"เพื่อไทย" ย้ำใช้สูตร 14+1 เจรจาก้าวไกล "ชลน่าน" ยืนยัน ไม่ได้คิดแข่ง-หักหลังประชาชน แค่เสนอ "ขอ" ตำแหน่งนี้ โอดตอนนี้ไม่ใช่แค่ทัวร์ลงแต่ทุกอย่างมาลงที่พรรคเพื่อไทยหมด

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายภูมิธรรม เวชยชัย นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรค นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค ให้สัมภาษ​ณ์ถึงความคืบหน้าการหารือตำแหน่งประธานสภาฯ ว่า พรรคก้าวไกลแจ้งนัดหมายหารือในวันที่ 2 กรกฎาคม และคงไม่เลื่อนอีกแล้ว ซึ่งจะมีการประชุม 8 หัวหน้าพรรคในวันเดียวกัน โดยคณะทำงานจะนำข้อหารือภายในของพรรคไปพูดคุย มั่นใจว่า ทั้ง 2 ฝ่ายจะพูดคุยและสรุปกันด้วยดี

ด้านนายภูมิธรรม กล่าวถึงการปรับสูตรปมประธานสภาฯ 15+1 และ 13+1 ว่า ตนก็งงกับข่าวนี้ว่าออกมาได้อย่างไร เราไม่เคยได้ยิน เราไม่เคยได้พูด ยืนยันจุดเริ่มต้นคือ 14 รัฐมนตรี +1 ประธานสภาผู้แทน​ราษฎร​ ซึ่งพรรคเพื่อไทยก็ยืนยันให้ยึดหลักการนี้ เป็นตัวประกอบในการเจรจา ไม่ใช่สูตรที่ตายตัว

นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ที่จริง 14+1 เราเสนอบนพื้นฐานคะแนนไล่เลี่ยกัน และเราอยากรักษาเจตนารมณ์ อารมณ์ความรู้สึกแฟนคลับของทั้งสองฝ่ายว่าเราสามารถพูดคุยกันได้และทำงานร่วมกันต่อไปได้ เพราะเราเสนอให้มีการพูดคุยกัน แต่เรายังไม่ได้รับคำตอบ แต่สิ่งที่ออกมาข้างนอก ล้วนเป็นคำตอบของรายบุคคล ยังไม่มีคำตอบอย่างเป็นทางการ

ขณะที่ นพ.ชลน่าน กล่าวเสริมว่า เราเป็นพรรคอันดับสอง เราเข้าใจตัวเราเองดี เพราะฉะนั้น หลักในการเจรจา เราเคารพพรรคอันดับหนึ่งตลอดเวลา ตอนเสนอเราก็ใช้คำว่าเสนอเพื่อให้พรรคอันดับ 1 พิจารณา 14 + 1 นี่ก็คือข้อเสนอ นั่นหมายความว่า เราเคารพสิทธิท่านตลอดเวลา เราร้องขอไปว่า ท่านจะพิจารณาหรือไม่ ไม่ใช่การยื้อแย่ง ไม่ใช่การบีบบังคับ เพราะฉะนั้น วงเจรจาแต่ละฝ่ายต่างก็รู้ดี เราเข้าใจว่า โดยหลักพรรคที่ได้อันดับหนึ่ง ก็ควรได้รับสิทธิ์เป็นประธาน เราก็ถือสิทธิ์นั้น เราจึงขอว่ามาเป็นของอันดับสองได้มั้ย ในฐานะที่เราจะทำงานร่วมกัน เพื่อดุลยภาพในการ ท่านเป็นประมุขฝ่ายบริหารแล้วเราเป็นประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ นี่คือข้อเสนอเท่านั้น ไม่ได้เป็นการยื้อแย่ง ไม่ได้เป็นการหักหลังพี่น้องประชาชน ส่วนเขาจะให้หรือไม่ให้เรา เราต้องการคำตอบเป็นหลักการ เท่านั้นเองเป็นทางการ

นพ.ชลน่าน กล่าวย้ำว่า สิทธิ์ของพระอันดับ 1 เขาถ้าเขายืนยัน ว่าเขาขอเขาไม่ให้ เราเป็นพักอันดับ 2 เราก็ต้องมาพิจารณากันว่า เขาไม่ให้สิทธิ์นั้นกับเรา ขอไปแล้วเราไม่ได้รับเราจะพิจารณาอย่างไร แต่ยืนยันว่าหลักการคืออยู่บนพื้นฐานการตั้งรัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตย

เมื่อถามว่า วานนี้พรรคก้าวไกลแจ้งเลื่อนการประชุมคณะเจรจาตำแหน่งประธานสภาฯ แต่ก็ใช้โอกาสวันเดียวกัน ให้นายปดิพัทธ์ สันติภาดา เดินสายโชว์วิสัยทัศน์ นายภูมิธรรม กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยยังไม่มีการเสนอชื่อบุคคล เพราะยังเคารพการปรึกษาหารือและการตัดสินใจร่วมกัน และเพื่อไทยหากยังไม่ชัดเจน จะยังไม่เสนออะไรเพื่อไม่ให้เกิดความไม่พอใจจากผู้สนับสนุน แต่ขอให้มั่นใจ เรามีบุคลากรที่มีความพร้อมในการนั่งเก้าอี้ประธานสภาผู้แทนราษฎร หลายคนที่มีประสบการณ์และมีความรู้ความเข้าใจ

ส่วนที่มีชื่อ นพ.ชลน่าน ชิงเก้าอี้ประธานสภาด้วยเหตุผลว่าให้มีความสมดุล และให้กองเชียร์ทั้งสองฝ่ายรู้สึกดี คือ ให้หัวหน้าพรรคทั้งสองพรรคควรได้ตำแหน่งที่สมดุลกัน มีเหตุผล เพื่อทำงานร่วมกันและประสานได้อย่างดี แต่ไม่ได้ชี้ชัดว่า นั่นคือข้อสรุป โดยอยู่ที่การเจรจาและกรรมการบริหารพรรคเป็นผู้พิจารณา

ส่วนการพูดคุยในวันที่ 2 ก.ค.นี้ จะคุยกันลงตัวหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่ทราบว่าจะมีการเลื่อนประชุมสภาจากวันที่ 4 ก.ค. ออกไป แล้วกระทบการประชุม 8 พรรคในวันที่ 2 ก.ค.นี้หรือไม่ ซึ่งเบื้องต้นทราบข้อมูลมาว่า จะมีการประชุมในวันที่ 4-6 ก.ค. และยังคงมั่นใจว่า ข้อสรุปที่จะออกมาจากทั้งสองฝ่ายจะเป็นข้อสรุปที่ดี ทุกฝ่ายยอมรับและนำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาลพรรค 8 พรรคได้

นพ.ชลน่าน กล่าวต่อด้วยว่า เราค่อนข้างระมัดระวังที่จะเสนออะไรลงไป ในฐานะพรรคอันดับสอง แม้แต่เสนอขอตำแหน่งประธานสภา ไม่ใช่เฉพาะทัวร์ แต่วันนี้ทุกอย่างมาลงที่พรรคเพื่อไทยหมดเลย โดยความไม่เข้าใจ มันเป็นเพียงขั้นตอนที่เราเสนอไปเท่านั้น เพราะฉะนั้นการเสนอชื่อตำแหน่งประธานสภาของพรรคเพื่อไทย ในภาวะการณ์ที่เรากำลังเสนอขอตำแหน่ง โดยที่เรายังไม่ได้รับคำตอบ ถ้าเราเอาชื่อใครคนใดคนหนึ่งไปเสนอประกบกับก้าวไกล เพื่อไทยจะถูกประณามมากกว่านี้ และจะถูกมองว่าเป็นการแข่งทันที

เมื่อถามว่า หากเขายืนกรานไม่ให้ จะทำอย่างไร นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ก็เป็นสิทธิ์ของเขา เพราะเป็นพรรคอันดับหนึ่ง เราจะได้กลับมาพิจารณาว่า ถ้าเขาไม่ให้ เพื่อไทยเป็นพรรคอันดับสอง เราจะพิจารณาอย่างไร ในการร่วมทำงานกับเขา เราจะทำงานแบบไหน

เมื่อถามอีกว่า คำว่า "พิจารณา" ในการทำงานไม่ได้แปลว่า ไม่จับมือแล้วใช่หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เราถูกมัดด้วยอาณัติของประชาชน ซึ่งตนเคยพูดมาหลายครั้ง แม้เราอยากออกไปแต่เราออกไปไม่ได้

"เราบอกว่า เราไม่ได้แข่ง เราขอนะครับ ขอกับแข่ง ความหมายต่างกันเยอะ เราขอให้คุณอนุญาตให้เราหรือไม่ ไม่ได้ขอตกลงนะครับ ขอไปเลยว่า คุณจะให้เราหรือเปล่า" ตัดชน "เน้นนะครับ แม้เราอยากออกไป แต่เราออกไปไม่ได้ และเรามีสิทธิ์ด้วยที่จะออกไป แต่มันไม่ชอบธรรม เราถูกพี่น้อง 25 ล้านเสียง มัดเรากับก้าวไกลให้ติดกัน มันเสมือนพ่อแม่เรา เราเป็นลูก เขาจับคลุมถุงชน ให้มาแต่งงานกัน เราไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธจริงๆครับ เพราะฉะนั้นเจตจำนงของประชาชน 25 ล้านคน เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด เราคำนึงถึงตรงนี้ในการเจรจาพูดคุย และนำเสนอทุกเรื่อง เพื่อให้สมประโยชน์ตรงนี้ เมื่อก้าวไกลเขาไม่ให้ เราก็ไม่ควรจะต้องรับ"

นพ.ชลน่าน ยังกล่าวถึงแนวทางการโหวตจะมีการปล่อยให้ฟรีโหวตหรือไม่ว่า จะต้องมีข้อตกลงที่ชัดเจนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการฟรีโหวต และยังไม่ได้รับแจ้งว่าจะมีการเลื่อนโหวตประธานสภาจากวันที่ 4 ก.ค. ออกไป โดยไม่เกี่ยวกับไทม์ไลน์การพูดคุยของ 8 พรรคร่วม ซึ่งหากได้ข้อยุติในวันที่ 2 ก.ค.นี้ วันที่ 3 ก.ค. ก็มีรัฐพิธีเปิดสภา แล้ววันที่ 4 ก.ค.เชื่อว่าจะเข้าสู่การโหวตได้ หากเลื่อนช้าไปก็จะทำให้ยิ่งเสียประโยชน์ ทั้งนี้เชื่อมั่นว่าในวันที่ 2 ก.ค.นี้จะต้องจบ ก่อนทิ้งท้ายว่า ในฐานะเป็นคู่เจรจาจะต้องมีวัตถุประสงค์ร่วมกันทั้งสองฝ่ายต้องทำให้ทุกอย่างได้ข้อยุติ