จากกรณี เมื่อเวลา 18.00 น. วานนี้ (28 ก.ค.) ตำรวจ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ จ.ปทุมธานี ได้รับแจ้งเหตุ มีคนไล่ยิงกัน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดที่บริเวณลานจอดรถ ภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ย่านรังสิต ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี

ที่เกิดเหตุบริเวณช่องจอดรถ G5 เจ้าหน้าที่พบรถยนต์เก๋งของชาวบ้าน ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่ไฟหน้าด้านซ้ายเสียหาย และถูกกระสุนยิงทะลุยางรถแตกจำนวน 1 เส้น ส่วนผู้บาดเจ็บ มีพลเมืองดีนำส่งโรงพยาบาลปทุมธานีไปก่อนหน้านี้ ทราบชื่อต่อมา คือ น.ส.บุรัษกร อายุ 45 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาด เข้าที่หลังด้านซ้ายจำนวน 1 นัด ล่าสุดอาการปลอดภัยแล้ว

ส่วนผู้ก่อเหตุ จากการสืบสวน ทราบชื่อ คือ นายณัฐพล หรือ ขุน อายุ 25 ปี ผู้ก่อเหตุ หลังเกิดเหตุได้ขับรถยนต์เก๋งหลบหนีไปทันที ส่วนปมเหตุ ทราบว่า ก่อนเกิดเรื่อง นายณัฐพล ซึ่งเป็นกิ๊กของนางสาวมณีนุช ได้นัดเคลียร์ปัญหากัน โดยนางมณีนุช ต้องการจะขอบอกเลิกขอห่าง โดยขณะนั้น สามีคนที่ 2 ของนางสาวมณีนุช กำลังเดินอยู่ภายในห้างกับลูก

ระหว่างที่ทั้งคู่เคลียร์ปัญหากัน และนางมณีนุชได้ออกมสคุยกับนายณัฐพล แต่กลับถูกนางสาวมณีนุช ขอบอกเลิก ทำให้นายณัฐพลจึงรู้สึกโกรธแค้น รับไม่ได้ จึงได้ใช้ปืนที่เตรียมมาไล่ยิงนางสาวมณีนุชกลางลานจอดรถ แต่ระหว่างที่นางสาวมณีนุชวิ่งหลบหนี นายณัฐพลได้ไล่ยิงเธอแต่กระสุนกลับไปถูกนางสาวบุรัษกร ซึ่งกำลังจะเดินขึ้นรถ ได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่นายณัฐพล จะชับรถเก๋งหลบหนีไป

ล่าสุดวันนี้ทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินทางไปดูจุดเกิดเหตุ และได้ภาพจากกล้องวงจรปิดของห้าง ที่สามารถบันทึกภาพขณะเกิดเหตุ เวลาประมาณ 17.28 น. โดยคลิปวงจรปิด จะเห็น นางสาวมณีนุช ได้ยืนเคลียร์ปัญหากับนายณัฐพลบริเวณข้างรถเก๋งนายณัฐพลอยู่

ระหว่างนั้นจะเห็นนางสาวมณีนุช ได้วิ่งหนีนายณัฐพล โดยณัฐพลได้วิ่งใช้ปืนไล่ยิงเธอ ซึ่งนางมณีนุช ได้วิ่งหนีเอาตัวรอดและวิ่งไปที่รถตู้ ซึ่งขณะนั้นนางสาวบุรัษกร ผู้บาดเจ็บ ได้ยืนอยู่กับญาติๆ และกำลังจะก้าวขึ้นรถตู้

จากนั้นจะเห็นว่า นายณัฐพล ได้วิ่งไล่ตามมาและยิงใส่นางสาวมณีนุชอีก 2-3 นัด แต่กระสุนพลาดเป้าและถูกด้านหลังข้างนางสาวบุรัษกรซึ่งไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วยได้รับบาดเจ็บ โดยหลังจากยิงเสร็จจะเห็นนายณัฐพลได้วิ่งกลับไปที่รถและขับรถหลบหนีไปทันที

