"ธาริต" ยื่นใบรับรองแพทย์ขอเลื่อนอ่านฎีกาอีกรอบ อ้างเหตุป่วย อาการบ้านหมุน คดีแจ้งข้อหา "อภิสิทธิ์-สุเทพ" มิชอบ เหตุการณ์สั่งสลายม็อบ นปช.ปี 63 ส่งศาลฎีกาวินิจฉัย นัดฟังคำสั่งบ่ายวันนี้

วันนี้ (16 มิ.ย.2566) ศาลได้นัดอ่านคำพิพากาษาชั้นฎีกา นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมพวกรวม 4 คน เดินทางมาที่ศาลอาญารัชดา เพื่อฟังการอ่านคำพิพากษาชั้นฎีกา หลังตกเป็นจำเลยในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต และเป็นเจ้าพนักงานสอบสวนกระทำการโดยมีเจตนากลั่นแกล้งให้ผู้อื่นได้รับโทษอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ 200 วรรคสอง กรณีดำเนินคดีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ จากเหตุการณ์สั่งสลายการชุมชนเมื่อปี 2553 ซึ่งจำเลยทั้ง 4 ให้การปฏิเสธต่อสู้คดี

คดีนี้ มีนายอภิสิทธิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ด้านนายสวัสดิ์ เจริญผล ทนายความฝ่ายโจทก์เปิดเผยว่า วันนี้ศาลนัดอ่านคำพิพากษา เป็นครั้งที่ 9 แล้ว ที่ผ่านมานายธาริตได้ขอเลื่อนด้วยหลายเหตุผล แต่ก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล

ครั้งที่แล้ว นายธาริต จำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องขอให้ส่งสำนวนคืนศาลฎีกา เพื่อพิจารณาสั่งให้ส่งคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ พ.ร.ป. ว่าด้วยการป้องกันและปรับปรามการทุจริต มาตรา 4 รวมทั้งขอถอนคำให้การฉบับเดิม และขอให้การใหม่เป็นรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาเพื่อขอให้ศาลฎีกาลงโทษสถานเบาหรือรอการลงโทษด้วย ทนายฝ่ายโจทก์ มองว่า หากรับสารภาพในชั้นนี้ทำไม่ได้เพราะเหตุการณ์ผ่านมานานแล้ว

เบื้องต้น พบว่านายธาริตไม่ได้เดินทางมาศาล โดยมอบหมายให้ทนายความ ยื่นคำร้องขอเลื่อนรับฟังคำพิพากษาและให้แจ้งต่อศาลว่าป่วย รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ส่วนจำเลยที่ 2-4 เดินทางมาศาลตามนัด โดยขณะนี้ศาลได้พิจารณาในเบื้องต้นให้รอคำสั่งศาลฎีกาว่าจะวินิจฉัยคำร้องที่จำเลยยื่น และการพิจารณาพิพากษาคดี เสร็จภายในวันนี้หรือไม่ ต้องรอผลช่วงเวลาประมาณ 14.00 น.

สำหรับคดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ต่อมาโจทก์ยื่นอุทธรณ์ ขอให้ลงโทษพวกจำเลย โดยศาลอุทธรณ์พิเคราะห์แล้วเห็นว่า พวกจำเลยกระทำผิดตามฟ้องจริง พิพากษากลับให้จำคุกจำเลยคนละ 3 ปี ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยไว้คนละ 2 ปี ไม่รอลงอาญา จากนั้นจำเลยทั้งสี่ได้ยื่นฎีกาขอให้ยกฟ้อง