อุกอาจ! 5 โจ๋บุกอุ้มหนุ่มเคลียร์ใจ เหยื่อรอดตายรถขับเข้าด่าน ถูกจับช็อกคลังปืนอื้อ

จากเหตุการณ์อุกอาจกลางดึก กลุ่มชายฉกรรจ์ 5 คน พยายามซิ่งรถเก๋งหนีด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ของ บก.จร.แต่ไม่เป็นผล ตรวจค้นภายในรถพบอาวุธปืน 6 กระบอก กระสุนอีก 61 นัด ส่วนตัวประกันที่ถูกจับมา อ้างว่าเมื่อก่อนเคยรู้จักกัน แต่มาแตกหักกันด้วยเรื่องคำพูด ซึ่งตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อเมื่อคืนที่ผ่านมา

โดยตำรวจคุมตัว ผู้ต้องหาทั้ง 5 รายพร้อมอาวุธปืนอยู่ที่ สน.มีนบุรี ปรากฏรายชื่อผู้ต้องหา นายนุกูล นายมนตรี นายวิษณุ นายเอกพงษ์ นายอาทิตย์

วันนี้ (20 มิ.ย) ทีมข่าวลงพื้นที่ไปยังร้านอาหารที่เกิดเหตุ จุดแรก ที่มีการอุ้มนายอุเทนขึ้นรถ ตามคำให้การของผู้เสียหาย ที่บอกว่ามีกลุ่มชายฉกรรจ์5คน มาพร้อมกับรถสีขาวและสีแดง มาบุกจี้ตัวขึ้นรถ โดยพบว่าร้านดังกล่าววันนี้ยังไม่ได้มีการเปิดให้บริการ เพราะอยู่นอกเวลาเปิดทำการของร้าน เนื่องจากปกติร้านจะเปิดในเวลาประมาณ 17.00 น. ซึ่งไม่แน่ใจว่าช่วงค่ำหลังเกิดเหตุจะเปิดให้บริการตามปกติหรือไม่

ทีมข่าวตรวจสอบกล้องวงจรปิดตรงข้ามร้านที่เกิดเหตุ คืนเกิดเหตุ 19 มิ.ย. เวลา 20.50น.โดยประมาณ สังเกตว่าบริเวณหน้าร้านจะเห็นรถเก๋งเชฟโรเลตสีขาวขับมาจอด และจะมีรถเก๋งสีแดงขับมาปิดท้าย ทิ้งห่างกันประมาณ 10 เมตร จากนั้นจะเห็นกลุ่มชายที่ร่วมก่อเหตุทั้งหมดลงมาจากรถ เข้าไปภายในร้าน ไม่นานกล้องวงจรปิดตัวดังกล่าวจากภาพเห็นกลุ่มคนไปฉุดกระชากคนออกมาจากร้าน ซึ่งคือตัวของนายอุเทนผู้เสียหาย มีการลากขึ้นไปบนรถเชฟโรเล็กซ์สีขาว ส่วนคนที่เหลือวิ่งกลับไปขึ้นรถเก๋งสีแดง และขับออกจากหน้าร้าน

ส่วนกล้องวงจรปิดอีกตัวที่อยู่ฝั่งตรงข้ามร้านที่เกิดเหตุ จับภาพได้ตอนที่รถเซฟโรเลตสีขาวมาจอ แต่มุมกล้องไม่เห็นรถสีแดง หลังจากที่เห็นคนในรถสีขาวเปิดประตูลงมา จะเห็นคนในร้านเริ่มทยอยวิ่งหนี ซึ่งคาดการณ์ว่าอาจเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวที่ร้านที่เกิดเหตุ , ภายหลังมีการล็อคตัวนายอุเทนขึ้นรถได้แล้ว รถทั้งสอง ก็ขับผ่านกล้องตัวดังกล่าววิ่งมุ่งหน้าไปที่มีนบุรี

