"มงคลกิตติ์" แบ่งรับแบ่งสู้ ดึง"ปูอัด" สังกัดพรรค บอกต้องคุยกัน แต่ ยอมรับเสี่ยงกว่าเคส "สส.แจ้" หลังโดนร้องจริยธรรมพ่วง

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ อดีตหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคก้าวไกล มีมติขับนายไชยามพวาน มั่น​เพียร​จิตต์​ สส.จอมทองออกจากพรรค พรรคไทยศรีวิไลย์ยินดีต้อนรับหรือไม่ ว่า ยังไม่ได้พูดคุยกันในรายละเอียดของพฤติกรรมที่เกิดขึ้น ยังไม่ทราบว่าการกระทำความผิดรุนแรงมากแค่ไหน ต้องมานั่งคุยกันและพูดความจริง ห้ามโกหก พรรคตนยินดีที่จะให้ทุกคนได้กลับตัวกลับใจอยู่แล้ว เพราะว่า มันไม่ใช่เรื่องของการทุจริตคอรัปชั่น รุกป่าสงวน และ สส.ที่ตนรู้จักส่วนใหญ่ก็ไม่ใช่คนดีเท่าที่ควร เป็นโจรกันมาก่อนทั้งนั้น แต่มันขึ้นอยู่กับว่าตอนที่เป็น สส.แล้ว เขาได้ทำความดี มากกว่าความเร็วหรือเปล่า ถ้าทำความดีมากกว่าความเลวมันก็พอรับได้

แต่ยอมรับ ว่า เคสของ ปูอัด ค่อนข้างสุ่มเสี่ยงมากกว่าเคสของ สส.แจ้ เพราะถ้าถึงขั้นล่วงละเมิดทางเพศ มันถือว่าร้ายแรง แต่อันนี้เราก็ยังไม่ทราบในรายละเอียดที่แท้จริง ดังนั้น ต้องพูดคุยกันก่อน แต่สิ่งที่เขาต้องเจอคือการตรวจสอบด้านจริยธรรม หลังมีคนไปร้อง ป.ป.ช.ซึ่งขั้นตอนน่าจะใช้เวลา 8 เดือน ถึง 1 ปีในการพิสูจน์เรื่องนี้

อย่างไรก็ตาม เท่าที่พูดคุยกับบรรดานักการเมืองตอนนี้พรรคที่มีมากกว่า 2 คนขึ้นไป ไม่มีใครรับแน่นอน ทั้ง สส.แจ้และสส.ปูอัด ส่วนพรรคที่มีเสียงเดียวตอนนี้ยังแบ่งรับแบ่งสู้ แต่หากเขาหาไม่ได้ใน 30 วัน ก็จะต้องมีการเลือกตั้งซ่อม ซึ่ง สส.ปูอัด ก็จะต้องชดเชย ค่าเสียหายในการจัดการเลือกตั้งด้วยซึ่งตกอยู่ที่ 8-10 ล้านต่อเขต

"สส.แจ้ค่อนข้างเบาบางกว่าและมีโอกาส แต่ถึงจะทำจริง ก็มีโอกาสที่จะเป็น สส. อยู่ไปได้จนครบวาระ แต่สำหรับคุณปูอัดสุ่มเสี่ยงที่จะซิ่งสมาชิกภาพ ภายใน 1 ปีนับจากนี้ และอาจจะต้องจัดการเลือกตั้งซ่อม"นายมงคลกิตติ์ ระบุ