นักกิจกรรมทางเมือง ไม่วิจารณ์พฤติกรรมหยก แต่มองควรเคารพสิทธิในร่างกาย "มายด์ ภัสราวล์" บอกมีหลายโรงเรียนปลดล็อกเรื่องการแต่งกายแล้ว ขณะ "ไผ่ ดาวดิน" ชี้เป็นปรากฎการณ์ที่ท้ายทายค่านิยมเดิมๆ ถึงเวลารื้อระบบการศึกษา เพื่อให้เด็กภาคภูมิใจและเชื่อมั่นในตัวเอง

16 มิ.ย. 66 นางสาวภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือมายด์ นักกิจกรรมทางการเมือง กล่าวถึงกรณีการเข้าโรงเรียนของ “หยก” นักเคลื่อนไหวทางการเมืองสัย 15 ปี​ ว่าส่วนตัว สนับสนุนการเคารพสิทธิในเนื้อตัว​ ร่างกาย​ และที่สำคัญคือคือการไม่ต้องสวมชุดนักเรียนไปโรงเรียน​ ซึ่งมีการพูดถึงมาโดยตลอด​ และมีหลายโรงเรียนปลดล็อคแล้ว​ สะท้อนว่าการแต่งตัวไม่เกี่ยวกับการเรียนรู้​ การศึกษา​ เรื่องการเคารพสิทธิ​เนื้อตัว​ ร่างกายเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องสร้างความเข้าใจ​ นักเรียนควรมีสิทธิได้กำหนดว่าอยากใส่ชุดแบบไหนไปเรียน​ นอกจากนี้ยังมีข้อถกเถียงว่าชุดนักเรียนเป็นภาระค่าใช้จ่ายให้ผู้ปกครอง​ เป็นส่วนที่สังคมต้องทำความเข้าใจร่วมกัน​ ส่วนเรื่องท่าทีขึ้นอยู่กับการวิพากษ์วิจารณ์​ แต่ขอให้เคารพสิทธิของหยกด้วย


ด้านนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดินแกนนำกลุ่มทะลุฟ้ามองว่าเป็นประเพณีที่กดทับกันมา​ ซึ่งพวกตนผ่านช่วงวัยนั้นมาแล้ว ไม่สามารถจินตนาการถึงโลกใหม่​ สังคมใหม่ที่เราอยากเห็นได้ชัด​ แต่เด็กยุคนี้สามารถก้าวออกมา​ จินตนาการถึงสังคมใหม่ได้​ และแสดงออกมา​

 

สิ่งที่เกิดขึ้นมองว่าเป็นความท้าทายและการตั้งคำถามกับสังคมไทย ว่าพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงหรือไม่​ ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนแปลงสถาบันทางการเมือง​ แต่รวมถึงการเปลี่ยนความคิด​ จารีตประเพณี​ กรณีของหยกถือเป็นการท้าทายวัฒธรรม​ เป็นสิ่งที่สังคมต้องเรียนรู้และถกเถียงกันต่อไป​ เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจถึงสังคมและการศึกษาที่โดนกดทับ​ ถึงเวลาที่ต้องรื้อระบบการศึกษา​ ปฏิรูปกระบวนการศึกษาให้เด็กมีความภาคภูมิใจในระบบการศึกษาและส่งเสริมให้เขาเชื่อมั่นในตัวเอง​ เรื่องนี้ต้องเรียนรู้ไปด้วยกัน​ และต้องถกเถียงกันอีกเยอะ​

 

นายจตุภัทร์ยังมองว่าปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้น​ ทำให้เห็นปัญหาที่มีมานาน​ ส่วนเรื่องวิธีการสื่อสาร​ การเคลื่อนไหว​ ขอไมาก้าวล่วง​ แต่สนับสนุนให้เกิดการเปลี่ยนแปลง และต้องเแลกเปลี่ยนความเห็นกัน​ พร้อมย้ำว่าเรื่องนี้ทำให้เกิดการท้าทายวัฒนธรรมค่านิยมเก่าๆ​​