จากกรณีครูเต้ย อภิวัฒน์ บุญเอนก หลังจากที่แจ้งข่าวผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า ถูกตำรวจ 4-5 นาย บุกล้อมบ้าน ยึดรถหรูลัมโบร์กินี ที่ซื้อมาในราคา 8 ล้าน โดยตัวเองก็เพิ่งจะทราบว่ารถมีปัญหาติดไฟแนนซ์ ไม่จ่ายค่างวด โดยเต็นท์รถบอกไม่หมด งานนี้ครูเต้ยบอกว่าเป็นการโดนโกงครั้งแรกในชีวิตที่หนักและเสียความรู้สึกมาก ที่สำคัญตำรวจมาเยอะมาก ทำให้ลูกสาวตกใจร้องไห้จ้า 

ล่าสุดทีมข่าวช่อง 8 เดินทางไปสอบถามเรื่องราวกับ นายอภิวัฒน์ หรือ ครูเต้ย ศิลปินลูกทุ่งชื่อดัง เล่าให้ฟังว่า รถลัมโบร์กีนีของตนเองนั้น ตนเองก่อนจะได้มาเอาต้องนำเอารถออดี้ R8 ของตนเองไปเทิร์น เต็นท์รถตีราคา 6.5 ล้าน และต้องเพิ่มเงินเข้าไปอีก 1.5 ล้านบาท ซึ่งตนเองจ่ายเงินครบเสร็จทุกอย่าง ต่อมาทางเต็นท์บอกว่า มารับรถไปใช้ได้เลย ส่วนเรื่องการโอนเดี๋ยวเต็นท์จะทำเรื่องโอนให้และจะส่งเล่มให้ภายหลัง โดยสัญญาว่า ทุกอย่างจะเสร็จภายใน 1-2 สัปดาห์

ครูเต้ย เล่าต่อว่า แต่ใครจะคิดตนเองซื้อรถหรูมาตั้งแต่ 29 มกราคมจนถึงเดือนเมษายน เรื่องยังดำเนินไม่เสร็จ เต็นท์รถอ้างว่ามีปัญหาต่างๆนานา ขอเลื่อนไปเรื่อยๆ อ้างว่า กำลังตามเล่มรถให้ ซึ่งอยู่กับเจ้าของอีกคนซึ่งเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์เจ้าของรถ ตนเองก็รอแล้วรออีก เต็นท์ก็อ้างอีกว่า เจ้าของไปต่างประเทศยังไม่กลับ ตนเองจึงเริ่มแปลกใจ และคิดว่าหากช้าอีกจะเอารถไปคืน

ทำให้เต็นท์รถ ตกลงกับตนเองว่า อย่าเพิ่งเอารถมาคืน เพราะยังไงก็โอนได้แน่ๆ ไม่มีปัญหา พร้อมกับ ได้ทำสัญญาขึ้นให้ โดยสัญญาระบุว่า หากตัวรถไม่สามารถโอนได้จะคืนเงิน คืนรถที่เอาไปเทิร์นไว้ให้เต็มจำนวนเงิน คือ 8 ล้าน

จนกระทั่ง 8 กรกฎาคม ระหว่างที่ตนเองกำลังทัวร์คอนเสิร์ตต่างจังหวัด มีตำรวจ,ไฟแนนซ์และเจ้าของรถคนเก่ามาตรวจสอบรถที่บ้านมากันหลายคนมาก ภรรยาโทรศัพท์มาบอก ตอนนั้นลูกสาว 2 ขวบ เห็นตำรวจมากันเยอะมาก ก็ตกใจจนร้องไห้ โดยตำรวจบอกว่า รถลัมโบร์กีนีคันนี้ไม่ได้ส่งค่างวด ต้องยึดรถไป
ตนเองก็ตกใจ เพราะที่คุยกับเต็นท์รถตอนแรก ไม่ได้บอกว่า รถติดไฟแนนซ์ แต่ตนเองก็ให้ความร่วมมือกับตำรวจ จึงเอารถไปที่ สน. และโทรศัพท์ให้ทางเต็นท์รถเคลียร์

โดยเต็นท์รถมาสารภาพทีหลังบอกว่า เจ้าของรถคนเดิมยังผ่อนรถไม่หมด ก็มาฝากให้เต็นท์รถขายให้ ในระหว่างที่รอขายเต็นท์ต้องจ่ายไฟแนนซ์ให้เขา แต่ตอนที่ตนเองไปซื้อ กลับบอกว่ารถโอนได้ปกติ รถไม่ติดไฟแนนซ์ และสุดท้ายเต็นท์ก็ไม่คืนรถออดี้ ไม่คืนเงินให้

ตอนนี้ตนเองได้แจ้งความไว้ที่ สน.วังทองหลาง และกำลังไกล่เกลี่ย เพราะเท่าที่คุยกับทนายบอกว่า หากไม่ได้รถ เต็นท์ก็ต้องคืนเงินสดทั้งหมดรวมแล้วประมาณ 8 ล้านให้ตนเองเพื่อชดใช้ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยทำสัญญากันไว้ หากยังไม่โอนรถเป็นชื่อตนเองเต็นท์จะรับผิดชอบคืนเงิน ซึ่งในวันพรุ่งนี้ 22 กรกฎาคม เต็นท์ได้นัดตนเองจะรับผิดชอบตามสัญญา ซึ่งก็ต้องดูว่า เต็นท์จะทำตามสัญญาหรือไม่

และตนเองอยากฝากเรื่องนี้ให้เป็นอุทาหรณ์กับประชาชนที่ซื้อรถมือสองทุกคน ว่า ต้องตรวจสอบให้ดี เพราะตนเองก็พลาดที่ไม่ได้ตรวจสอบว่า รถดังกล่าวติดไฟแนนซ์หรือไม่ ไม่เคยเช็กกับเจ้าของเก่าของรถว่าเป็นใคร เชื่อแต่คำพูดของเต็นท์รถ และดูเพียงรูปหน้าเพจ ซึ่งดูภายนอกแล้วน่าเชื่อถือมาก มีเต็นท์อยู่ติดถนนใหญ่ใจกลางกรุงเทพ ผู้ติดตามหลักหมื่น ไม่คิดเลยว่าจะถูกหลอก และถือเป็นบทเรียนครั้งสำคัญของชีวิต

ล่าสุดทีมข่าวเดินทางไปที่เต็นท์รถดังกล่าวพบว่า เต็นท์รถแห่งนี้ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่ บนถนนเส้นประดิษฐ์มนูธรรม พบว่า เต็นท์ดังกล่าวหมดเวลาทำการแล้ว ส่วนเพจเฟซบุ๊กของเต็นท์รถดังกล่าว มีผู้ติดตามเกือบ 30,000 ราย