กก.สส.บก.น.6 จับกุมผู้ต้องหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทำหน้าที่เป็นสายโทรเข้าที่ 2 โดยแสดงตนเป็นตำรวจ มีหมายจับ 2 หมาย

เมื่อวันที่ 15 ต.ค.66 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.นครินทร์ สุคนธวิท ผบก.น.6 , พ.ต.อ.นริศ ปรารถนาพร รอง ผบก.น.6 , พ.ต.อ.เชิดศักดิ์ รอดเข็ม ผกก.สส.บก.น.6 , พ.ต.ท.วิสิทธิ์ สายบัวทอง , พ.ต.ท.ชยุต ยอดยิ่งนาทกุล และ พ.ต.ท.กิตติศักดิ์ จุติวรกุล รอง ผกก.สส.บก.น.6 ได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น. 6 ประกอบด้วย พ.ต.ท.คชภพ คงสมบูรณ์ สว.กก.สส.บก.น.6 ร.ต.อ.ชัชวาล กิตติภัทรสกุล , ร.ต.อ.กฤตกร รอดทุกข์ รอง สว.กก.สส.บก.น.6 พร้อมชุดปฏิบัติการที่ 4

ร่วมกันจับกุมตัวนายไชยนันท์ หลาบนอก อายุ 20 ปี สัญชาติไทย เลขบัตรประจำตัวประชาชน 1100501624071 ที่อยู่ 67 หมู่ที่ 3 ต.ส้มปอย อ.โนนแดง จ.บุรีรัมย์

จำนวน 2 หมายจับ ดังนี้
1.ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 2358/2565 ลงวันที่ 4 พฤศจิกายน 2565 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่น , ร่วมกันเป็นอั้งยี่ , ร่วมกันเป็นซ่องโจร, ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ , ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนและร่วมกันฟอกเงิน ”

2.ตามหมายจับศาลจังหวัดสระแก้ว ที่ จ.167/2565 ลงวันที่ 14 มีนาคม 2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยการแสดงตนเป็นบุคคลอื่น ร่วมกันเป็นอั้งยี่ ร่วมกันเป็นซ่องโจร มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ร่วมกันฟอกเงิน ”

พฤติการณ์แห่งคดี กล่าวคือ ผู้ต้องหาได้รับการติดต่อจากเพื่อนให้ไปทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่จังหวัดปอยเปต ประเทศกัมพูชา เดินทางโดยใช้เส้นทางธรรมชาติ ต้องเสียค่าเข้า 3,500 บาท ต่อการผ่านแดน 1 ครั้ง ซึ่งมีนายหน้าเป็นชายชาวกัมพูชาพาข้าม ก่อนที่ผู้ต้องหาทำหน้าที่คอลเซ็นเตอร์ จะต้องฝึกเขียนสคริป เพื่อได้รู้วิธีการหลอก เมื่อเริ่มชำนาญจึงได้ทำหน้าที่เป็นสายโทรเข้าที่ 2 โดยแสดงตัวเองว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งแต่ละวันมีสายติดต่อผู้ต้องหาประมาณวันละ 10 สาย ผู้ต้องหาได้ค่าจ้างประมาณ 30,000 บาท โดยรายได้ที่ได้จากการหลอกผู้เสียหายจะหัก 20% เพื่อเป็นค่าดูแลบัญชีม้า และได้รับค่าคอมมิชชั่น 3 % จากการหักให้บัญชีม้า เดือนที่ผู้ต้องหาทำยอดได้สูงสุดต่อเดือน 5 ล้านบาท

โดยขั้นตอนการหลอกเหยื่อ
1.สายที่ 1 จะได้เบอร์จากการยิงแอดเพื่อหาข้อมูลผู้เสียหาย เมื่อได้เบอร์มาแล้วจะทำการโทรไปหลอกผู้เสียหายโดยแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ขนส่งสินค้าข้ามประเทศ
2.ระบบจะโอนสายมายังสายที่ 2 ทำหน้าที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ร้อยเวรประจำ สภ. อ้างว่ารับคดีออนไลน์ และคุยรายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เสียหาย เลขบัญชีที่ถืออยู่
3.โดยสายที่ 3 จะทำหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสารวัตรขึ้นไป โดยขู่ให้โอนเงินมาเพื่อตรวจสอบ ถ้าไม่โอนจะอายัดบัญชี และจะต้องโทษตามกฎหมาย
โดยผู้ต้องหาทำหน้าที่เป็นคอลเซ็นเตอร์มาแล้ว ปีกว่าๆ จนกระทั่งถูกจับกุม โดนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่ามีชายชาวจีนชื่อ มิงตู้ เป็นเจ้าของคนดูแล

จับกุมเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2566 เวลาประมาณ 15.15 น. สถานที่จับกุม บริเวณหน้าสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพหมอชิต (จตุจักร) ถ.กำแพงเพชร 2 แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพฯ นำส่ง พงส.บก.สอท.5 บช.สอท. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป