ลูกผู้บาดเจ็บเผยแม่เตรียมไปเยี่ยมตาที่ตาบอด หมอแจ้งต่อขาเป็นไปได้แต่ไม่แนะนำ เสี่ยงอาการแทรกซ้อน

ความคืบหน้ากรณีผู้โดยสารที่เป็นเพศหญิงประสบอุบัติเหตุบริเวณทางเลื่อนค่อนข้างรุนแรง ทำให้ขาลงไปติดที่ทางเลื่อนและขาขาดบริเวณตั้งแต่หัวเข่าเป็นต้นไป

ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า ลูกชายของหญิงสาววัย 57 ที่ประสบอุบัติเหตุบนทางเลื่อนจนถูกบดขาขาด เผยว่า แม่กำลังจะเดินทางไปเยี่ยมตาเพราะตาป่วยตาบอด จึงจะกลับไปอยู่บ้านที่จังหวัดนครศรีธรรมราช 1 สัปดาห์ แต่มาเกิดอุบัติเหตุเสียก่อน

ส่วนการรักษาแม่ ทางแพทย์แจ้งว่า โอกาสที่จะต่อขาเป็นไปได้ แต่ไม่แนะนำ เนื่องจากจะเกิดอาการแทรกซ้อน จึงแนะนำให้ตัดขา เพราะตอนมาถึงโรงพยาบาลขาก็เกือบจะขาดอยู่แล้ว ซึ่งสภาพขาคล้ายกับถูกบดและถูกตัดขึ้นมาเหนือเข่า 10 เซนติเมตร โดยขณะนี้เพิ่งเข้าห้องผ่าตัดไป อยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด

ขณะที่วันนี้ (29 มิ.ย.) นายการันต์ ธนกุลจีรพัฒน์ ผอ.สนามบินดอนเมือง แถลงข่าวถึงกรณีทางเลื่อนสนามบินดูดขาผู้โดยสารจนขาด ระบุว่า เบื้องต้นได้มีการหยุดให้บริการทางเลื่อนทั้ง 20 เครื่องเป็นการชั่วคราวแล้ว เพื่อตรวจเช็กความปลอดภัย และหาสาเหตุว่าที่เกิดเหตุการดังกล่าวขึ้นเกิดจากสาเหตุใด อาทิ ล้อกระเป๋าของผู้บาดเจ็บไปกระแทกจนซี่ทางเลื่อนแตกหักหรือไม่ หรือระบบมีการสะดุดก่อนเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งเรื่องนี้ต้องมีการตรวจสอบโดยละเอียดต่อไป

“หลังจากนี้เราจะตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงของกรณีดังกล่าว โดยจะเชิญหน่วยงานภายนอกเข้ามาร่วมตรวจสอบการทำงานด้วย เช่น วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) เป็นต้น เพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการตรวจสอบ โดยจะรีบหาข้อสรุปโดยเร็วที่สุด

“ส่วนทางเลื่อนทั้ง 20 เครื่อง แบ่งเป็น เครื่องใหม่ 6 เครื่อง เครื่องเก่า 14 เครื่อง ซึ่งมีการติดตั้งมาตั้งแต่ปี 2539 ส่วนเรื่องจะเอาผิดหรือจะเรียกร้องค่าเสียหายจากบริษัทหรือไม่นั้น ต้องไปดูรายละเอียดสัญญาการซื้อขายอีกครั้งก่อน” นายการันต์ กล่าว

นายการันต์ กล่าวอีกว่า ท่าอากาศยานมีแผนจะของบประมาณจัดซื้อทางเลื่อนใหม่อยู่แล้ว เดิมจะมีการเสนอขอใช้งบประมาณของปี 2568 แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้อาจจะต้องมีการทบทวน ขอเป็นงบประมาณที่จะใช้เร่งด่วนในปี 2567 แทน โดยจะทยอยเปลี่ยนเริ่มจากเครื่องที่มีความเสี่ยงก่อน ส่วนในเรื่องของการเยียวยาผู้เสียหายนั้น เบื้องต้นยังไม่ได้พูดคุยในรายละเอียดที่ชัดเจน ต้องรอให้ผู้บาดเจ็บรักษาตัวก่อน แต่ทางท่าอากาศยานยินดีรับผิดชอบและดูแลเต็มที่