เมื่อเวลา 13.00น. บริเวณด้านหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพ กรมราชทัณฑ์ ร่วมกันแถลงข่าวหลังจากรับตัวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ต้องขังในคดีทางการเมืองมีโทษจำคุกรวม 10 ปี

โดยมีนายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม , นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ นายสิทธิ สุธีวงศ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ในฐานะโฆษกกรมราชทัณฑ์ , นายนัสที ทองปลาด ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร , และนายแพทย์วัฒน์ชัย มิ่งบรรเจิดสุข ผู้อำนวยการทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์

 

นายอายุตม์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เผยว่า ภายหลังรับตัวอดีตนายกทักษิณมาแล้ว เจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ได้จัดสถานที่เพื่อรองรับกรณีมีญาติมาเยี่ยม เนื่องจากผู้ต้องขังมีญาติ เพื่อน และองค์กรต่างๆ ที่ให้การสนับสนุน และมีความประสงค์ที่จะเดินทางเข้ามาเยี่ยมจำนวนมาก โดยที่ทุกคนสามารถมาลงทะเบียนขอเยี่ยมได้ตามระเบียบของเรือนจำ

และ อดีตนายกทักษิณ มีอายุ 74 ปีแล้ว ซึ่งถือว่าอยู่ในกลุ่มผู้ต้องขังสูงอายุ ที่ต้องเฝ้าระวังทั้งเรื่องสุขภาพร่างกาย และอนามัย เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย และขณะนี้ได้แยกตัวผู้ต้องขังไปอยู่ในสถานพยาบาลของเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เพียงคนเดียวก่อนเพื่อไม่ให้ปะปนกับผู้ต้องขังคนอื่น

 

ส่วนแนวทางขณะะนี้ ยังไม่ต้องกล้อนผมเหมือนผู้ต้องขังคนอื่น เนื่องจากผมยังไม่ยาว และนายทักษิณ ได้ไว้ผมรองทรงซึ่งก็ถือว่า ไม่ยาวมาก รวมทั้งเป็นกลุ่มผู้สูงอายุ เป็นผู้ใหญ่ที่ทางเรือนจำให้เกียรติ ส่วนเสื้อผ้าที่ใส่เข้าเรือนจำวันนี้ เป็นเสื้อเชิ้ตสีขาว และยังไม่ได้เปลี่ยนเสื้อของทางเรือนจำ โดยจุดแรกเข้าไปประตู 2 ผ่านไปยังประตู 3 ก่อนไปยังจุดตรวจสอบประวัติ พิมพ์ลายนิ้วมือ ถ่ายภาพ ไม่ได้ใช้เวลานาน ไม่มีสีหน้าวิตกกังวล และไม่ได้ร้องขออะไรเป็นพิเศษ

ด้าน นายสิทธิ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ในฐานะโฆษกกรมราชทัณฑ์ เผยว่า ขณะนี้อดีตนายกทักษิณ ได้ถูกแยกขังอยู่ในแดน 7 บนชั้น 2 ของอาคารเพียงคนเดียว ซึ่งเป็นห้องปกติไม่มีเครื่องปรับอาการ มีกล้องวงจรปิด และแพทย์ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ดูแลตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อดูแลตามกระบวนการและความปลอดภัย

 

สำหรับการเข้าเยี่ยมของญาติ ตามระเบียบผู้ต้องขังจะถูกกักตัวก่อน 10 วัน โดยใน 5 วันแรก จะให้เพียงทนายความเข้าเยี่ยมเท่านั้น ส่วนวันที่ 6-10 จะญาติเยี่ยมได้ผ่านแอพลิเคชั่นไลน์ ซึ่งนายทักษิณ ถือว่าเป็นกลุ่มเปราะบาง 608 สามารถเรียกร้องขออาหารเสริม หรือยารักษาโรคเพิ่มเติมได้

 

