พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ให้สัมภาษ​ณ์ถึงการจัดตั้งรัฐบาลตอนนี้ที่ดูเหมือนมีรอยร้าวระหว่างเพื่อไทยกับก้าวไกลถึงขั้นต้องยกเลิกประชุม 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลและมีกระแสข่าวด้วยว่า 2 พรรคมองหน้ากันไม่ติดแล้ว ว่า อาจเป็นไปได้ที่ 2 พรรคจะมองหน้ากันไม่ติด เพราะการจัดตั้งรัฐบาลตอนที่พรรคก้าวไกลเป็นแกนนำพรรคเพื่อไทย ก็ไม่เคยไปยุ่ง เมื่อวันนี้เป็นหน้าที่ของพรรคเพื่อไทย ก็ควรจะปล่อยให้พรรคเพื่อไทยมีความเป็นอิสระ ไม่ใช่ไปเกี่ยวเขาไว้ อะไรก็ไม่ได้ โดยไม่ดูตัวเองเลยว่าคนอื่นเขาคิดอย่างไร วันนี้ สว.ทั้งหมดก็บอกไม่เอาก้าวไกล พรรคอื่นๆเขาก็ไม่เอาก้าวไกล มันแสดงให้เห็นว่าเขาไม่เอา แต่พับก้าวไปก็อ้าง MOU เกาะไปด้วยแล้ว พรรคเพื่อไทย เขาจะไปรอดได้อย่างไร สุดท้ายก็จมน้ำตายด้วยกัน

 

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวอีกว่า ตนไม่เห็นด้วยตั้งแต่ยกร่าง MOU แล้ว รายละเอียด MOU แทนที่จะเป็นเรื่องสำคัญ แต่กลับเอานโยบายพรรคของตัวเองมาใส่ ตอนแรกก็จะใส่มาตรา 112 ด้วย เราก็คัดค้าน ซึ่งการเขียนแบบนี้มันจะเหมือนกันบีบให้ลงคะแนนช่วยนโยบายคุณ  แต่ตอนนั้นเพื่อให้การทำงานของ 8 พรรคเดินไปได้ตนก็ยินยอม แต่พอมาตอนนี้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกไม่ได้แล้ว ก็ถือว่า MOU ตัวนี้ ไม่ต้องฉีด แต่มันหมดไปโดยปริยาย เพื่อไทยจะทำอะไรต่อก็เป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทย

 

"ไม่ใช่อะไรก็ต้องของกู ตัวกู ใครจะไปเป็นอย่างอื่นไม่ได้ ใครจะจัดอะไรจะเอาพรรคไหน จะเอาพรรคพลังประชารัฐ พรรครวมไทยข้ามชาติ ไม่ได้ มันก็จมน้ำตายจากรัฐบาลไม่สำเร็จ"  ตัดชน "การตั้งรัฐบาลที่ผ่านมาไม่เคยมี MOU แต่ที่มีครั้งนี้เพราะพรรคก้าวไกลเขาอยากจะผูกมัด เห็นไหมผูกมัดตอนนี้ใครก็ไปไหนไม่ได้ ต้องทำตาม MOU ใครไม่ทำตาม ก็ผิดสัญญา เป็นคนเลว คนชั่ว MOU มันใช้ได้ที่ไหนกันล่ะ"

 

พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ ยังไม่เห็นด้วยกับข้อเสนออีกว่าให้รอ 10 เดือน ให้ สว. หมดวาระ ก่อน เพราะที่ผ่านมาเราอยากให้คุณประยุทธ์ ออกไปทุกวัน แล้วจะให้เขาบริหารประเทศต่อทำไม ประเทศชาติมันเสียหาย เบิกงบประมาณอะไรได้เลย ที่สำคัญ สส.ทุกคน ได้รับเงินเดือนตั้งแต่วันเลือกตั้ง ก็อยู่กินเงินเดือนแบบนี้ งานก็ไม่ต้องทำ ตัวเองได้ประโยชน์อยู่ฝ่ายเดียว ประชาชนไม่ได้อะไร คิดถึงแต่ประโยชน์ตัวเองไม่ได้คิดถึงประโยชน์ประเทศชาติเลย

