"เรวัช" แนะฝังตัวบ้านผู้ใหญ่บ้าน ก่อนรวบตัว

พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร อดีต ผบช.ปส. เปิดเผยระหว่างบรรยายโครงการศึกษาอบรมหลักสูตรกำนันผู้ใหญ่บ้าน โดยช่วงหนึ่งที่ได้พูดถึงกรณีการไล่ล่าเสี่ยแป้งของเจ้าหน้าที่

โดย พล.ต.อ.เรวัช ระบุว่า ได้ดูคลิปการซ้อมยิงปืนของเสี่ยแป้งก็เห็นว่าไม่ได้มีความชำนาญหรือเก่งกาจอะไร ผู้ใหญ่บ้านก็รับมือได้ ถ้าจะให้ถูกคือตำรวจต้องไม่แต่งเครื่องแบบเอาเปล เป้ มุ้งและเสบียงไป ไปถึงก็เอา จยย.จอดซุ่ม เอากิ่งไม้คลุมแล้วก็ผูกเปลดักในเส้นทางที่เราคิดว่าเราเป็นไอ้แป้งเราจะหนีออกทางไหนก็ไปดักตรงนั้น อย่างนี้พอมีโอกาสเจอแล้วก็ไม่ต้องแต่งเครื่องแบบเพราะถ้ามันเห็นมันก็ไม่ยิงเรามันจะคิดว่าเราเป็นชาวบ้านมาขอความช่วยเหลือ แต่ถ้าแต่งเครื่องแบบมันอาจจะยิงเพราะคิดว่าเราจะไปจับมัน

แต่ก็ต้องมีการส่งชุดปฏิบัติการ 5-6 ชุดเข้าไป เจอกระท่อมที่ไหนก็เข้าชาร์จ แล้วบ้านคนที่รอบป่าก็ให้จัดตำรวจนอกเครื่องแบบไปนอนเลยบ้านละคน ๆ ถ้ามันโซซัดโซเซออกจากป่าได้ สิ่งแรกที่มันจะหาคือเสบียงอาหาร ผมว่าคนจับได้เผลอๆ จะเป็นผู้ใหญ่บ้านเพราะมันต้องไปขอข้าวบ้านใครซักคนแล้วไปแจ้งผู้ใหญ่บ้าน เงินรางวัลนำจับก็แบ่งกัน ผู้ใหญ่บ้านไปแจ้งตำรวจตำรวจก็มาวิสามัญ ตำรวจได้หน้าปลอดภัยกันหมด ผมว่าน่าจะจบแบบนี้

 
นายพรานเผย ยาเส้นช่วยป้องกันทากกัดได้ ส่วนไข้ป่าวิธีป้องกันต้องไม่ให้ยุงกัด

ทีมข่าวช่อง 8 ได้คุยกับ นายวิรัตน์ อายุ 57 ปี พรานป่าที่ขึ้นเขาไปหาของป่าขาย เผยกับทีมข่าวว่า เนื่องจากข้างบนเขาบรรทัดเป็นป่าดิบชื้นทำให้มีทาก มีปิงค่อนข้างเยอะ โดยปกติแล้วชาวบ้านก็จะมีวิธีการป้องกันทากกัดด้วยการใช้ยาเส้นนำไปชุบน้ำให้ชุ่มชื้นก่อนเอามาทาตามตัว พอเดินป่าเดินเขาทากมาโดนตัวเรามันจะเมากลิ่นยาเส้นแล้วตายไปเองไม่ทันได้กัดเรา หรืออีกวิธีที่ชาวบ้านใช้ก็คือการใช้น้ำส้ม หรือน้ำส้มสายชู ทาตามตัวได้เช่นกัน

ส่วนไข้ป่าทางเจ้าหน้าที่ของรัฐเคยขึ้นมาฉีดยาไล่ยุงในหมู่บ้านตระแล้วเรื่อยๆ และมีการแจกยาไข้ป่ามาเรเลียไว้ให้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีวิธีที่ป้องกันไม่ให้เป็นไข้ป่าที่ชาวบ้านใช่กันทั่วไปได้ก็มีการทายากันยุงที่ตัวก่อนขึ้นป่าเขา การก่อกองไฟก่อนนอนเพื่อใช้ควันไล่ยุง และการนอนในถุงนอน

แต่ถ้าเกิดเป็นไข้ป่าไปแล้ว และไม่มียาแกไข้ป่ามาเรเลีย เบื้องต้นก็ต้องกินยาแก้ปวดธรรมดารักษาไปก่อน และนำเอาใบตองของกล้วยทองเสา ไปต้ม ก่อนเอามาผสมน้ำปกติอาบ จะช่วยลดไข้ได้ แต่อย่างไรก็ตามถ้าหากเป็นไข้ป่าก็จะต้องรีบลงมารักษาที่โรงพยาบาลจังหวัดทุกคน

ส่วนเรื่องอาหารการกินข้างบนก็หากินได้ง่าย เพราะมีพืชผักที่กินได้หลายอย่าง เช่น ผักกูด ผักหวานป่า ยอดตาหมัด มีให้กินเยอะ

โดยปกติตนเองจะขึ้นเขาบรรทัดไปหาเก็บของป่าพืชผัก หาปลาหากบขาย รายได้วันนึงได้ไม่ต่ำกว่า 2000 บาทเลย ส่วนใหญ่ชาวบ้าน อ.ปะเหลียน จะขึ้นเขาหาของป่า หาสัตว์ขายเป็นรายได้หลักกันแทบจะทุกคนอยู่แล้ว แต่พอเกิดเรื่องนี้ขึ้นเจ้าหน้าที่อยู่บนเขาถือปืนล่าตัวคนร้าย ชาวบ้านก็ไม่สามารถขึ้นไปบนเขาได้ ทำให้รายได้ของชาวบ้านหายไป

ตนก็อยากให้ตำรวจจับคนร้ายให้ได้โดยไว ชาวบ้านจะได้ไม่เดือดร้อนแบบนี้