นอกจากนี้ นายสิทธิ ยังบอกอีกว่า การขอพระราชทานอภัยโทษ ว่านายทักษิณ สามารถยื่นคำร้องได้ตั้งแต่วันนี้ โดยตัวนายทักษิณหรือญาติ สามารถส่งเอกสารให้ทางเรือนจำฯ ก็ได้ และขั้นตอนหลังจากนี้จะต้องเตรียมเอกสารให้พร้อม และยื่นให้เรือนจำพิจารณา ก่อนที่จะส่งให้กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม ก่อนเสนอให้นายกรัฐมนตรีลงนาม ส่งให้สำนักองคมนตรี นำเรื่องขึ้นทูลเกล้าถวาย ซึ่งขั้นตอนนี้ใช้เวลาประมาณ 1-2 เดือน และหลังจากนี้ก็ขึ้นอยู่กับพระราชอำนาจ ซึ่งส่วนใหญ่จะช้าอยู่ที่ขั้นตอนการรวบรวมเอกสารของผู้ต้องขัง

 

ซึ่งการขอพระราชทานอภัยโทษมี 2 ประเภท คือเฉพาะบุคคล และเป็นการทั่วไป โดยแต่ละเรื่องจะมีพระบรมราชวินิจฉัยเป็นแต่ละคราวไป โดยนายทักษิณ

 

ส่วน นายนัทธี ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า กรณีที่นายทักษิณ ต้องอยู่ในแดนที่เป็นสถานพยาบาลเพื่อระมัดระวังรักษาความปลอดภัย เนื่องจากเป็นกลุ่มเปราะบาง และยึดหลักความปลอดภัยเป็นสำคัญ โดยใช้ทีมแพทย์และพยาบาลของเรือนจำตรวจร่างกายตลอด สำหรับอาหารของทางเรือนจำ ก็เป็นอาหารตามวงรอบ แต่ก็มีอาหารพิเศษที่มีร้านค้าเปิดจำหน่าย โดยผู้ต้องขังสามารถซื้อได้วันละ 500-600 บาท และเป็นเมนูที่ดีต่อสุขภาพ ไม่มีโซเดียม ส่วนกิจวัตรของเรือนจำ นายทักษิณ ก็ต้องปฏิบัติตามระเบียบเหมือนผู้ต้องขังคนอื่นทั่วไป

 

ส่วนอาหารมื้อแรกในเรือนจำ ซึ่งเป็นมื้อกลางวัน ที่นายทักษิณ รับประทานเพียงน้ำดื่ม และขนมปังเพียงเล็กน้อย และบอกว่ายังไม่ค่อยหิว ส่วนอาหารมื้อเย็นในเรือนจำวันนี้ เป็นข้าวต้ม และผักต้ม

 

ด้าน นายแพทย์วัฒน์ชัย ผู้อำนวยการทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์  เปิดเผยว่า ญาติของนายทักษิณ ได้นำประวัติการรักษา การตรวจร่างกายแบบ MRI จากการรักษาในโรงพยาบาลที่ต่างประเทศ 2 แห่ง มาประกอบด้วย โดยเบื้องต้นพบว่านายทักษิณกำลังรักษาอยู่ 4 โรค คือ โรคหัวใจขาดเลือด ปอดอักเสบเรื้อรัง ความดันโลหิตสูง และกระดูกสันหลังเสื่อมกดทับเส้นประสาท ซึ่งทั้ง 4 โรคนี้ ก็ถือว่าเป็นโรคที่ต้องใช้แพทย์เฉพาะทางทำการรักษา โดยเบื้องต้นได้เตรียมแพทย์ของโรงพยาบาลราชทัณฑ์ไว้แล้ว แต่หากโรคใดไม่มีแพทย์เฉพาะทางก็จำเป็นต้องส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลที่มีแพทย์เฉพาพทางของโรคนั้นอยู่

 

