ความคืบหน้าคดีพ่อฆ่าลูกสาววัย 2 ขวบ แล้วเอาศพไปซ่อนด้วยการโบกปูนไว้ที่บ้านในจังหวัดกำแพงเพชร และมีแนวโน้มว่า “เอ็ม” พ่อของเด็ก อาจจะก่อเหตุฆ่าลูกมาแล้วหลายครั้งนั้น

นำมาสู่การดำเนินคดีกับนายเอ็ม , นางสุนัน ภรรยาคนที่5 และล่าสุดนางสาวเจษฎา เพิ่มอีกราย

*คาดน้องโมเดล ถูกฆ่ายัดกล่องโฟมก่อนฝังโบกปูน
ต่อมาทีมข่าวช่อง8 ได้พูดคุยกับนางอ้วน (นามสมมติ) อายุ 53 ปี เป็นชาวบ้านที่อยู่ใกล้อพาร์ทเมนต์ที่เกิดเหตุ ซึ่งยังได้เข้าช่วยเหลือเด็กทั้งสองคน ที่ถูกนายเอ็มและนายเจษฎาทำร้ายร่างกาย ซึ่งยังเคยไปทานก๋วยเตี๋ยวร้านที่นางเจษฎาเป็นลูกจ้าง เล่าว่า นางเจษฎาทำงานที่ร้านก๋วยเตี๋ยวแห่งหนึ่งใกล้กับศาลเจ้าพ่อเสือ โดยจะออกไปทำงานทุกเช้าประมาณ 08.00 น. และจะกลับมาถึงห้องพักประมาณช่วง 17.00 น. เป็นลูกจ้างลวกก๋วยเตี๋ยวและเสิร์ฟก๋วยเตี๋ยวที่ร้าน ซึ่งตนเองยังได้ไปกินบ่อยครั้ง จึงสนิทกับลูกจ้างที่ร้านรวมถึงเจ้าของร้าน

โดยเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวเคยชมนางเจษฎาให้ตนฟัง ว่าเป็นคนเงียบ ไม่ค่อยพูดไม่ค่อยจา แต่เป็นคนที่ขยันมาก ไม่เคยเกี่ยงงานและไม่เคยบ่น ทำให้เจ้าของร้านพึงพอใจก็ให้รายได้ดีต่อวันค่าจ้างวันละ 500 บาท แต่ในส่วนนายเอ็ม ทราบเพียงว่าอดีตเคยทำงานเป็นลูกจ้างส่งของในตลาดไท ต่อมาลาออกได้สักระยะหนึ่งก่อนที่จะเกิดเรื่อง

ซึ่งชีวิตคู่ของนายเอ็มและนางเจษฎาไม่ได้อยู่ด้วยกัน โดยนางเจษฎาเป็นคนเช่าห้องพักที่อพาร์ทเมนต์ในซอยพหลโยธิน 48 แยก 11 อยู่กับลูกๆรวมสามคน ส่วนนายเอ็มไม่ได้พักอยู่ด้วยแต่อยู่ในลักษณะไปมาหาสู่นางเจษฎาและลูกทุกวัน โดยทุกเย็นนายเอ็มจะมาหาเมียและลูก บางวันก็ข้ามคืนและบางวันที่ไม่ค้างก็จะกลับออกไป ข้อมูลส่วนนี้นางเจษฎาไม่เคยเล่าให้ฟังว่านายเอ็มพักอาศัยอยู่ที่ไหนและกับใคร

ส่วนพฤติกรรมของทั้งคู่ เท่าที่เห็นภายนอกเป็นคนนิสัยเงียบไม่พูดไม่จากับใครแต่ตั้งใจขยันทำงานทั้งคู่ ซึ่งเพื่อนบ้านก็ไม่เคยได้ยินเสียงเด็กร้องตะโกนขอความช่วยเหลือ มีเพียงบางคน ที่เคยเห็นเด็กหญิงวัย 12 ปี มากรอกน้ำที่ใต้หอเท่านั้น แต่ก็ไม่เคยสังเกตรอยแผลบนร่างกายของเด็ก

จนกระทั่งในวันที่แม่บ้านอพาร์ทเมนต์ลุยไปช่วยเด็กออกมาตนก็อยู่ในที่เกิดเหตุตอนเอาเด็กทั้งสองคนลงมาใต้อพาร์ทเมนต์ โดยวันนั้นตนเวทนาเด็กทั้งสองคนมาก น้ำตาความสงสารแทบจะไหลออกมา เด็กหญิงวัย 12 ปี เปิดรอยแผลให้ดูบริเวณท้องและหลังที่ถูกพ่อเอาไฟมาลนตามร่างกาย ส่วนเด็กวัย 4 ปี ไม่พูดไม่จาเพราะคงจะช็อกจากการที่ถูกพ่อแช่ตัวเองในน้ำที่อยู่ในกะละมัง ซึ่งสภาพปากมีลักษณะเป็นปากแหว่งเพดานโหว่ ตอนแรกก็คิดว่าพิการมาแต่กำเนิด

แต่พี่สาวเด็กหญิงวัย 12 ปีบอกว่าพ่อทำร้ายร่างกายตนเองและน้องจนน้องมีลักษณะตามที่เห็น ซึ่งแม่ของเด็กหญิงก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้ เพราะก็ถูกพ่อทำร้ายร่างกายมาเช่นกัน ส่วนที่ไม่เคยร้องขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านในที่เกิดเหตุเพราะพ่อขู่ว่าจะฆ่าแม่ฆ่าตนเองและฆ่าน้อง พอพูดเสร็จก็ก้มกราบเท้า ทั้งตนเองและผู้ใหญ่ทุกคนที่อยู่ในที่เกิดเหตุที่ช่วยเด็กหญิงวัย 12 ปี และน้องสาวออกมา โดยเด็กหญิงบอกว่าหากไม่ช่วยในวันนี้ก็ยังไม่รู้ชะตากรรมอาจจะตายก็ได้

หลังช่วยเหลือคนในชุมชน ก็โทรแจ้งกันจอมพลังให้ลงมาช่วยเหลือเคสนี้ และแม่เด็กก็มาที่เกิดเหตุและโวยวายไม่ให้เอาลูกทั้งสองคนออกไปจากตนเอง ซึ่งในวันที่ช่วยเหลือเด็กชาวบ้านทุกคนรุมด่าแม่เด็ก

*คุมเจษฎาชี้จุดทิ้งร่างเด็ก
โดยล่าสุด เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา ตำรวจสน. บางเขน คุมตัวนางสาวเจษฎา มาถ่ายรูปหน้าตรง เพื่อประกอบสำนวนคดี มีการนำมาถ่ายรูปเพียงแค่ชั่วครู่ก่อนคุมตัวกลับเข้าไปสอบเข้มต่อ

ทีมข่าวยังสังเกตุเห็นอีกว่า สีหน้าของนางเจษฎาระหว่างที่ถูกตำรวจคุมตัวอยู่มีสีหน้าเรียบเฉยและไม่ได้มีท่าทีที่เครียด โดยยังถูกคุมตัวอยู่ในห้องสืบสวนเพื่อสอบเข้มอยู่ในตอนนี้

เมียเอ็มชี้จุดทิ้งศพลูก 2 คน คาดเครียดไร้เงินผัวไปคั่วสาวคนใหม่ ต้องเอาใจหวังตื้อรัก