ขุดหาศพ 2 เด็กถูกพ่อฆ่า เจอกระดูกปริศนาเร่งตรวจสอบ

หลังจากเจ้าหน้าที่ได้มีการประสานนำรถแบคโฮขนาดเล็กเข้าเปิดหน้าดินบริเวณกิโลเมตรที่ 25 ตามที่ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่านำศพเด็กมาทิ้งตรงจุดนี้ 2 ศพ

ล่าสุด 18.45 น. รถแบคโฮได้ตักดินขึ้นมาตรงบริเวณจุดใกล้เคียงกับศาลพระภูมิ ตำรวจพร้อมด้วยพิสูจน์หลักฐาน ได้เข้าตรวจสอบบริเวณกองดินดังกล่าวปรากฏพบชิ้นส่วนกระดูกขนาดเล็กจำนวน 2 ชิ้น แต่ตอนนี้ยังไม่มีการยืนยัน ว่าเป็นชิ้นส่วนกระดูกมนุษย์หรือไม่

ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะได้นำน้ำเปล่า มาล้างเศษดินออกและนำชิ้นส่วนกระดูกวางลงบนกระดาษสีขาว โดยชิ้นส่วนกระดูกดังกล่าวชิ้นหนึ่งมีขนาดความยาวโดยประมาณอยู่ที่ 4 ถึง 5 เซนติเมตร อีก 1 ชิ้นมีความยาวประมาณ 10 ถึง 15 เซนติเมตร โดยหลังจากนี้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจะต้องนำชิ้นส่วนกระดูกดังกล่าวไปตรวจสอบว่าใช่ชิ้นส่วนกระดูกของมนุษย์หรือไม่

 


เจ้าของหอพักที่พ่อและแม่ใจโหดฆ่าลูกโบกปูนเคยอาศัยอยู่ ย่านบางเขน ยัน ผัวเมียคู่นี้ไม่เคยมีปัญหา และไม่เคยเห็นเด็กทารกอยู่ด้วย

จากกรณีข้อมูลที่นายส่องศักดิ์ ผู้ต้องหาคดีฆ่าลูกโบกปูนที่จัวหวัดกำแพงเพรช เคยพักอาศัยอยู่หอพักย่านบางเขน ในช่วงปลายปี 2558-2563 นั้น จากข้อมูลทัมข่าวได้ทราบว่า นายส่องศักดิ์ และ น.ส.เจษฎา ได้พักอาศัยอยู่ที่ ซอยพหลโยธิน 50 แยก 11 โดยอาศัยอยู่หอพัก ป้าเพชร

ป้าเพชร เจ้าของหอพักดังกล่าว ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวว่า “สองคนผัวเมียคู่นี้ได้มาเช่าหอพักอยู่เมื่อช่วงปลายปี 2558-2563 โดยทั้งสองคนไม่ค่อยจะได้คุยกับตน และส่วนใหญ่ตนจะอยู่ที่บ้านไม่ค่อยได้เข้าหอพัก แต่ที่อยู่มาก็ไม่เคยมีปัญหากับตน อยู่ในกฎระเบียบของหอพักตลอด แต่มีอยู่ช่วงหนึ่ง ผู้เช่ารายอื่นเคยมาแจ้งว่า นายส่องศักดิ์ และ น.ส.เจษฎา เคยพาลูกสาววัยประมาณ 5-6 ขวบมาอยู่ด้วย ซึ่งหอพักของตนมีกฎว่าให้อยู่ได้เพียง2คน และ ถ้ามมีลูกหรือเด็กก็จะไม่ให้อยู่ เพราะกลัวว่าเสียงของเด็กเล็กตะไปรบกวนผู้เช่ารายอื่นๆ แต่ก็ไม่เคยมีใครร้องเรียนว่าสองผัวเมียคู่นี้ทำอะไรรบกวนให้ผู้เช่ารายอื่นเดือดร้อนจึงไม่ได้สนใจอะไรในการนำเด็กมาอยู่ด้วย แต่กรณี้ด็กทารกตนไม่เคยเห็นเลย ไม่ว่าจะเป็นช่วงปี 2559 หรือปี 2561 และไม่ทราบว่า น.ส.เจษฎา เคยตั้งท้องหรือไม่ เพราะปกติ น.ส.เจษฎา ก็จะใส่ชุดลักษณะคลุมอยู่แล้วเลยมองไม่ออก และส่วนใหญ่ทั้งสองคนจะไม่สู้กน้าตน