ล่าสุดวันนี้เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา นางสาวบุรัษกร อายุ 45 ปี ผู้บาดเจ็บที่ถูกยิง เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ตัวเองเพิ่งเดินทางมาจากจังหวัดสุราษฎร์ธานีมาทำธุระที่กรุงเทพฯ และได้แวะมาซื้อตู้เย็นให้ลูกสาว เพื่อเอาเข้าคอนโดฯ จากนั้นระหว่างที่ตนเองกำลังขนตู้เย็นที่เพิ่งซื้อมาขึ้นรถตู้ ตนเองได้ยืนอยู่ข้างรถ

ระหว่างนั้น ได้เห็นผู้หญิงคนหนึ่งวิ่งมาด้านหลังของตนเอง ก่อนจะเห็นฝ่ายชายวิ่งตามมาและใช้ปืนไล่ยิง ซึ่งฝ่ายหญิงที่วิ่งหนีได้วิ่งมาใกล้กับตนเองมาก ทำให้ฝ่ายชายที่ไล่ยิง ยิงพลาดและกระสุนมาเข้าบริเวณด้านหลังของตนเองจนได้รับบาดเจ็บ

โชคดีที่ขณะนั้นตนเองถูกยิงแค่เฉี่ยวๆ กระสุนทะลุหลัง ไม่ถูกจุดสำคัญ โดยตนเองขอให้ตำรวจจับคนร้ายได้ไวๆ และอยากบอกว่า ทีหลังเวลาจะไปทะเลาะมีปัญหาอะไร ก็ควรพูดคุยกันดีๆ ไม่ใช่มาก่อเหตุยิงในห้างสรรพสินค้าแบบนี้ เพราะคนอื่นที่ไม่รู้เรื่องเขาจะเดือดร้อน

ขณะเดียวกัน ทีมข่าวได้กล้องวงจรปิดอีกมุม เป็นกล้องตัวที่ 2,3,4 ซึ่งอยู่บริเวณหน้าร้านค้า จะเห็นว่า หลังจากเกิดการยิงกันขึ้น ทั้งประชาชนที่เดินอยู่ในลานจอดรถ แม่ค้าที่ขายของอยู่ต่างตกใจและวิ่งกันหาที่หลบหนี ซึ่งภาพอีกมุมจะเห็นนางสาวมณีนุช ได้วิ่งรวมไปกับประชาชนเข้าไปหลบกระสุนอยู่ภายในห้าง

ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นางสาวอ้อ แม่ค้าขายเสื้อผ้าที่เปิดร้านขายเสื้อผ้าอยู่ใกล้ลานจอดรถ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองกำลังนั่งคุยโทรศัพท์กับลูกสาวอยู่ภายในร้านขายเสื้อผ้า ระหว่างนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้นประมาณ 5-6 นัด ตนเองจึงเดินออกมาชะโงกหน้าดูว่าเกิดอะไรขึ้น จากนั้นก็เห็นลูกค้าที่มาซื้อข้างต่างวิ่งเข้ากระสุนปืนเข้ามาหลบภายในห้อง ตนเองก็หาที่กำบัง ตอนนั้นตกใจมาก เพราะเสียงปืนดังลั่นสนั่นลานจอด จากนั้นก็เห็นคนที่อยู่ใกล้รถตู้ที่มีผู้บาดเจ็บถูกยิงจะโกนบอกว่า “อย่าเพิ่งออกมาๆ หาที่หลบๆ” จากนั้นผู้ก่อเหตุก็ขับรถเก๋งหลบหนีไปทันที

ทั้งนี้ตนเองมาทราบภายหลังว่า กระสุน 1 นัด ได้พุ่งเข้ามาในร้านขณะตนเองยืนชะโงกดู โชคดีที่ตนเองไม่ถูกกระสุน โดยกระสุนพุ่งเข้าไปถูกลังเสื้อผ้าที่อยู่ในร้าน ซึ่งห่างจากจุดที่ตนเองยืนอยู่ขณะนั้นเพียงนิดเดียว