วันที่ 6 พฤศจิกายน 2566 พ.ต.อ.ยุทธนา งามชัด ผกก.สภ.เมืองหนองคาย และ พ.ต.ท.พุฒิชัย จันทร์ทอง รอง ผกก.สส.สภ.เมืองหนองคาย ได้รับแจ้งเหตุ ทำร้ายร่างกาย โดยใช้อาวุธ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ บริเวณชุมชน อ.เมืองหนองคาย จ.หนองคาย จึงได้สั่งการให้ พ.ต.ท.กันตินันท์ สงครามยศ สว.สส.สภ.เมืองหนองคาย พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองหนองคาย จึงได้ร่วมกับพนักงานสอบสวน ร่วมกับเจ้าหน้าที่สมัครกู้ภัย ตรวจสถานที่เกิดเหตุ

 

เมื่อไปถึงพบ ผู้บาดเจ็บ ทราบชื่อต่อมา คือ นายเทวา อายุ 62 ปี ซึ่งเสียชีวิตในที่เกิดเหตุก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาล จากการสอบถามประจักษ์พยาน ทราบตัว ผู้ก่อเหตุ คือ นายน้อย อายุ 59 ปี ได้ทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย ในช่วงชุลมุนผู้ก่อเหตุได้ใช้ท่อนไม้ไผ่ฟาด ก่อนใช้อาวุธมีดที่เตรียมมาแทงเข้าที่บริเวณลำตัวผู้เสียหายหลายครั้ง (5 แผล) หลังเกิดเหตุ ผู้ก่อเหตุได้ทิ้งท่อนไม้ไผ่และอาวุธมีดไว้ในสถานที่เกิดเหตุ แล้วได้หลบหนีไป

 

เจ้าพนักงานตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองหนองคาย ได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐานโดยรอบ และได้ตรวจสอบประวัติคดีอาญาของผู้ก่อเหตุ ทราบว่า นายน้อย ผู้ก่อเหตุ เคยถูกจับกุมในคดีเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) เมื่อเดือน กุมภาพันธ์ 2566 และมีพบมีประวัติเคยถูกจำคุกในคดีฆ่าคนตายมาแล้ว เหตุเกิดที่จังหวัดนครสวรรค์ จึงได้เร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

 

ต่อมา เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2566 เวลาประมาณ 10.00 น. เจ้าพนักงานตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองหนองคาย สามารถติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้

 

จากการสอบถามทราบเหตุและแรงจูงใจในการก่อเหตุ ทราบว่า นายน้อย วรรณทอง ผู้ก่อเหตุ เป็นอดีตคนรักเก่าของ นางสาวสุกัลย์ อายุ 46 ปี เจ้าของบ้าน บริเวณสถานที่เกิดเหตุ ได้มาทำร้ายร่างกาย นายเทวา ผู้ตาย ซึ่งเป็นคนรักใหม่ของ นางสาวสุกัลย์ เกิดจากปมหึงหวง โดยผู้ก่อเหตุรับไม่ได้ที่ นางสาวสุกัลย์ มีคนรักใหม่ ทำให้เกิดอารมณ์โกรธ ขาดสติ ได้ใช้ไม้ฟาดเข้าที่หัวของ นายเทวา และได้ชกต่อยกัน หลังจากที่ปลุกปล้ำกัน นายน้อย ได้ใช้มีดซึ่งได้พกติดตัวมาแทงเข้าที่บริเวณลำตัวของ นายเทวา จนนายเทวา แน่นิ่ง หลังจากนั้นตนได้ทิ้งอาวุธมีดไว้ในที่เกิดเหตุ และหลบหนีไป

 

นายน้อย ผู้ก่อเหตุบอกว่า สาเหตุที่ทำให้ก่อเหตุครั้งนี้ เนื่องจากตนแค้นใจที่อดีตภรรยาพาชายคนใหม่เข้ามาอยู่ในบ้านด้วย โดยเฉพาะช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่ามมา ตนมาอยู่กินกับอดีตภรรยามา 5 ปีแล้ว ช่วงที่ตนเข้ามาอยู่ด้วยต่างคนต่างไม่มีใคร ปกติตนก็จะอาศัยอยู่ที่บ้านด้วยตลอด ตอนหลังไม่ค่อยเข้าใจกัน ตนเลยไปอยู่ที่กระต๊อบข้างบ้าน บางครั้งตนก็ยังไปหลับนอนด้วยอยู่ ก่อนเกิดเหตุตนอดใจไม่อยู่ ได้ยินเสียงเขาพูดหวานแหววกัน เรียกกันที่รัก พูดทั้งผู้หญิงผู้ชาย ตนไม่ได้เตรียมการอะไรมาก่อนที่จะก่อเหตุ มีดที่ตนพกก็เอาไว้ป้องกันตัว เพราะเคยมีการท้าตีท้าต่อยกัน วันไหนที่ตนจะไปนอนที่กระต๊อบก็เลยต้องพกมีดไปด้วยเพื่อความปลอดภัย ตนไม่เคยคิดจะทำร้ายทั้งสองคนมาก่อน แต่พอได้ยินที่เขาพูดหวานด้วยกันก็เกิดอารมณ์หึงหวงขึ้นมาทันที ตอนที่ตนก่อเหตุ ผู้ตายกำลังยกถังน้ำเพื่อไปให้อดีตภรรยาอาบ ตนเข้าไปคุยด้วย พูดจาไม่เข้าหูกันตนก็ลงมือก่อนเลย คือเดินไปเอาท่อนไม้ไผ่มาฟาด ขณะกำลังชุลมุนอดีตภรรยาร้องบอกเมื่อเห็นมีดหล่นอยู่บนพื้น ตนก็รีบคว้ามีดมาแทงผู้ตายหลายครั้ง จำไม่ได้ว่ากี่ครั้งเพราะตอนนั้นตนเมา หลังก่อเหตุก็เดินกลับบ้านเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วไปหลบเจ้าหน้าที่อยู่ไม่ห่างจากบ้านนัก ซึ่งตนยอมรับผิดที่ก่อเหตุ แต่ลูกผู้ชายฆ่าได้ หยามไม่ได้