 

ก่อนจะย้ำให้พรรคก้าวไกลรู้จักเสียสละบ้าง ไม่ใช่ไปยื่นข้อแม้ ไม่เอาพรรคนู้นพรรคนี้ เพราะข้อเท็จจริงคือทุกพรรคเขาไม่เอาคุณ และครั้งที่แล้ว ได้ยกตัวอย่างเรื่องของเรืออยู่กลางทะเลโดนมรสุม ให้คนหนุ่มเสียสละ ก็ยังถูกยกไปเปรียบเทียบว่า การทำงานในสภาต้องคนหนุ่มเท่านั้น

 

"แก่อย่างตนมันไม่เหมือนแก่คนแบบคนอื่น ไอ้คนหนุ่มที่มันโม้ๆเอามาวิ่งแข่งกับพี่มา พวกคุณกินเหล้าสามเณรเทเมา จะมีท่าอะไร ประสบประการก็น้อยกว่าพี่ พี่บริหารคนองค์กรตำรวจมาตั้งเยอะแล้วแล้วพี่ก็ไม่เหมือน ผบ.ตร.คนอื่นด้วย"

 

เมื่อถามยามว่า มีโอกาสที่จะจับมือกับพรรค

ขั้วรัฐบาลเดิมหรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า จะฝ่ายนี้หรือฝ่ายนู้นก็เป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชน ประชาชนเขาเลือกมา

 

"จะบอกเขาเลวหรือ ตัดขาดกันตรงนี้เลยมั้ย ฉันฝ่ายประชาธิปไตย 312 อีกฝ่าย 188 คุยกันไม่รู้เรื่องฆ่ากันเลยดีไหม เอาปืนมายิงแม่งหมดเลย ก็ศัตรูกันนี่แค่นี้ไม่พอเบาเกินไป ไม่ต้องมาอยู่ร่วมกัน ก็ฆ่ากันไปเลยหมดเรื่อง ปัดโธ่คนมันไม่ได้เลวทั้งหมดหรอก เคยมีสุภาษิตบอกว่า นมไม่มีขน คนไม่มีเพื่อน จะขึ้นอยู่ที่สูงไม่ได้ คนไม่มีเพื่อนจะไปก็ไปไม่รอด อยากจะเป็นนายกฯก็เลยไม่ได้เป็น ตอนเรียนนักเรียนนายร้อยตำรวย คนที่ได้ที่ 1 ไม่เคยมีใครได้เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติสักคนเดียว แต่ได้ที่ 1 แล้วติดคุกมี คนที่ได้ที่ 1 ไม่มีโอกาส เพราะพวกนี้เห็นแก่ตัว สู้คนที่ช่วยเหลือเพื่อนโอบอ้อมอารีไม่ได้ ดังนั้น หากจะอยู่ด้วยกัน 750 คน เราต้องเป็นเพื่อนกับเขาไม่ใช่เป็นศัตรู เพราะหากไม่มีเพื่อนใครก็ไม่เอาคุณ เล่นการเมืองแบบนี้ไม่มีทาง "

 

เมื่อถามว่า ที่บอกให้พรรคก้าวไกลถอยต้องถอยขนาดไหน ตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า จะไปบอกให้เขาวางมือไม่ได้ ตอนนี้ยังเป็นมิตรกันอยู่ คำว่าถอยคืออย่าไปแสดงตน คนเขาไม่ชอบคนเขาเกลียดอย่าไปแสดงตัว ปล่อยให้เพื่อไทย เขาแสดงไปแล้วบอกว่าผมสนับสนุนนะ 151 คน แค่นี้แล้วไปดึงพรรคภูมิใจไทย มาก็ได้ครบแล้วพรรคเพื่อไทย ก็ไม่ต้อเหนื่อย ขอเพียงว่าเอ่ยปากว่าถอย

 

มาถามว่า ตอนนี้การออกมาเปิดหน้าตำหนิก้าวไกล กังวลว่าผู้สนับสนุนจะเอาทัวร์มาลงหรือไม่ตำรวเอกเสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ไอ้พวกนี้มันเด็กความรู้ยังไม่มีเลย ไปบุกรุกเพื่อไทยเขาก็นั่นก็ติดคุกทั้งนั้น จะถามว่าทำทำไม

