ตำรวจ CIB รวบหนุ่มแสบแอบอ้างสำนักพระราชวัง หลอกเหยื่อกว่า 15 รายทั่วประเทศ อ้างจะพา VVIP ไปใช้บริการที่ร้านอาหารและร้านค้า แล้วเรียกเก็บค่าฉายพระรูป ค่าเข็มที่ระลึก ฯลฯ ความเสียหายเกือบล้าน

วันที่ 13 ตุลาคม 2566 มีรายงานว่า กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ปป.บก.ตม.2 จับกุม นายจุฬาธิปก อายุ 29 ปี ในข้อหา "ปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม, โดยทุจริตหรือโดยการหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อผู้อื่น เป็นการกระทำต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง" ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1692/2566 พร้อมด้วยของกลาง โดยจับได้บริเวณฝ่ายพิธีการเข้าเมือง ชั้น 1 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พร้อมของกลางเป็นโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง, นาฬิกา 1 เรือน, กระเป๋าสตางค์ 1 ใบ และบัตรกดเงินสด 1 ใบ

สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายจำนวนหลายรายถูกหลอกลวงโดยคนร้ายซึ่งปกปิดตัวตน แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่จากสำนักพระราชวัง โดยมีการใช้ไลน์ชื่อ "ฬ.จุฬา", "สำนักพระราชวัง", "wannachai apaiwongse", "ศ.สถิตย์", "กรมกิจการพิเศษ ๙๐๔" และ "Chakrabongse ๑๙๐๔" หลอกลวงผู้เสียหายที่เป็นผู้ประกอบการร้านอาหาร และร้านค้า ด้วยการออกอุบายว่าจะพา VVIP ไปใช้บริการที่ร้าน แล้วเรียกเก็บค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เช่น ค่าฉายพระรูป, ค่าเข็มที่ระลึก ฯลฯ เป็นเหตุให้ผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินให้คนร้ายจำนวนหลายราย จากการตรวจสอบช่วงระหว่างวันที่ 23 มกราคม 2564 - 4 กรกฎาคม 2566 พบผู้เสียหายกว่า 15 ราย และมีผู้เสียหายที่หลงเชื่อจำนวน 9 ราย รวมมูลค่าความเสียหายเป็นเงิน 908,949.01 บาท

เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้ดำเนินการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน รวมถึงนำข้อมูลแผนประทุษกรรมคดีก่อนหน้าที่มีลักษณะคล้ายกันมาทำการวิเคราะห์จนสามารถระบุได้ว่าตัวคนร้ายผู้กระทำความผิดดังกล่าว คือ นายจุฬาธิปก จากการสืบสวนพบว่า เจ้าตัวได้หลบหนีไปเมียนมา จึงได้ดำเนินการประสานงานกับตำรวจเมียนมาเพื่อติดตามมาดำเนินคดี



ต่อมาตำรวจกองปราบฯ ได้รับการประสานจากทางเมียนมาผ่านทางเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงย่างกุ้ง ว่าพบตัวนายจุฬาธิปก และทราบว่าเจ้าตัวจะเดินทางกลับเข้าประเทศ จึงประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม. ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดไปตรวจสอบ ก่อนพบบุคคลต้องสงสัยตรงตามหมายจับ ชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวและจับกุมนายจุฬาธิปก ได้ดังกล่าว แล้วนำตัวส่ง พงส.กก.2 บก.ป. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

นอกจากนี้ พบว่า ผู้ต้องหายังมีหมายจับในคดีอื่นอีกจำนวน 3 หมายจับ ดังนี้

1. หมายจับศาลจังหวัดเชียงราย ความผิดฐาน "ร่วมกันฉ้อโกง โดยการแสดงตนเป็นบุคคลอื่น,ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยการหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์หรือ ข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อผู้อื่น เป็นการกระทำต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง" ท้องที่ สภ.เมืองเชียงราย

2. หมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ความผิดฐาน "นำเข้าสู่ระบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น" ท้องที่ สภ.แม่ปิง จ.เชียงใหม่

3. หมายจับศาลอาญา ความผิดฐาน "ร่วมกันฉ้อโกงโดยการแสดงตนเป็นบุคคลอื่น และโดยโดยทุจริต หรือหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง"

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) จึงขอเตือนพี่น้องประชาชนขอให้ระมัดวัง อย่าหลงเชื่อผู้ที่แอบอ้างเป็นสำนักพระราชวัง หรือหน่วยงานรัฐอื่น ๆ ซึ่งจะมีการหลอกให้โอนเงินค่าดำเนินการ ค่าอุปกรณ์ต่าง ๆ โดยอ้างว่าเกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของหน่วยงานรัฐ จึงขอให้ประชาชนตรวจสอบไปยังหมายเลขโทรศัพท์ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงก่อนจะทำธุรกรรมทางการเงิน หรือดำเนินการใด ๆ ก่อนทุกครั้ง