 

ต่อมาเราได้เดินทางมาที่บ้านที่เกิดเหตุพบนางสุกัลย์ อายุ 46 ปี เจ้าของบ้าน กำลังเก็บข้าวของของนายทิวาผู้ตายเพื่อเตรียมนำไปประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลตามประเพณี 

 

จากนั้นนางสุกัลย์ได้พาเราเดินไปดูกระท่อมที่นายน้อยสร้างไว้อยู่ติดกับบ้านของนางสุกัลย์ ซึ่งนายน้อย เป็นคนสร้างเอง หลังจากที่เลิกรากับนางสุกัลย์

 

โดนนางสุกัลย์ เผยว่า ตนเองรู้จักกับนายน้อย เพราะช่วงแรกเห็นว่านายน้อยเป็นคนดีขยันทำงาน จึงให้มาอยู่กินด้วยกัน แต่พอคบกันได้ 4 เดือน นายน้อยเริ่มออกลาย ขโมยของ ขโมยเบียร์ และยังติดยาเสพติด แถมยังทำร้ายร่างกายตนเอง พลาญเงินตนเองจนหมด ต่อมาตนเองจึงได้ไล่นายน้อยออกจากบ้าน แต่นายน้อยไม่ยอมไป แถมยังมาสร้างบ้านอยู่ติดกับบ้านตนเอง

 

พอตนเองไม่เหลืออะไร จึงกลายเป็นคนเร่ร่อน หาเก็บขยะและนอนตามถนน จนกระทั่งนายเทวามาเจอและเป็นชุปชีวิตตนเองขึ้นมาเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง จึงได้ตัดสินใจชวนนายเทวามาอยู่กินด้วยกัน 

 

ซึ่งตนเองยอมรับว่าเรียกนายเทวา ว่า ที่รัก เพราะนายเทวาเป็นคนดี ขยันทำงาน ลุกทำกับข้าวให้ตนเองทุกเช้าก่อนออกไปทำงาน และยังเป็นคนที่ตนเองรักมาก

 

นางสุกัลย์ ยังบอกอีกว่า หลังจากที่ตนเองไปเร่ร่อนเก็บขยะ เพราะไม่อยากอยู่บ้าน ไม่อยากหน้านายน้อย แต่พอนายน้อยมาอยู่บ้านก็ไม่จ่ายค่าน้ำค่าไฟ ทำให้โดนตัด พอหลังจากที่ตนเองกลับมาอยู่บ้านก็ไปจ่ายค่าไฟ แต่ค่าน้ำยังไม่ได้จ่าย และวันเกิดเหตุที่บ้านไม่มีน้ำประปาใช้ เนื่องจากโดนตัด นายเทวาผู้ตายจึงได้อาสาไปชื้อน้ำมาให้ตนเองอาบ  ที่แอบซุ่มอยู่ด้านหลังเดินถือไม้มาฟาดที่ท้ายทอยของนายเทวาก่อนจะลากมากระหน่ำแทงที่บริเวณหน้าบ้าน

 

สำหรับนายน้อยตนเองขอไม่อโหสิกรรมให้ พร้อมกับสาปส่งให้ไม่ตายดี ไม่ว่าชาติไหนอย่าได้เจอกันอีก ส่วนนายเทวาผู้ตายตนเองก็ได้กราบเท้าลานายเทวาผู้ตายเป็นครั้งสุดท้ายพร้อมกับยอมรับว่าเสียใจที่เป็นต้นเหตุทำให้นายเทวาตาย

เฒ่าหวงก้างแค้นเมียจิ๊จ๊ะผัวใหม่ ทำกับข้าว ประเคนถึงปาก บุกจ้วงทวงรักเก่า