ความคืบหน้าคดีพ่อฆ่าลูกสาววัย 2 ขวบ แล้วเอาศพไปซ่อนด้วยการโบกปูนไว้ที่บ้านในจังหวัดกำแพงเพชร และมีแนวโน้มว่า “เอ็ม” พ่อของเด็ก อาจจะก่อเหตุฆ่าลูกมาแล้วหลายครั้งนั้น

นำมาสู่การดำเนินคดีกับนายเอ็ม , นางสุนัน ภรรยาคนที่5 และล่าสุดนางสาวเจษฎา เพิ่มอีกราย 

*ลุยค้นอีกจุด
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังลุยค้นตรวจสอบอพาร์ทเม้นต์แห่งหนึ่ง ซอยพหลโยธิน 48 แยก 11 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายปราณี (นามสมมติ) อายุ 48 ปี เป็นแม่บ้านในอพาร์ทเมนต์ เล่าว่า นายเอ็ม มาเช่าห้องพักที่อพาร์ทเมนต์แห่งนี้เมื่อกลางปีที่ผ่านมา ซึ่งนางเจษฎาอ้างว่าเลิกกับสามี จึงเช่าห้องพักอยู่กับลูกรวม 3 คน ต่อมาตนเห็นนายเอ็มไปๆมาๆหานางเจษฎาและลูก แต่พบพิรุธทำตัวลับๆล่อๆทุกครั้งที่เข้าห้องพัก ใส่เสื้อคลุมตัวใหญ่ ใส่แมสก์ใส่หมวกปิดบังใบหน้า คล้ายไม่อยากให้ใครเห็นหน้า

ระหว่างที่ลูกนางเจษฎาอยู่ในห้องพัก ก็พบว่าสองสามีภรรยาเลี้ยงลูกด้วยวิธีปกติ ตอนเช้าที่นางเจษฎาไปทำงานก็จะคล้องแม่กุญแจที่ประตูนอกห้อง แต่ไม่ได้ล็อกแม่กุญแจไว้ เวลาที่ตนไปทำความสะอาดหน้าห้องเกิดเหตุก็จะสงสัยทุกครั้งเด็กกินข้าวยังไงเพราะไม่มีใครอยู่ห้อง ซึ่งเด็กอยู่ในห้องมีเสียงเงียบผิดปกติมาก ไม่เล่นกันและไม่ซน พอตกเย็นนางเจษฎาเลิกงานตนก็จะเห็นซื้อขนมปังมาให้เด็ก แต่ไม่เคยเห็นถือกล่องข้าวหรือวัตถุดิบมาทำกับข้าวที่ห้อง

นานเข้าก็ถามนางเจษฎาตรงๆว่า เด็กได้เรียนหนังสือหรือไม่ ก็ได้รับคำตอบว่า เด็กคนโต 12 ปี เรียนกศน.อยู่ แต่ขัดแย้งความเป็นจริงที่ว่าเด็กทั้งสองอยู่แต่ในห้องคล้ายถูกขังและไม่ได้เรียนหนังสือทั้งคู่ ที่น่าสลดเคยส่องเห็นในห้องครั้งหนึ่ง ตนเห็นเด็กอายุ 4 ขวบนั่งอยู่ในกะละมัง เนื้อตัวซีด แต่ไม่ลุกออกจากกะละมัง โดยมีพ่อคือนายเอ็มตักขันน้ำราดตัว เชื่อทั้งสองทรมานเด็กขนาดนี้ก็จงใจฆ่า แค่เด็กยังไม่เสียชีวิต เพราะคงไม่มีพ่อแม่ที่ไหนทรมานร่างกายลูก โชคดีที่ตนช่วยเหลือเด็กทัน ช่วยสภาพร่างกายเด็ก พบเด็กมีสภาพปากแหว่งนานแล้ว แต่เป็นเรื่องส่วนตัวของครอบครัวจึงไม่ได้เข้าไปถาม

นอกจากนี้ตนยังติดใจเหตุการณ์หนึ่งช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา นายเอ็มและนางเจษฎาพาเด็กหญิงคนหนึ่ง คาดว่าอายุประมาณ 2-4 ขวบ มาที่ห้องพัก โดยตอนนั้นทั้งคู่กลับห้องพักจอดรถเก๋ง หน้าอพาร์ทเมนต์ ซึ่งนายเอ็มอุ้มเด็กหญิงที่ไม่ใช่เด็ก 4 และ 12 ปีที่ตนช่วยเหลือเข้ามา มีการใส่เสื้อคลุมตัวใหญ่ กางเกงขายาวกีฬา และใส่แมสก์ให้เด็ก อุ้มขึ้นห้องไป โดยจะมีบางจังหวะที่เห็นผ่านแมสก์เพราะแมสใหญ่ พบว่าเด็กมีสภาพปากแหว่งแต่แผลที่แหว่งสมานบางส่วนแล้ว ยืนยันไม่ใช่เด็กคนเดียวกับที่ตนช่วยเหลือ

ผ่านมา 2-3 วัน ปรากฏว่าทั้งนายเอ็มและนางเจษฎาถือกล่องโฟมลังใหญ่ และถุงดำใหญ่หลายถุง แต่ใส่อะไรข้างในตนไม่ทราบขนขึ้นรถเก๋ง ตนก็ถามไปไหน ทั้งคู่บอกกลับบ้าน แล้วพอทั้งคู่กลับเข้ามาหอพักอีกทีก็พบพาตัวเด็กหญิงวัย 4 ขวบ ที่ตนช่วยเหลือมาด้วยแล้วนำตัวขึ้นห้องพัก

ตนจึงสงสัยที่ว่า เด็กอายุประมาณ 2-4 ขวบ ที่ทั้งคู่พามาอพาร์ทเมนต์แล้วหายตัวไปปริศนาอยู่ไหน แล้วใช่น้องโมเดลที่พบศพช่วงที่ตายเวลาใกล้เคียงกันหรือไม่ หากใช่คนเดียวกัน ทั้งคู่ต้องฆ่าที่ห้อง ก่อนนำใส่ถุงดำไปฝังร่างโบกปูนที่กำแพงเพชร แต่ถ้าไม่ใช่น้องโมเดล จะคือเด็กคนใดที่ตนเห็นตอนนั้น เพราะเด็กถูกปิดบังใบหน้าจึงเห็นหน้าไม่ชัด ส่วนเด็กอีกสองคนที่ไม่ส่งเสียงในห้อง แม้ว่าตัวพ่อจะทำร้าย ก็คาดว่าถูกขู่ ซึ่งเด็กกลัวถูกทำร้ายร่างกาย จึงต้องเชื่อฟังคำสั่งพ่อแม่

พยานเห็นคาตาร่างน้องโมเดลมีแผลเฉือนปาก ไอ้เอ็มกับเมียหิ้วถุงดำก่อนไปโบกปูน