นอกจากนี้ทีมข่าวตรวจสอบกล้องวงจรปิดซึ่งเป็นเส้นทางหลังจากที่มีการอุ้มตัวนายอุเทนออกจากร้านที่เกิดเหตุ มุ่งหน้าไปตามเส้นทางร่มเกล้า-มีนบุรี โดยกล้องวงจรปิดตัวดังกล่าวซึ่งอยู่ไม่ไกลจากร้านที่เกิดเหตุ จับภาพได้ช่วงเวลาประมาณ 22.51น. จะเห็นว่ามีกลุ่มวัยรุ่นประมาณ2คน วิ่งหนีจากเหตุการณ์ที่มีการข่มขู่กันภายในร้าน วิ่งผ่านมาที่กล้องตัวดังกล่าวลักษณะตื่นตกใจ

ก่อนที่กล้องวงจรปิดตัวดังกล่าว2ตัว จะจับภาพได้ตอนที่รถเชฟโรเล็กซ์สีขาวขับหลบหนี จากนั้นมีรถเก๋งสีแดงซึ่งร่วมก่อเหตุขับตามหลังติดๆ วิ่งมุ่งหน้าไปที่มีนบุรีด้วยความเร็ว

พนักงานสอบสวนยังได้มีการเรียกตัวนายอุเทน ในฐานะผู้เสียหาย เข้ามาสอบปากคำที่สน.มีนบุรี โดยทันทีที่เดินทางมาถึงเจ้าตัวมีลักษณะปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์และเดินหาห้องสอบสวน เพื่อที่จะเข้าไปให้ปากคำ

แต่เมื่อเจอสื่อมวลชนรุมล้อมเพื่อขอสัมภาษณ์ เจ้าตัวจึงยอมเปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยืนยันว่าเป็นเหตุการณ์ที่ถูกอุ้ม โดยเขาใช้ปืนจี้พร้อมกับมีการกระทืบ พร้อมกับบอกตนเองว่าจะมีการอุ้มไปฆ่า ส่วนตอนที่ขอความช่วยเหลือจากตำรวจก็ยังมึนงงอยู่ไม่รู้ว่าขอความช่วยเหลือโดยวิธีใด และการที่ตนเองไปที่ร้านดังกล่าวก็ยืนยันว่าไปนั่งกินข้าวกับเพื่อน ไม่ได้นัดหมายหรือคิดว่าจะมีเรื่องด้วยช้ำ

ส่วนเรื่องของความสนิทสนมนั้นยอมรับว่าเคยสนิทกัน และตัวของนายจิ้นหรือนายวิษณุเอง เมื่อก่อนนี้ก็เข้าใจว่าเคยช่วยเหลือสส. และเคยทำงานมาด้วยกัน แต่ตอนนี้ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าจะยังไงต่อ ส่วนการจะเอาผิดหรือไม่นั้นขอให้ปากคำกับตำรวจก่อน

 

 

และเมื่อช่วงเวลา 14.00 น. ตำรวจพิสูจน์หลักฐานได้มีการลงพื้นที่มาทำการตรวจสอบรถที่เกิดเหตุ ซึ่งประกอบด้วย รถโตโยต้า ยาริส สีแดง ซึ่งในคืนเกิดเหตุ มีคนขับคือ นายนุกูล โดยจากการตรวจสอบของกองพิสูจน์หลักฐาน ได้มีการเก็บดีเอ็นเอภายในรถ เพื่อยืนยันผู้ที่นั่งอยู่ในรถในคืนเกิดเหตุ

ด้าน พ.ต.อ.ชนาวิน พวงเพชร รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 3 เดินทางมายัง สน.มีนบุรี เพื่อประชุมติดตามความคืบหน้าคดีอุ้มลักพาตัวกับทีมพนักงานสอบสวน เปิดเผยว่า ฝั่งผู้ต้องหา ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ยังคงปฏิเสธที่จะให้ปากคำใด ๆ แก่พนักงานสอบสวน ยังคงมีอาการท่าทีที่เคร่งเครียดและไม่ให้ความร่วมมือใด ๆ แก่พนักงานสอบสวน

บุกอุ้มกลางเมือง จนมุมเพราะเข้าด่าน