 ด้าน ดร.นันทนา นันทวโรภาสคณบดีวิทยาลัยสื่อสารการเมือง มหาวิทยาลัยเกริก ได้ให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นนี้ว่า ตนเห็นคุณทักษิณที่ออกคลับเฮาส์ กระฉับกระเฉง แข็งแรง มีโรคตามอายุเข้าใจ

ได้ แต่มองว่าการให้สิทธิมากเกินไปอาจจะถูกมองว่ามีอภิสิทธิ์ อย่างเรื่องทรงผมเข้าใจว่าต้องกล้อนผม  ต้องปรับเปลี่ยนทรงผมให้ตรงกับกฎเรือนจำ เสื้อผ้าควรเป็นเสื้อผ้าของนักโทษ

 

กรณีผู้ลี้ภัยทางการเมืองคนอื่นๆ หากจะขอกลับบ้าน แล้วขอสิทธิพวกนี้ได้เหมือนกันหรือไม่ มันจะกลายเป็นสองมาตรฐาน เป้นการเลือกปฏิบัติ คนจะมองว่า สุดท้ายก็จะไม่ได้อยู่ในเรือนจำ เพราะต่อไปก็ต้องไปพักรักษาตัวในโรงพยาบาล

 

ตนเข้าใจได้ว่าเป็นอดีตนายกฯ เป็นบุคคลสำคัญของประเทศ การให้การต้อนรับแบบนี้เข้าใจได้ แต่ถ้าเข้าไปในราชทัณฑ์หากแตกต่างจะถูกคนอื่นมองหรือไม่? ราชทัณฑ์ต้องตอบคำถามสังคมให้ได้

 

ด้าน อ.มัลลิกา ยังให้ความเห็นว่า หลังจากนี้ โซเชียลจะแซะอย่างหนัก กรมราชทัณฑ์จะต้องกลายเป็นแพะในเรื่องนี้ โรคที่คุณทักษิณเป็น

ไม่ใช่โรคติดต่อ มีการขังเดี่ยวอาจจะมองว่าเป็นวีไอพีได้ เพราะไม่ได้ไปขังรวมกับผู้สูงอายุท่านอื่นๆ กลายเป็นสองมาตรฐานแบบชัดเจน หากจะทำแบบนี้ กรณีของคุณบุญทรง เตริยาภิรมย์อดีตรัฐมนตรี ก็ถือเป็นผู้ใหญ่เหมือนกันหรือไม่

 

ส่วนอ.วีระพัฒน์ มีความเห็นว่า ยิ่งเรื่องคุณทักษิณเงียบเร็วเท่าไร เพื่อไทยยิ่งได้เปรียบ ตนมองว่าไม่ควรแถลงเรื่องนี้ยาวต้องบริหารจัดการ

ไม่ให้ประเด็นนี้เป็นประเด็นข่าว ตนขอทำนายถ้าเศรษฐาเล่นเกมอย่างชาญฉลาด เราอาจจะไม่ได้ ยินชื่อทักษิณออกจากปากเศรษฐาเลย คุณเศรษฐาควรโฟกัสไปถึงการแก้ปัญหา เพราะตอนนี้คุณทักษิณไม่ได้เกี่ยวกับรัฐบาลแล้ว เพื่อไทยควรเดินหน้าสร้างการเมืองที่สร้างสรรค์

 

อ.มัลลิกา กล่าวต่อว่า พรรคเพื่อไทยต้องสรุปบทเรียกรณีมวลชน การปลุกระดมมวลชนไม่เป็นผลดีอย่างแน่นอน เมื่อได้นายกฯต้องเดินหน้าเรื่องปากท้อง การนำมวลชนไปตั้งเต็นท์หน้าเรือนจำ ก็จะวุ่น ก็จะเข้าสู่หมวดการจราจล

 

อ.นันทนา มองประเด็นระหว่างเรื่องเพื่อไทยกับเรื่องทักษิณอยู่ในเรือนจำ ต้องแยกออกจากกัน หน้าที่เพื่อไทยคือการบริหารประเทศ ส่วนคุณเรื่องทักษิณต้องโปร่งใส เพราะทักษิณเป็นอดีต