โดย นายส่องศักดิ์ จะทำงานขับรถรับส่งคนงาน ซึ่งในช่วงที่อยู่หอพักของตนก็จะออกบ้านตั้งแต่ช่วงเช้าและจะกลับมาช่วงสาย และออกอีทีในช่วงเย็น และจะกลับในช่วงใกล้ๆ 3 ทุ่ม และจะมีรถส่วนตัวอยู่1คัน ชอบมาเปิดเพลงใกล้ร้านสะดวกซื้อในซอยหอพัก แต่ตนก็ไม่เห็นว่าจะมีพฤติกรรมเรื่องยาเสพติด และ กรณีเด็กก็เห็นเพียงแต่เด็กผู้หญิงอายุประมาณ 5-6 ขวบเพียงคนเดียว

โดยในช่วงหลังก่อนที่ นายส่องศักดิ์ และ น.ส.เจษฎา จะย้ายออกไป เหมือนจะมีปัญหากับข้างห้อง ตนจึงไปแจ้งว่าให้ย้ายออก แต่ในช่วงแรกที่แจ้งให้ย้ายออกก็เหมือนกับจะไม่ยอม แต่หลังจากนั้นก็ได้ย้ายออกโดยไม่บอกตน เหมือนหนีออกไป ตนต้องไปเปิดห้องดูเอง ก็พบว่าได้ขนของหนีออกไปแล้ว

และในช่วงเช้ามาพบว่าเป็นข่าวซึ่งในตอนแรกตนก็จำไม่ได้ เพราะลักษณะเหมือนนายส่องศักดิ์ จะไปปลูกผมมา แต่เมืาอดูได้ซักพักจึงจำได้ ก็รู้สึกตกใจมาก เพราะที่เคยอยู่หอพักของตนมาก็ไม่เคยเห็นว่สมีพฤติกรรมโหดเหี้ยมอะไรแบบนี้


ช่อง 8 พบ กระสอบปูนซีเมนต์ - อุปกรณ์ขุด ถูกซ่อนอยู่ข้างใน-นอกบ้าน

นอกจากนี้ทีมข่าวได้เดินสำรวจด้านในและนอกบ้านหลังที่เกิดเหตุ โดยขออนุญาตครอบครัวของผู้เสียชีวิตแล้วหลังจากเจ้าหน้าที่ได้มีการเข้ามาเก็บหลักฐานไปทั้งหมดก่อนหน้านี้ โดยทีมข่าวพบว่าจุดที่ฝังโบกปูนน้องโมเดลนั้น อยู่บริเวณหลังบ้าน โซนห้องครัว ซึ่งจุดดังกล่าวถูกล้อมด้วยสังกะสี

จากการสำรวจของทีมข่าวพบว่า ปูนซีเมนต์ที่สองผัวเมียได้ใช้โบกเพื่ออำพรางศพของศพน้องโมเดล มีความหนาประมาณ 10 - 15 เซนติเมตร ส่วนความลึกของหลุมอยู่ที่ประมาณ 40 - 50 เซนติเมตร ซึ่งจากลักษณะการเทปูนพบว่า พื้นปูนซิเมนต์มีการเทพื้นไม่เรียบร้อยนัก ไม่เรียบ คาดว่าน่าจะเร่งรีบ ส่วนภายในหลุมยังมีเศษขยะและถุงพลาสติกที่สองผัวเมียใส่ลงไปในหลุมด้วยก่อนโบกปูนทับ

