ตามคาด ปดิพัทธ์ สันติภาดา นั่งรองปธ.สภาคนที่ 1 ส่วน พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน นั่งรองฯ คนที่ 2

4 ก.ค. 66 เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. ที่อาคารรัฐสภา การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 26 ปีที่ 1 ครั้งที่ 1 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) พลตำรวจโท วิโรจน์ เปาอินทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ซึ่งมีอายุอาวุโสสูงสุด ทำหน้าที่เป็นประธานสภาในการประชุมชั่วคราว เพื่อแจ้งต่อ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรปฏิญาณตนในที่ประชุมก่อนเข้ารับหน้าที่ ตามมาตรา 115 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย

ที่ประชุมเข้าสู่วาระการเลือกรองประธานสภาฯ คนที่ 1 โดยนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เสนอ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล เป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 1

ด้านนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เสนอนายวิทยา แก้วภราดัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 1

ภายหลังจากที่ประชุมนับคะแนนได้ 405 คน ปรากฏว่า นายปดิพัทธ์ สันติภาดา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จ.พิษณุโลก เขตเลือกตั้งที่ 1 พรรคก้าวไกล ได้รับเลือกให้เป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 เอาชนะนายวิทยา แก้วภราดัย จากพรรครวมไทยสร้างชาติ ด้วยคะแนน 312 ต่อ 105 คะแนน ส่วนเสียงงดออกเสียงอยู่ที่ 77 เสียง และบัตรเสียมี 2 ใบ

จากนั้น พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ ได้เปิดให้เสนอชื่อเลือกรองประธานสภา คนที่สอง โดยพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ เสนอชื่อ นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย เป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 เพียงคนเดียว โดยในครั้งนี้ไม่มีมีใครใครเสนอชื่ออื่นร่วมชิงตำแหน่งรองประธานสภาคนที่ 2

ส่วนนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ และถูกเสนอชื่อโดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โดยระหว่างการเสนอชื่อ ไม่มีผู้ใดเสนอชื่อคนอื่นมาแข่งขัน ทำให้นายวันมูหะมัดนอร์ได้รับเลือกเป็นประธานสภาโดยไม่ต้องลงมติ

นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวแสดงวิสัยทัศน์ว่า ตนยืนยันที่จะทำหน้าที่อย่างเป็นกลาง โปร่งใส สุจริต และจะทำงานร่วมกับรองประธานสภาฯ ทั้ง 2 คน ในการกำหนดแนวทางการพิจารณาร่างกฎหมาย ญัตติ และกระทู้ถามต่างๆ อย่างเป็นระบบ จะให้ความสำคัญกับคณะกรรมาธิการทุกคณะ จะร่วมทำงานกับสมาชิกในด้านการต่างประเทศเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของสภาฯ และการแลกเปลี่ยนข้อมูล และจะสนับสนุนการทำงานของสถาบันพระปกเกล้าและสถานีโทรทัศน์รัฐสภา