 

นายกรัฐมนตรีที่อยู่ในเรือนจำ และเรื่องนี้ต้องไม่ลับ เพราะทักษิณเดินทางมาแบบเปิดเผย เชื่อว่าคุณทักษิณเมื่อออกจากเรือนจำและอันดับต่อไปคุณทักษิณจะหาวิธีการที่จะอำนวยความสะดวก แต่จะไม่ยอมให้ยิ่งลักษณ์ติดคุก แต่ต้องใช้เวลา ต้องให้รัฐบาลแข็งแรงพอสมควร

 

อ.วีระพัฒน์ แสดงความเห็นใจยิ่งลักษณ์ เพราะทักษิณกับยิ่งลักษณ์เป็นพี่น้องที่สนิทกัน ไว้ใจกันมากๆ ภาพที่คุณยิ่งลักษณ์ถอยเดินถอยออกมาไม่หันไปมองคุณทักษิณ ตนตีความว่ายิ่งถ้าหันไปมองแล้วเดี่ยวทำใจไม่ได้ ตนเองดูยังรู้สึกสะเทือนใจ เชื่อว่าคุณยิ่งลักษณ์ฉลาด เข้มแข็ง ต้องอดทน รอรัฐบาลอยูทรงก่อนมีการเปิดทางไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญก่อน หากมีกฎหมายผลักดันนิรโทษกรรมนั้นต้องรอคุณทักษิณออกจากคุก

 

ส่วนด้านอ.มัลลิกา มองว่าคุณทักษิณใช้สิทธิคนแก่ คนชราแต่ยิ่งลักษณ์ไม่แก่ใช้สิทธิแบบทักษิณไม่ได้

  

อ.นันทนา วิเคราะห์ต่อว่าคุณทักษิณต้องการสื่อสารให้รับรู้ว่าจงรักภักดีสูงสุด ทำให้รู้ว่าคำกล่าวหาที่เคยพูดเรื่องล้มเจ้าไม่จริง  ส่งผลดีต่อเรื่องขออภัยโทษ  ภาพคู่ยิ่งลักษณ์ปล่อยมาเพื่อแสดงดราม่าพี่น้อง ภาพทำให้ดูอ่อนไหว เห็นอกเห็นใจ ทำให้ลดโทนอารณ์และใจอ่อน เป็นฉากดราม่าเหมือนดูละคร

 

อ.วีระพัฒน์ วิเคราะห์ประเด็นว่าพื่อไทยจะวางตัวยังไงกับประเด็น 112  ความยากเริ่มจากวันนี้เป็นต้นไป ทำให้ก้าวไกลเป็นพรรคโดดเดี่ยว ควรมีฝ่ายค้านที่แข็งแรง  แต่ระบบ สว.มันทำเพี้ยน ยิ่งมีเรื่องทักษิณกลับมา ยิ่งทำให้ก้าวไกลเป็นตัวประหลาด  เพื่อไทยควรมีวิธีพูดกับก้าวไกลเรื่องแก้ ม.112 สิ่งที่กลัวคือภาพทักษิณที่กราบรูปในหลวง ถ้าเพื่อไทยไม่ระวังฐานเสียงเพื่อไทยจะไหลไปก้าวไกลเพราะไม่เหมือนกับสิ่งที่เคยให้สัญญาเอาไว้

 

ส่วนประเด็นที่ว่าก้าวไกลกับประชาธิปัตย์ ทำงานร่วมกันได้ไหม

อ.มัลลิกา บอกว่า มันอยู่ที่บทบาทและหน้าที่ ฝ่ายค้านไม่จำเป็นต้องรักกัน แค่ทำหน้าที่ก็จบ  พรรคร่วมต่างหากที่ต้องรักกัน

กราบพระบรมฉาลักษณ์สะเทือนถึงก้าวไกล 3 กูรูชี้ ทักษิณทำสิ่งนี้บอกชัดเลือกแล้ว