"วันนอร์" คาดลงมติเลือกนายกฯ 13 ก.ค.นี้ 5 โมงเย็น พร้อมเปิดโอกาส ส.ส.-ส.ว.อภิปราย 6 ชม. ปัดตอบชงชื่อ "พิธา" รอบ 2 ขอรอดูโหวตรอบแรกก่อน

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานรัฐสภา กล่าวภายหลังการประชุมร่วมกันกับตัวแทน คณะกรรมาธิการสามัญกิจการวุฒิสภา หรือวิปวุฒิสภา และตัวแทนจากพรรคการเมือง เพื่อเตรียมความพร้อมและทำความเข้าใจในการประชุมร่วมรัฐสภา วันที่ 13 กรกฎาคมนี้ เพื่อลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีว่า ที่ประชุมฯ มีความเห็นร่วมกัน จะทำให้การประชุมดังกล่าวเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ และคาดว่าน่าจะมีการลงมติเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีได้ในช่วงเวลาประมาณ 17.00 น. ซึ่งก่อนจะลงมตินั้น จะเปิดโอกาสให้ ส.ส. และ ส.ว.อภิปรายก่อน โดยแบ่งเป็นเวลาของวุฒิสภา 2 ชั่วโมง และส.ส.ทุกพรรครวมกัน 4 ชั่วโมง โดยไม่กำหนดเวลาของ ส.ส.ผู้ที่จะอภิปรายแต่ละคน และหากมีการพาดพิงก็สามารถชี้แจงได้ในกำหนดเวลาที่เหมาะสม

ส่วนการเปิดโอกาสให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะผู้ที่ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี แสดงวิสัยทัศน์ก่อนการลงมติหรือไม่นั้น นายวันมูหะมัดนอร์ ชี้แจงว่า ตามขั้นตอนจะมีการเสนอชื่อบุคคลที่มีคุณสมบัติตามที่รัฐธรรมนูญ และ กกต.กำหนด และพรรคการเมืองสนับสนุนเป็นนายกรัฐมนตรีต่อที่ประชุมรัฐสภาก่อน จากนั้นจะมีการอภิปรายโดย ส.ส. และ ส.ว. ซึ่งก่อนที่จะมีการลงมติก็สามารถอภิปรายถึงความเหมาะสม คุณสมบัติ และเรื่องต่างๆ ได้ เมื่อการอภิปรายเสร็จสิ้นแล้ว ก่อนมีการลงมติ หากมี ส.ส. หรือ ส.ว. เสนอให้ผู้ได้รับการเสนอชื่อแสดงวิสัยทัศน์ ก็จะต้องขอมติจากที่ประชุมก่อน เนื่องจากข้อบังคับการประชุมไม่ได้กำหนดขั้นตอนนี้ไว้

นายวันมูหะมัดนอร์ ยังปฏิเสธที่จะกล่าวถึงกรณีที่หากรัฐสภา ไม่สามารถลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีได้ในครั้งแรก ในการประชุมเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งถัดไปจะสามารถเสนอชื่อนายพิธาได้อีกหรือไม่ เนื่องจากยังไม่สามารถทราบได้แน่ชัดว่า การลงมติครั้งแรกผลจะเป็นอย่างไร ซึ่งหากไม่ผ่านก็จะต้องมาพิจารณาอีกครั้ง โดยยึดรัฐธรรมนูญ ข้อบังคับการประชุม และคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ความเห็นของผู้ตรวจการแผ่นดินในอดีต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาพิจารณาว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไร จึงขอให้การประชุมฯ ครั้งแรกผ่านพ้นไปก่อน หากยังไม่ได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ รัฐสภาก็จะต้องดำเนินการหาตัวบุคคลมาเป็นนายกรัฐมนตรีให้ได้ เพราะเป็นหน้าที่ของรัฐสภา

นายวันมูหะมัดนอร์ ยังยืนยันด้วยว่า ไม่รู้สึกกังวลต่อการอภิปรายบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีของที่ประชุมรัฐสภา เนื่องจากมีข้อบังคับการประชุมกำกับไว้แล้วจึงไม่น่าจะมีความวุ่นวายใดๆ เช่นเดียวกับการมีมวลชนมาติดตามการประชุมในวันดังกล่าว ซึ่งมีมาตรการในการดูแลรักษาความปลอดภัยของ ส.ส. และ ส.ว. รวมถึงเจ้าหน้าที่รัฐสภา ที่มาปฏิบัติหน้าที่ และในวันนี้ (11 ก.ค.) ตนได้นัดประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อกำหนดแนวทางการปฏิบัติหลังจะมีการประกาศสถานการณ์การชุมนุมสาธารณะ ให้ผู้ที่จะมาชุมนุมต้องปฏิบัติตามกติกาและกฎหมาย ซึ่งเจ้าหน้าที่จะช่วยอำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยให้ รวมถึงจะมีการถ่ายทอดระบบภาพและเสียงการประชุมไปยังสถานที่ที่กรุงเทพมหานครจะจัดไว้รองรับให้ โดยหวังว่า การประชุมในวันที่ 13 กรกฎาคมนี้ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ รวมถึงยังหวังว่าทุกพรรคการเมืองที่จะนำมวลชนมาส่วนหนึ่ง ไปพูดคุยกับมวลชนให้เข้าใจตรงกัน และเชื่อในเจตนาดีของประชาชนที่ต้องการเห็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ และเห็นการเปลี่ยนแปลงของบ้านเมือง พร้อมเชื่อว่า หากเกิดเหตุความวุ่นวายทำให้การประชุมไม่เรียบร้อย ก็จะทำให้การได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ล่าช้าและกระทบต่อความเชื่อถือของประเทศ กระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศด้วย จึงขอให้มวลชนคิดให้หนัก

นายวันมูหะมัดนอร์ ยังกล่าวถึงกรณีที่มีสมาชิกวุฒิสภา เสนอให้มีการเลื่อนการประชุมรัฐสภาเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีออกไปก่อนว่า ยังไม่สามารถให้คำตอบได้ เพราะจะต้องรอดูในวันประชุมจริงก่อนว่าจะมีการเสนอหรือไม่