 

"ผมทำเพื่อชาติบ้านเมืองมา 50 ปีแล้ว ตอนผมอายุ 24-25 รบอยู่นาแก คุณอยู่ที่ไหนพวกด้อมทั้งหลาย ยังเป็นวุ้นอยู่เลย อายุยังน้อยกว่าลูกผมเลย คนจะบรรลุนิติภาวะกฎหมายแพ่ง เขายังอายุกำหนด 20 แต่กลับไปแก้รัฐธรรมนูญให้อายุ 18 เลือกตั้งได้คุณยังไม่บรรลุนิติภาวะเลย แล้วมาเลือกนั่นเลือกนี่และมาแสดง บทบาทอย่างนู้นอย่างนี้ โธ่เอ๊ยไอ้เวร มาเลยทัวร์กี่คันเดี๋ยวจะเตรียมที่ไว้ให้ เดี๋ยวเสร็จศึก จะเตรียมเก็บให้พรุ่งนี้ให้หมด เลือกตั้งคุณก็ใช้สิทธิ์เต็มที่คนละเสียง พอเลือกจบแล้วมันต้องจบ ปล่อยให้คนที่คุณเลือกเข้ามาเขาบริหารกันเองต่อไป ถ้าเขาทำไม่ดีคราวหน้าก็อย่าไปเลือก แต่ไม่ใช่ว่าเขากำลังจะทำแล้วคุณก็บอกไม่ให้ทำ ไอ้นั่นก็ไม่ได้ไอ้นี่ ก็ไม่ได้ต้องทำแบบนี้ โถ่ไม่ใช่ควายนะ ให้มาจูงจมูกคุณเป็นใครครับ"

 

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์  ยังกล่าวต่อด้วยว่า ความจริงแล้วพรรรคก้าวไกลต้องขอบคุณพรรคเพื่อไทยด้วยซ้ำที่ไม่แย่งจัดตั้งรัฐบาลตั้งแต่แรก เพราะพรรคเพื่อไทย ก็มีเสียงใกล้เคียงกับพรรคก้าวไกล และก็มีเพื่อนมากกว่า พรรคก้าวไกล ก็ไม่มีปัญญาเป็นอีก ต้องไปขอบคุณเขาไม่ใช่ไปตำหนิติดตีนเขาไอ้พวกเด็กไม่รู้เหตุผล ผู้สื่อข่าวจึงถามต่อว่า หมายถึงพรรคก้าวไกลใช่หรือไม่ "อืม ไม่มีเหตุผลน่ะ" แล้ววันนี้ที่ 8 พรรคกระส่ำก็เพราะใคร ถ้าพรรคก้าวไกลทำตามที่ตนเสนอแนะ ก็ตั้งรัฐบาลได้แล้ว และก็ไปด้วยกัน

 

เมื่อถามว่า การที่พรรคก้าวไกลบอกว่ายังไงก็ไม่ออกสุดท้ายมันจะต้องผูกมัดกันไปแบบนี้หรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์  MOU ที่มัดไว้มันเป็นแค่กระดาษ แต่ถ้ามันไปต่อด้วยกันไม่ได้มันก็ต้องแยกทาง ผัวเมียยังหย่ากันได้เลย ถ้าคุยไม่รู้เรื่องก็ต้องไป

 

เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยจะสลัดก้าวไกลได้ยังไง ในเมื่อมันยังมีแรงกดดันจากสังคมอยู่ พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า "เอาความกล้าหาญจากผมไป ถ้าเป็นผมก็คงเรียบร้อยไปนานแล้ว ถ้าพูดไม่รู้เรื่องผมก็ตัดสินใจ จะไปแคร์อะไร แต่เพื่อไทยก็อาจจะไม่ฟังผมก็ได้ "

ป๋าเสรีฟาดไม่ใช่ควายให้ด้อมจูงจมูก ชีวิตลุยสงครามไม่ใช่หนุ่มขี้โม้ พูดเป็นนัยที่ 1 ติดคุก