รปภ.ปืนดุ! บุกยิงพี่เขย ก่อนขี่จยย.ไปยิงลูกจ้างหมวดทางหลวง ดับสลด 2 ศพ ตร.เช็กวงจรปิด บุกบ้านผู้ก่อเหตุล่าตัว พบอาวุธปืนอื้อ

วันที่ 30 กรกฏาคม 2566 ร.ต.อ.สง่า ภิรมกิจ รอง สว.(สอบสวน)สภ.อำเภอจัตุรัส รับแจ้งเหตุมีคนถูกยิงเสียชีวิต ภายในหมวดทางหลวงละหาน หมู่ที่9 บ้านลี่ ตำบลละหาน อำเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ จึงรุดไปตรวจที่เกิดเหตุพร้อมแพทย์โรงพยาบาลอำเภอจัตุรัส และ หน่วยกู้ภัยสว่างคุณธรรมอำเภอจัตุรัส

ที่เกิดเหตุพบร่างผู้เสียชีวิตชาย 1 ราย นอนจมกองเลือดอยู่บริเวณด้านหลังอาคาร ซึ่งห่างจากบ้านพักราว 100 เมตร มีเลือดไหลนองเป็นทางยาวมาจากภายในห้องน้ำ ในตัวมีร่องรอยถูกยิงด้วยปืน.38 เข้าบริเวณลำคอ หน้าอก และ บริเวณไหล่ด้านซ้าย ทราบต่อมาชื่อนายพงศ์ธร อายุ 31 ปี เป็นลูกจ้างชั่วคราวหมวดทางหลวงละหาน

เบื้องต้นทราบชื่อผู้ก่อเหตุคือนายสุขชัย อายุ 52 ปี เป็น รปภ. หมวดทางหลวงละหาน ใช้อาวุธปืนขนาด.38 ก่อเหตุยิงนายวิชา ซึ่งเป็นพี่เขยดับคาบ้านพักเลขที่ 213 หมู่ที่ 13 ตำบลบ้านค่าย อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ ก่อนที่เจ้าตัวจะขับรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า เอ็มสแลช สีน้ำเงิน-ดำ ป้ายทะเบียน 1กบ1163 หมวดจังหวัดชัยภูมิ มุ่งหน้าถนนชัยภูมิ-สีคิ้ว ไปที่หมวดทางหลวง และลงมือก่อเหตุ ยิงนายพงศ์ธร อายุ 31 ปี เป็นลูกจ้างชั่วคราวหมวดทางหลวงละหานเพื่อนร่วมงาน เสียชีวิตคาที่อีก 1 ศพ ก่อนขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป

ซึ่งหลังจากที่เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุบริเวณหมวดทางหลวงละหาน หมู่ที่ 9 บ้านลี่ ตำบลละหาน อำเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ เสร็จและได้เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุอีก 1 จุด ที่บ้านเลขที่ 213 หมู่ที่ 13 ตำบลบ้านค่าย อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งเป็นบ้านของผู้พี่เขย (เสียชีวิตรายแรก) พบปลอกกระสุนปืนชนิดเดียวกันกับที่ก่อเหตุที่หมวดทางหลวง จึงเก็บใว้เป็นหลักฐาน พร้อมทั้งตรวจสอบเขม่าดินปืนบริเวณโซฟาที่เกิดเหตุภายในบ้านหลังดังกล่าว

จากการสอบถามนายสุรศักดิ์ อายุ 37 ปี (หลานผู้ก่อเหตุ) เล่าว่าก่อนเกิดเหตุ ผู้ก่อเหตุได้มาบอกตนว่าให้เปิดประตูบ้านพ่อเลี้ยงตนเอง เพื่อที่จะได้เข้าไปเอาหัวหมูเพื่อนำมาประกอบอาหาร ตนจึงได้เดินมาเปิดประตูบ้านให้กับผู้ก่อเหตุ ซึ่งขณะนั้นผู้เสียชีวิตได้นั่งดูทีวีอยู่บริเวณโซฟาภายในบ้าน หลังจากที่ตนเปิดประตูบ้านเสร็จตนก็ได้เดินออกไปแต่ยังไปไม่ไกลได้ยินเสียงปืนดังขึ้นจำนวน 2 นัดตนจึงรีบวิ่งมาดูพบว่าผู้ก่อเหตุได้ยิงพ่อเลี้ยงของตน นอนหายใจรวยรินแล้ว จนจึงวิ่งเข้ามาแล้วสอบถามผู้ก่อเหตุว่ายิ่งพ่อเลี้ยงของตนทำไม แต่ผู้ก่อเหตุยังไม่ทันได้บอกตนก็รีบวิ่งมาช่วยเหลือและแจ้งเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยเหลือพ่อเลี้ยงของตนให้นำส่งโรงพยาบาลชัยภูมิ แต่พ่อเลี้ยงของตน ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตในเวลาต่อมา

ซึ่งในเบื้องต้นตนทราบปัญหาระหว่างพ่อเลี้ยงของตนกับผู้ก่อเหตุมาโดยตลอดว่าทั้ง 2 คนมีปัญหากระทบกระทั่งกันเพียงแค่เรื่องเล็กน้อย ซึ่งเป็นการตัดต้นไม้ที่อยู่ในบริเวณบ้านของผู้ก่อเหตุ และ ผู้ก่อเหตุมีลักษณะนิสัยหวงของที่อยู่ภายในบ้านของผู้ก่อเหตุเอง อีกทั้งยังมีปัญหาเรื่องที่ผู้ก่อเหตุเข้าใจผิดว่าแจ้งตำรวจมาจับตนเอง อีกทั้งยังเป็นปัญหาที่มีอยู่บ่อยครั้ง หลังจากผู้ก่อเหตุได้บุกเข้ามายิงเสร็จแล้วก็ได้ยึดโทรศัพท์ของตนไปด้วย ก่อนขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไปและไปก่อเหตุที่หมวดทางหลวงอีกครั้ง

ด้านเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภูธรจังหวัดชัยภูมิ จะได้เข้าตรวจสอบบ้านของสุขชัย ซึ่งเป็นบ้านของผู้ก่อเหตุ พบปืนจำนวนหลายกระบอก ทั้งปืนสั้น ปืนยาว ปืนลูกซอง อยู่ภายในรถยนต์ผู้ก่อเหตุ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจยึด พร้อมทำการบันทึกไว้เป็นหลักฐานว่าผู้ก่อเหตุนั้นมีอุปกรณ์ประกอบปืน และมีปืนจำนวนมากก่อนทำการยึดไปไว้ที่ภูธรจังหวัดชัยภูมิในเบื้องต้น อีกทั้งยังได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณถนนสายชัยภูมิ-สีคิ้ว ตั้งแต่ช่วงออกจากบ้านค่ายไปจนถึงบริเวณที่ก่อเหตุจุดที่ 2 คือหมวดทางหลวงชัยภูมิ ก่อนจะประสานเจ้าหน้าที่จราจรตรวจสอบหาตัวผู้ก่อเหตุ ซึ่งในขณะนี้ยังไม่พบตัว ส่วนร่างผู้เสียชีวิตนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้ประสานญาติให้ติดต่อรับร่างไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป