2 ใน 3 ผู้ต้องหาเอี่ยวขายอาวุธปืนให้เด็ก 14 ยังปากแข็งปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ด้านพนักงานสอบสวนมั่นใจมีหลักฐานเอาผิดได้ โดยในวันนี้ที่สน.ยานนาวาจะสอบปากคำทั้ง 3 คนทั้งวัน และในวันพรุ่งนี้จะนำตัวไปฝากขังที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ขณะที่ญาติ 1 ใน 3 ผู้ต้องหารุดเข้าเยี่ยม เอาน้ำ อาหาร มาให้

หลังจากที่วานนี้ (5 ต.ค.66) ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวผู้ต้องหา 3 คน ประกอบด้วย นายสุวรรณหงส์ พราหมร์คณาจารย์ อายุ 45 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ จ.932/66 ลง 4 ต.ค.66 ของศาลอาญากรุงเทพใต้ . นายอัครวิชญ์ ใจทอง อายุ 22 ปี ตามหมายจับ จ.933/66 ลง 4 ต.ค.66 ของ ศาลอาญากรุงเทพใต้ สองพ่อลูก ชาว จ.ยะลา และนาย ปิยะบุตร เพียรพิทักษ์ อายุ 31 ปี ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ. 931/2566 ลงวันที่ 4 ต.ค.66 ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการขายอาวุธปืนให้เยาวชน อายุ 14 ปีใช้ก่อเหตุสลด ที่สยามพารากอน เมื่อวันที่ (3 ต.ค.) ที่ผ่านมานั้น

ในวันนี้ (6 ต.ค.) พ.ต.อ.กันตภณ โพธิ์อ๊ะ ผกก.สน.ยานนาวา เปิดเผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนของ สน.ปทุมวันได้เดินทางมาสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ซึ่งเป็นเรื่องของการที่ผู้ต้องหาทั้ง 3 คนขายอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนให้เด็กชายอายุ 14 ปีก่อนเอาไปใช้ก่อเหตุจริงหรือไม่เท่านั้น ซึ่งใช้เวลาเกือบตลอดทั้งคืนในการสอบปากคำ

ในส่วนของ สน.ยานนาวา นั้นจะเริ่มสอบปากคำในช่วงเช้าวันนี้ไปจนตลอดทั้งวัน ซึ่งในชั้นจับกุมนั้นนายสุวรรณหงษ์(พ่อ) และนายอัครวิชญ์ (ลูก) ผู้ต้องหาทั้งสองคนที่ถูกจับได้ที่จังหวัดยะลา ยังคงให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ซึ่งก็ถือเป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหา แต่ทางพนักงานสอบสวนมีหลักฐานที่สามารถเอาผิดได้อย่างแน่ชัด โดยมีหลักฐานสลิปการโอนเงินซึ่งเป็นเวลาที่สอดคล้องกับการซื้อขายอาวุธปืนให้กับเด็กชายอายุ 14 ปี ไปใช้ก่อเหตุ รวมไปทั้งหลักฐานชิ้นอื่นๆ ด้วย

ส่วนนายปิยะบุตร คนขายกระสุนปืน ในชั้นจับกุมให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยเบื้องต้นจะมีการฝากขังผู้ต้องหาทั้ง 3 คนในวันพรุ่งนี้ (7 ต.ค.) ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ต่อไป และในวันนี้จะมีการขยายผลเรื่องอาวุธปืนว่ามาจากไหน และผู้ซื้อนำไปใช้ทำอะไรบ้าง เพราะในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา มีการซื้อ-ขายปืนดัดแปลงเฉลี่ยวันละ 100 กระบอก

จากนั้นในช่วงเช้าที่ผ่านมามีแม่ของ นายปิยะบุตร นำอาหาร น้ำดื่ม มาเยี่ยม มีการพูดคุยกันนานประมาณ 10 นาที เเละปรึกษากับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการขอประกันตัว เเละติดกำไรอิเล็กทรอนิกส์ โดยทางตำรวจให้คำเเนะนำ ให้ประกันตัวในชั้นศาล เเละ ให้เตรียมวงเงินไว้ประมาณคนละ 100,000 บาท หลังจากนั้นก็เดินทางกลับ พร้อมกับเสื้อผ้าของลูกชาย ในขณะที่ 2 พ่อลูกนายสุวรรณหงษ์(พ่อ) และนายอัครวิชญ์(ลูก)  คนขายปืนไร้ญาติเข้าเยี่ยม นั่งหันหน้าเข้าหากันโดยไม่ได้พูดอะไร

หลังจากนั้นในเวลาประมาณ 10.50 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ยานนาวา ได้พาตัวนายปิยะบุตร ขึ้นไปสอบปากคำ ที่บริเวณชั้น 2 ของโรงพัก หลังจากที่เมื่อคืนนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ปทุมวัน มีการสอบปากคำทั้งคืน

จากนั้นในเวลา 11.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้นำตัว นายอัครวิชญ์(ลูก) ขึ้นไปสอบปากคำเพิ่มเติมอีก ส่วนตัวนายสุวรรณหงษ์(พ่อ) ยังคงถูกควบคุมตัวอยู่ในห้องขังของโรงพัก