วันที่ 14 ก.ย. 2566 ที่ห้องเสสะเวช สำนักงานตำรวจภาค 7 พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐาน และตำรวจหลายนายกำลังยืนมุงดูภาพซึ่งคาดว่าอาจจะเป็นคลิปวงจรปิดในงานเลี้ยงของ "กำนันนก" ที่สามารถกู้ภาพจากเซิร์ฟเวอร์ได้ 100% แล้ว ตามที่ "บิ๊กโจ๊ก" พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวไว้ว่า วันนี้จะเปิดภาพวงจรปิด

วันนี้ ตำรวจชุดสืบสวนนำตัว รปภ.บ้านกำนันนกที่อยู่ในวันเกิดเหตุไปค้นหาอาวุธปืน หลังที่กล้องวงจรปิดในจุดเกิดเหตุบันทึกภาพ รปภ. ดังกล่าวถืออาวุธปืนอยู่ในบ้านช่วงเกิดเหตุ

 

โดยเมื่อเวลา 19.50 น. ภายหลังสอบปากคำ นายประสงค์ ไทรไกรกระ ญาติกำนันนก และ รปภ.ในบ้านที่เกิดเหตุ นายกว่า 10 ชั่วโมง ล่าสุดชุดคลี่คลายคดีได้คุมตัวออกจากห้องสอบสวนโดยใช้ประตูด้านหลังอาคาร ซึ่งผู้สื่อข่าวได้ไปดักรอเพื่อสอบถามข้อเท็จจริง แต่พอนายประสงค์เห็นนักข่าวก็ไม่กล้าเดินออกมา วิ่งกลับเข้าไปในห้องสอบสวนเหมือนเดิม จนกระทั่งชุดสืบสวนต้องไปคุมตัวออกมาขึ้นรถเพื่อนำตัวไปส่งที่ สภ.เมืองนครปฐม เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาฐานความผิดครอบครองอาวุธปืน ส่วนพฤติการณ์ที่ถือปืนในวันเกิดเหตุ ตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยจากการสอบถามนายประสงค์อ้างว่าได้ยินเสียงปืนดังขึ้นจึงนำอาวุธปืนของตนเองออกมาเพื่อป้องกันตัว ส่วนจะเข้าข่ายความผิดหรือไม่ต้องดูเจตนาและคำให้การอีกครั้ง

เมื่อเวลา 20.45 น. พนักงานสอบสวน ได้รับตัวจากชุดสืบตำรวจภูธรภาค7 นำตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติม ก่อนบันทึกจับกุม และแจ้งข้อกล่าวหาในคดีอาวุธปืน

จนเมื่อเวลา 22.00น. ที่ผ่านมา นายประสงค์ได้มีการให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนเสร็จสิ้น และพบว่าอยู่ระหว่างขั้นตอนการประกันตัวชั่วคราวโดยวงเงิน 50,000 บาท ในชั้นพนักงานสอบสวน แต่ระหว่างที่มีผู้สื่อข่าวดักรออยู่บริเวณด้านหน้าประตูทางเข้าออก 2 ทาง ปรากฏว่า เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนไม่ต้องการให้ผู้สื่อข่าวสัมภาษณ์เพราะเนื่องจากตัวของนายประสงค์ได้มีการกำชับเอาไว้ ได้มีการพาตัวของนายประสงค์ผู้ต้องหาในคดีปืนซึ่งเป็นพนักงานรปภ.บ้านกำนัน กระโดดออกหน้าต่างด้านหลัง เพื่อพาออกจากห้องสอบสวนไม่ให้สื่อสัมภาษณ์

ด้านนายศักรินทร์ หรือกำนันเต้ง ที่ได้ออกมาไลฟ์สดว่า ตนมีอาชีพขายข้าวมันไก่ที่เขมร ไม่ได้มีอะไรพัวพันกันกับกำนันนก อดีตที่เคยเกิดขึ้นก็คืออดีต แต่คนที่ไม่รู้จักก็เอาไปพูดจนไปเกิดเรื่องไปหมด ถามว่าเมื่อก่อนทำจริงไหม ก็จริง แต่มันคือ อดีตที่เป็นหนี้ก็ต้องหาเงินใช้หนี้เขา ก็ต้องทำความผิด

อาชีพก่อนหน้านี้ ตนเคยขายพระมาก่อน คนเราจน วันหนึ่งก็รวยได้เหมือนกัน ทำมาหากิน ตอนนี้ ก็มีเงินหลักล้านต้นๆ แต่ก็เป็นหนี้เหมือนกัน แต่ก็เข้าใจคดีนี้เป็นเป็นคดีใหญ่ ที่ทุกคนติดตาม และเมื่อตนมีคดีมาก่อน ก็เข้าใจได้ และปืนที่เจอ 3 กระบอก เป็นชื่อตนจริง แต่ตามหลัก ก็คือมันเป็นชื่อผม และขึ้นทะเบียนถูกต้อง ขึ้นศาลก็ชนะนะครับ

ตนก็รู้กฎหมายเหมือนกัน เพราะก็ทำผิดมาเยอะ แต่คุณตำรวจเข้าไป ตนเข้าใจดี ถ้าสงสัยเชิญตัวตนไปนั่งคุยก็ยิน ตำรวจที่ตนคุยด้วยก็เข้าใจเรื่องราว ก็ขอบคุณครับ และถ้าตำรวจอยากเช็กว่าตนรู้จักกำนันไหม ก็สามารถเอาเบอร์โทรไปเช็กได้เหมือนกันว่าเคยโทรหากำนันนกไหม หรือเคยติดต่อกันบางไหม ซึ่งธุรกิจที่ตนทำก็คือขายข้าวมันไก่ ราคาเริ่ม 65 – 99 บาท และมีร้านขายข้าวแกงอีกร้าน ออเดอร์ก็เข้ามาตลอด ตนก็ต้องมีเงินบ้าง ตั้งแต่ตนออกคุกมา 7 ปี ไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับวงการมืดอีกเลย พยายามทำมาหากินมาตลอด จนทุกวันนี้มีแบบนี้ อยากวอนสื่อที่ไปเล่าข่าวให้ออกมา นำเสนอ ด้วยเนื้อหาไม่ถูกต้อง ออกมาแก้ให้หน่อย ว่าตนไม่ได้รู้จักกำนันนก ทำงานสุจริต มีเมียคนเดียว ไม่ได้มีหลายคนอย่างที่เป็นข่าว

พิสูจน์ขุมทรัพย์กำนันเต้ง บารมีกำนันนกไม่ได้ช่วย แต่ยามถวายชีวิตให้ จบเห่เลย