ส่วนภายในบ้านจากการสำรวจพบว่า ภายในบ้านไม่มีร่องรอยคราบเลือด หรือ ร่องรอยการต่อสู้ใดๆ ทุกอย่างถูกจัดอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ภายในห้องแต่ละห้องยังพบเสื้อผ้ารองเท้าของเด็กเล็กจำนวนมาก

นอกจากนี้ยังพบอุปกรณ์ที่คาดว่านายเอ็มและนางสาวจุ๋มใช้ในการขุดดินหรือผสมปูนซิเมนต์ โดยพบจอบจำนวน 2-3 จอบ ถูกตั้งวางอยู่ภายในบ้าน โดยจอบนั้น มีคราบคล้ายปูนซีเมนต์เกาะติดอยู่

ส่วนด้านนอกรอบตัวบ้าน จากการเดินสำรวจทีมข่าวยังไปพบกระสอบปูนซีเมนต์จำนวน 3-4 กระสอบ ซึ่งเป็น ปูนซีเมนต์สำเร็จรูป มีคุณสมบัติสามารถผสมน้ำและฉาบได้เลย โดยไม่ต้องผสมทรายและหิน โดยกระสอบปูนทั้งหมดถูกซ่อนอยู่ริมกำแพงบ้าน โดยมีผ้าปูที่นอนถูกปิดคลุมซ่อนไว้อีกด้วย ซึ่งต่อมาทีมข่าวได้ย้อนไปที่ร้านขายปูนซีเมนต์พบว่าเป็นซีเมนต์ยี่ห้อเดียวกันกับที่ร้านขายเหมือนกัน


ยายน้องโมเดล ร่ำไห้ใจสลายเป็นล้มทรุดข้างหลุมศพหลานขณะทำพิธีเชิญดวงวิญญาณ

ต่อมาเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมาครอบครัวของน้องโมเดลได้นิมนต์พระสงฆ์ 2 รูป มาทำพิธีเชิญดวงวิญญาณของหลานสาวบริเวณจุดเกิดเหตุ โดยระหว่างการทำพิธี ยายลำดวลแม่ของนาวสาวจุ๋มผู้ก่อเหตุ ได้เดินไปที่หน้าหลุมศพของหลาวสาว ก่อนจะร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจ และได้เป็นลมล้มทรุดลงหน้าหลุดศพของหลานสาว นักข่าวที่อยู่ข้างๆ ต้องช่วยกันประคองคุณยายและนำไปนั่งพักให้ทำใจก่อน

จากนั้นครอบครัวและญาติๆ ได้นิมนต์พระสงฆ์มาสวดเชิญดวงวิญญาณน้องโมเดลกลับมายังบ้าน ระหว่างการทำพิธีพระสงฆ์ได้กรวดน้ำ และนำอาหารที่มาเซ่นไหว้ให้กับน้อง เทใส่ลงหลุมศพ และเรียกวิญญาณน้องกลับบ้าน

 

ชาวบ้านผวา ”น้องโมเดล“ 2 ขวบ ถูกพ่อฆ่าโบกปูน วิญญาณสุดเฮี้ยน มาให้เห็นหน้ารถ

จากกรณีพ่อฆาตกรรมลูกสาววัย 2 ขวบที่ กทม.แล้วนำร่างมาขุดหลุมโบกปูนฝังไว้ภายในบ้านพักที่ ต.บ่อถ้ำ อ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร เป็นกระแสข่าวสะเทือนใจไปนั้น ล่าสุดระหว่างที่ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่หาข้อมูลในละแวกบ้านที่เกิดเหตุเมื่อคืนที่ผ่านมา

ล่าสุดวันนี้ทีมข่าวช่อง 8 ได้มีโอกาสพูดคุยกับนางสาวขนิษฐา เจ้าของร้านค้าที่อยู่บริเวณตรงข้ามซอยเข้าบ้านน้องโมเดลที่ถูกพบเป็นศพ เธอได้เล่าเรื่องราวขนหัวลุกให้ฟังว่า ก่อนหน้าที่เธอจะทราบข่าวว่า น้องโมเดลถูกฆ่าโบกปูนเสียชีวิต ตนเองเพิ่งจะเห็นน้องโมเดลนั่งรถมากับชาวบ้านที่รู้จักซึ่งได้มาซื้อของที่ร้านค้าตนเองอยู่เลย

