวันนี้การเดินทางมาให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เบื้องต้นมีการประสานในฐานะพยานเพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับที่มาที่ไปของเอกสารเกี่ยวกับการร้องเรียนเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ออกมาก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นเอกสารจากผู้ต้องขังรวมไปถึงเป็นเอกสารที่มีการรวบรวมรายชื่อ 300 กว่าคนเพื่อร้องเรียนเกี่ยวกับนายตำรวจสายปราบปราม  รวมไปถึงในส่วนของเอกสารหลักฐานที่ทางเสี่ยแป้งได้มีการส่งมาให้ก่อนหน้านี้  

ยืนยันว่าไม่ได้มีความหนักใจในการเข้ามาให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะการได้มาซึ่งเอกสารหลักฐานส่วนตัวก็ตามหน้าที่ในฐานะสื่อมวลชน และสามารถอธิบายถึงการส่งข้อมูลหลักฐานมาให้  เมื่อถามว่าตอนนี้ด้วยขั้นตอนและหลักฐานกระบวนการหลายอย่างเดินหน้าไปแล้วบางส่วน ในฐานะที่เราเองเคยมีโอกาสได้พูดคุยและได้รับข้อมูลจากทางด้านเสี่ยแป้งมองว่าเขาเองยังคงมีความกังวล หรือยังไม่เชื่อมั่นว่าจะได้รับความยุติธรรมหรือไม่ ในส่วนนี้ตนเองทางเสี่ยแป้งยังคงมีความกังวล ในหลายอย่างรวมไปถึงในส่วนของครอบครัวเช่นกันเขาเองก็ยังหวาดกลัวและกังวล กับความปลอดภัยของเสี่ยแป้งหากมีการเข้ามอบตัวตามขั้นตอนกระบวนการยุติธรรม เพราะวันนี้เองแม้ว่าทุกอย่างจะเดินหน้าไปแต่ในส่วนของหลักประกันว่าถ้าเขาเองออกมาสู้คดี และเดินหน้าตามกระบวนการยุติธรรม จะมีสิ่งไหนที่สามารถการันตีความปลอดภัยของเขาได้   และถ้าเขาเองออกมามอบตัวจริง เขาคงอยากถามว่าความปลอดภัยในการที่เขาจะเข้ามอบตัวอยู่ในระดับไหน และหากเข้าไปอยู่ในขั้นตอนกระบวนการของศาลและเข้าไปอยู่ในเรือนจำความปลอดภัยของเขาภายในนั้นจะเป็นเช่นไร ซึ่งวันนี้ตนตนเองมองในฐานะคนนอกก็ยังคิดว่าหน่วยงานยังไม่มีคำตอบชัดเจนให้กับเขา 

ทางนี้ภายหลังที่ทางเสี่ยแป้งได้มีการส่งคลิปจำนวน 2 คลิปให้กับตน หลังจากนั้นทางด้านเสียแป้งเองก็ไม่ได้มีการติดต่อมาโดยตรงกับตนจะประสานส่วนไหนอย่างไรนั้นตนไม่ทราบ