รำลึก 50 ปี 14 ตุลา นายกฯ ส่งตัวแทนวางพวงมาลา-พรรคการเมืองร่วมคึกคัก ขณะ ประธานวันนอร์ ชูวีรชนผู้กล้า เชื่อคนไทยถอดบทเรียนให้ประชาธิปไตยมีคุณค่า ด้าน หมอชลน่าน ชี้ การเสียสละจะไม่สูญเปล่า ยันรัฐบาลพร้อมส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตยให้สมบูรณ์

วันที่ 14 ตุลาคม 2566 บรรยากาศการจัดกิจกรรม "รำลึก 50 ปี 14 ตุลา" ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลาคม (แยกคอกวัว) โดยมีกำหนดการ ร่วมทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 14 รูป บริเวณด้านหน้าอาคาอนุสรณ์สถานณ์ 14 ตุลา และพิธีกรรมศาสนาพุทธ คริสต์ อิสลาม, เวลา 8.45 น. ตีกลองสะบัดชัย "ตุลาชัย-ตุลาธรรม" และวางพวงมาลา-กล่าวรำลึกเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2546 รวมถึงปาฐกถาพิเศษในเวลา 10.30 น. หัวข้อ "50 ปี 14 ตุลา : อำนาจ เวลา ประชา โลกร้อนและแชตจีทีพี"





ขณะเดียวกัน เปิดให้มีการวางพวงมาลารำลึกเหล่าวีรชน โดยมีผู้แทนนายกรัฐมนตรี นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล และว่าที่ผู้นำฝ่ายค้านฯ นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีกระทรวงสารารณสุข นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ ผู้แทนคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ นายชัชชาติ สุทธิพันธ์ ผู้ว่าฯ กทม. รวมถึงผู้แทนญาติวีรชน ผู้แทนฝ่ายประชาธิปไตย ผู้แทนฝ่ายแรงงาน ผู้แทนเยาวชนฯ นักศึกษา เครือข่ายเยาวชนต้นกล้าชนเผ่าพื้นเมือง (TKN) ผู้แทนชาวบ้านต่อสู้สิทธิชุมชน เครือข่ายคนรักษ์นครนายกมรดกธรรมชาติ และผู้แทนพรรคการเมืองต่าง ๆ อาทิ พรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคไทยสร้างไทย



โดยวันนอร์ ประธานรัฐสภา กล่าวว่า 14 ตุลาคม 2516 เป็นการบันทึกเหตุการณ์ทางการเมืองของเหล่าวีรชนในยุคนั้น แล้วสืบต่อมา หากไม่มีการชุมนุมเรียกร้องสิทธิเสรีภาพ ประชาธิปไตยของนักเรียนนิสิตนักศึกษาประชาชนหลาย 100,000 คนในวันนั้น ตนเองและประชาชนคนไทยคงไม่มีโอกาสได้มาสัมผัสสถานการณ์การเมืองและร่วมกิจกรรมรำลึกอนุสรณ์สถาน 14 ตุลาแห่งนี้ได้

โดยเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 เป็นการชุมนุมครั้งแรกอย่างสันติของมวลชนจำนวนมหาศาล เพื่อต่อต้านระบอบเผด็จการที่ครอบงำประเทศไทยมาอย่างยาวนานเป็นผลสำเร็จ แม้ว่าหลังจากนั้น จะมีการรัฐประหารตามมาไม่น้อยกว่า 5 ครั้งก็ตาม แต่การเสียสละของเหล่าวีรชน 14 ตุลา คือปฐมบทของระบอบประชาธิปไตยของประชาชน โดยประชาชนเพื่อประชาชนในประเทศไทย อันเป็นเจตนารมณ์ของประชาธปไตยอันแท้จริงของวีรชน 14 ตุลา อย่างมั่นคงถาวร พร้อมเชื่อมั่นว่าประชาชนชาวไทยจะได้ถอดบทเรียนของการพัฒนาประชาธิปไตยจากเจตนารมณ์ 14 ตุลา เพื่อสรรค์สร้างประชาธิปไตยให้มีคุณค่าและเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง จึงขอสดุดีวีรกรม วีรชน 14 ตุลา 2516 ทุกคน



ด้านนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้แทนกล่าวสดุดีแทนนายกรัฐมนตรีว่า รู้สึกเป็นเกียรติและยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีให้มาร่วมในพิธีวางพวงมาลา เพื่อรำลึกถึงวีรชน 14 ตุลา ประจำปี 2566 พร้อมระบุว่าเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 เป็นวันที่มีความสำคัญในประวัติศาสตร์การเมืองของประเทศไทย เพราะแม้เหตุการณ์จะล่วงเลยมา 50 ปีแล้วก็ตาม บทเรียนและร่องรอยของความสูญเสียยังคงฝังลึกในใจของคนไทยทุกคน

โดยเฉพาะคนรักประชาธิปไตยเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้น ทำให้เราทุกคนต่างตระหนักถึงความสำคัญของประชาธิปไตยเพิ่มมากขึ้น การเสียสละของเหล่าวีรชนผู้กล้า ที่ยอมแลกเลือดเนื้อและชีวิต เพื่อให้ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์เกิดขึ้นในประเทศไทย โดยเชื่อมั่นว่า การเสียสละในวันนั้น จะไม่สูญเปล่าเจตจำนงค์ ความมุ่งมั่น จะเป็นแรงผลักดัน เป็นกำลังใจ และเป็นแนวทางให้พวกเราในฐานะผู้ที่จะนำพาประเทศไปสู่ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ได้อย่างแท้จริง แม้ว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาประเทศไทยต้องเผชิญกับเหตุการณ์ทางการเมืองต่าง ๆ มากมาย ที่ทำให้การส่งเสริมการสร้างสรรค์ประชาธิปไตยต้องสะดุดลง แต่อุดมการณ์ ความมุ่งมั่นของพวกท่าน จะไม่เลือนหายไป



โดยในวันนี้เป็นวันครบรอบ 50 ปีเหตุการณ์ 14 ตุลา ถือเป็นโอกาสอันดีที่พวกเราจะได้รำลึกและทบทวนถึงเหตุการณ์สำคัญดังกล่าวว่า ทำอย่างไรเราจะสามารถใช้สิทธิเสรีภาพอยู่ในขณะนี้ให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาประชาธิปไตยและประเทศชาติให้ยั่งยืน อีกทั้งยังมีภารกิจอีกมากมายที่คนรุ่นเรา และรุ่นต่อไปจะต้องช่วยกันผลักดันให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีส่วนร่วม มีบทบาท และการกำหนดนโยบายเพื่อสร้างความยุติธรรมความเจริญก้าวหน้าประโยชน์สุขของประชาชน และนับจากนี้เป็นต้นไป ตนในนามของรัฐบาล ซึ่งเป็นรัฐบาลของประชาชน จะขอรำลึกถึงวีรกรรมในเหตุการณ์ 14 ตุลา พร้อมขอสนับสนุนส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตย โดยเฉพาะสถานที่แห่งนี้ มีความประสงค์จะใช้เป็นพื้นที่สาธารณะพัฒนาประชาธิปไตย โดยอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย ซึ่งในนามรัฐบาลยินดีจะให้การส่งเสริมและสนับสนุนอย่างเต็มที่