เธอเล่าต่อว่า ช่วงบ่าย 2 ของวันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมามีหญิงรายหนึ่งเป็นลูกค้ามาชื้อของที่ร้านขายของชำของตนเอง โดยตนเองก็ได้เดินออกมาขายของได้เหลือบไปเห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งรูปร่างคล้ายน้องโมเดลนั่งอยู่หน้ารถมอเตอร์ไซค์ของลูกค้ารายนี้ จากนั้นเมื่อขายของให้ลูกค้าเสร็จได้หันไปมองอีกรอบกลับไม่เห็นเด็กหญิงแล้ว

ตนเองจึงได้ถามลูกค้ากลับไปว่า “แล้วเด็กผู้หญิงลูกสาวพี่ที่นั่งอยู่หน้ารถหายไปไหน ตอนนั้นลูกค้ามีสีหน้าตกใจและได้ตอบกลับมาว่า”ไม่มี มาคนเดียว“

ตอนนั้นตนเองก็ตกใจมากและขนลุกซู่ เพราะมั่นใจว่า เห็นเด็กหญิงนั่งอยู่หน้ารถมอเตอร์ไซค์ของลูกค้าจริงๆ
แต่ก็ยังไม่เอะใจอะไร โดยลูกค้าบอกว่า ก่อนจะมาซื้อของที่ร้าน ก่อนหน้า 1 วัน เจ้าตัวเพิ่งจะไปเก็บใบมะกอกข้างบ้านของน้องโมเดลที่ถูกฆ่าฝังดิน ซึ่งขณะนั้นยังไม่มีใครรู้ข่าวว่าน้องถูกฆ่า

กระทั่ง 18 กันยายนที่ผ่านมา ตนเองทราบข่าวว่าน้องถูกฆ่าโบกปูนไว้ที่บ้าน จึงนึกได้ทันทีว่า เด็กหญิงที่ตนเองเห็นก่อนหน้านี้อาจจะเป็นดวงวิญญาณของน้องโมเดล ตั้งใจมาให้ตนเองเห็นหรือไม่ ซึ่งปกติตอนที่น้องโมเดลยังมีชีวิต มักจะเดินข้ามถนนออกมาซื้อขนมและนมกล่องกับยายเป็นประจำ

และวันนี้นางสาวขนิษฐา ยังได้นำขนมและนมกล่องที่น้องโมเดลชอบมาซื้อกิน นำไปตั้งบริเวณหน้าบ้านที่เกิดเหตุ พร้อมกับจุดธูปบอกให้น้องมากินขนมที่ชอบ และขอให้น้องไปสู่สุขคติ และช่วยให้ตำรวจคลี่คลายคดีเด็กอีก 3-4 คนที่ถูกฆ่าเสียชีวิตให้ความจริงปรากฏด้วย

และนอกจากนี้ชาวบ้านต่างพูดคุยกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมกับนำเลขทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์คันที่เจ้าของร้านเห็นน้องโมเดลมานั่ง ไปซื้อหวยกันยกใหญ่ และยังได้จุดธูปเพื่อขอเลข โดยเลขทะเบียนรถคันที่เห็นน้องโมเดลนั่ง หมายเลข 1กฐ 7803 ส่วนธูปที่จุด ปรากฎเลข 982 ซึ่งชาวบ้านต่างนำเลขไปซื้อและบอกว่า หากถูกรางวัลจะนำเงินส่วนหนึ่งมาช่วยทำบุญให้กับน้อง

โมเดลเฮี้ยนตายตาไม่หลับ ร่างฝังปูนโผล่หาคนช่วย ยายสาปลูกในไส้หลงผัว