เมื่อเวลา 15:00 น. วันที่ 3 กันยายน 2566 ตำรวจ สน.คลองตัน ได้รับแจ้งเหตุว่ามีผู้พบศพชายถูกทุบหัวเสียชีวิตอยู่ภายในบ้านพัก ซอยปรีดีพนมยงค์ 13 แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ

ทราบชื่อผู้เสียชีวิตเป็นชาวต่างชาติ คือ Mr.Picot อายุ 52 ปี สัญชาติฝรั่งเศส สภาพศพนอนคว่ำหน้าจมกองเลือด มีบาดเเผลฉกรรจ์บริเวณศีรษะ เสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 24 ชั่วโมง โดยภายในห้องพบทีวีเปิดทิ้งไว้ เเละทีวีหน้าจอเเตก

ส่วนผู้ก่อเหตุ คือ นายพอล อายุ 19 ปี เป็นลูกชายของผู้ตาย ชุดสืบสวน สน.คลองตัน ได้ควบคุมตัวไปสอบปากคำที่โรงพัก โดยสอบปากคำผ่านล่ามภาษาฝรั่งเศส เนื่องจากผู้ก่อเหตุพูดได้เพียงภาษาเดียวเท่านั้น แต่ผู้ก่อเหตุให้การวกวน พูดจาไม่รู้เรื่อง เบื้องต้นอ้างว่าใช้ค้อนทุบหัวพ่อจนถึงเเก่ความตาย ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ยังไม่สามารถให้การได้

และเมื่อเวลา 21.38น. ที่สน.คลองตัน ภรรยาชาวไทยของผู้เสียชีวิต ได้เดินทางมาที่ สน. เพื่อให้การเพิ่มเติม โดยบรรยากาศภายในห้องสืบสวนนั้นสังเกตว่า ตัวของลูกชายที่ก่อเหตุฆ่าพ่อยังอยู่ในอาการเครียด และยังไม่ยอมให้การใดๆ

ด้านนายชูเกียรติ อายุ 73 ปี เพื่อนบ้าน เปิดเผยว่า โดยปกติแล้วบ้านหลังเกิดเหตุจะมีเพียงพ่อชาวฝรั่งเศสอาศัยอยู่เพียงลำพัง เพราะเนื่องจากลูกชายอาศัยอยู่ที่คอนโด นานทีจะกลับมาเยี่ยมพ่อ แต่การกลับมาทุกครั้งก็มักจะทะเลาะกันเป็นภาษาผรั่งเศส ซึ่งส่วนใหญ่ลูกชายก็จะใช้ความรุนแรงทุบตีและโมโหกับพ่อ โดยก่อนหน้านี้ก็ไปๆ มาๆ จนกระทั่งเมื่อวันศุกร์ที่ 2 ก.ย. ที่ผ่านมา ตัวของลูกชายได้ย้อนกลับมาที่บ้าน จากนั้นก็ได้ยินเสียงทะเลาะกันเหมือนเช่นเคย แต่ก็รู้สึกแปลกใจเพราะในบ้านเปิดไฟทิ้งเอาไว้ ประกอบกับมีทีวีพัง ก่อนที่จะมีคนเอะใจแล้วเข้าไปตรวจสอบแล้วพบเป็นศพ

ส่วนพฤติกรรมของลูกชายนั้น ยอมรับว่าเป็นเรื่องที่มักจะใช้ความรุนแรงกับพ่อเป็นประจำ ซึ่งในวันเกิดเหตุเชื่อว่าน่าจะย้อนกลับมาเพื่อขอเงินพ่อ แต่ทั้งคู่มีปัญหากัน และลูกชายได้ทำร้ายพ่อก่อนที่จะหลบหนีและถูกจับกุมได้

หนุ่มลูกครึ่งฆ่าพ่อหมกศพคาบ้าน เมียไทยช็อก ตร.ลุยจับคาดปมเงินขาดมือ