"ช่อ พรรณิการ์" แกนนำคณะก้าวหน้า ได้สำรวจความเห็น ผลโหวตให้ "ก้าวไกล" ถอยแก้ไขมาตรา 112 เพื่อเข้าร่วมรัฐบาล ปรากฏผลโหวตมากที่สุด 51% เห็นว่า "ไม่ถอยเด็ดขาด"

นางสาวพรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า ได้ทำโพลสำรวจความเห็น ที่จัดทำขึ้นผ่านทาง Twitter มีข้อความว่า "เมื่อการจัดตั้งรัฐบาลเปิดเกมใหม่ ก้าวไกลกำลังถูกตั้งเงื่อนไขเรื่อง 112 คุณคิดว่าก้าวไกลควรถอย 112 เพื่อตั้งรัฐบาลให้สำเร็จ และหยุดการกลับมาของประวิตรหรือไม่"

โดยให้ตัวเลือกมา 3 ข้อ ประกอบด้วย / ควรถอย / ไม่ถอยเด็ดขาด และถอยแบบมีเงื่อนไข หลังปิดโหวต พบว่า มีผู้โหวต 112,570 เสียง ผลโหวตมากที่สุดปรากฏว่า 51% เห็นว่า "ไม่ถอยเด็ดขาด" / รองลงมา 34% เห็นว่า "ถอยแบบมีเงื่อนไข" / และน้อยที่สุด คือ 15% เห็นว่า "ควรถอย"

ขณะเดียวกัน เมื่อวานนี้ คุณณัฐชยา ทีมข่าวช่อง 8 ได้ไปสัมภาษณ์ นางสาวพรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า เกี่ยวกับท่าทีของพลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ที่พูดคำว่า สละเรือ ขึ้นมากลางวง 8 พรรคร่วมนั้น

คุณช่อพูดมาคำแรกว่า นาทีนี้คุณธรรมที่สำคัญสำหรับนักการเมือง คือ การไม่ทรยศต่อความไว้วางใจของประชาชน วันที่ประชาชนเดินเข้าไปในคูหาเลือกตั้ง ไม่ได้ไปเลือกฝ่ายค้าน แต่ทุกคนเดินเข้าไปเพื่ออยากจะพลิกขั้วเปลี่ยนข้าง เปลี่ยนเอาฝ่ายค้านมาเป็นรัฐบาล เอารัฐบาลออกไป

ส่วนคำว่าเสียสละ มันเป็นสิ่งที่เสียได้ ถ้ามันเป็นของเรา แต่ความเชื่อมั่นที่ประชาชน 14 ล้านเสียงมีต่อก้าวไกล มันเป็นสิ่งที่สามารถเสียสละได้หรือไม่ มันใหญ่เกินไปหรือไม่ เพราะเป็นสิ่งที่ประชาชนเป็นเจ้าของเสียงของพวกเขา เราไม่สามารถทิ้ง 14 ล้านเสียงของคนไทยลงน้ำได้ คงเป็นการเสียสละที่ใหญ่เกินไป

ผู้สื่อข่าว ถามว่า งงหรือแปลกใจ กับคำพูดของพลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ หรือไม่ คุณช่อกล่าวว่า ในฐานะคนที่เคยทำงานร่วมกับ พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ สมัยเป็น สส. บอกไม่แปลกใจในคำพูด เพราะประชาชนคงเห็นชัดเจนแล้วว่า การเป็นรัฐบาลคงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด บางทีหลักการอาจจะถูกมองข้ามไปเหมือนกัน

ส่วนประเด็นที่เพื่อไทยกับภูมิใจไทยคุยกัน คุณช่อมองว่า "เป็นสิทธิ์ของพรรคเพื่อไทย ที่จะไปเชิญพรรคไหนมาร่วมจัดตั้งรัฐบาล เมื่อพรรคก้าวไกลทำไม่สำเร็จ ภาระตกอยู่ที่พรรคเพื่อไทย สิ่งสำคัญคือต้องดูเงื่อนไขว่า ไปเชิญพรรคไหนมามีเงื่อนไขอย่างไร อย่าง พรรคภูมิใจไทยเขาก็ชัดเจนแล้วว่าเขาไม่เอาพรรคก้าวไกล

เมื่อเพื่อไทยไปเชิญพรรคภูมิใจไทย ถือเป็นความเคลื่อนไหวแรก หลังรับไม้ต่อเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล ตอนนี้ทางพรรคก้าวไกลเอง ก็คงต้องรอดูในที่ประชุม 8 พรรคร่วม ว่า พรรคเพื่อไทยจะมาแจ้งว่าเงื่อนไข ที่เชิญพรรคภูมิใจไทยเข้ามาประกอบด้วยอะไร และจะเดินกันต่อไปได้หรือไม่

เมื่อถามถึงประเด็นยอมถอย เรื่อง ม.112 จะเป็นเงื่อนไขที่ทำให้พรรคภูมิใจไทย ยอมมาร่วมกับพรรคเพื่อไทย ตรงนี้คุณช่ออยากให้ไปดูคือ คำพูดของคุณอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่ไม่พูดด้วยซ้ำว่าไม่เอา ม.112

แต่ พูดเลยว่าไม่เอาก้าวไกล เมื่อพูดชัดเจนเลยว่าไม่เอาพรรคก้าวไกลก็อยากจะดูรอดู ว่าทางเพื่อไทยจะกลับมาแจ้งกับ 8 พรรคร่วมอย่างไร ว่าเงื่อนไข ที่ดึงเอาพรรคภูมิใจไทยเข้ามา ต้องเอาพรรคที่มี 151 เสียงออกไป เพื่อเอาพรรคที่มี 70 เสียงเข้ามา

ส่วนสัญญาณที่บอกว่า พรรคไหนจะไปจับกับพรรคไหน คุณช่อบอกข่าวลือ มันมีมาตั้งแต่ก่อนเลือกตั้งว่า พรรคเพื่อไทยจับกับพรรคภูมิใจไทย และพรรคพลังประชารัฐ สูตรนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ 2 เดือน หลังเลือกตั้งสิ่งที่ลือกัน ดูเหมือนจะชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