สพฐ. แจง หยก กลับเข้าเรียนได้ แต่ต้องทำตามระเบียบโรงเรียน หากไม่ยอมรับกติกา เลือกเรียน กศน.-โฮมสคูลได้

จากกรณี หยก เยาวชนนักเคลื่อนไหวทางการเมือง อายุ 15 ปี โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวเมื่อช่วงค่ำวันที่ (13 มิ.ย.66) อ้างว่าถูกโรงเรียนไล่ออก ต่อมาโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ได้ออกแถลงการณ์ ชี้แจงว่า "หยก" ไม่มีสถานะเป็นนักเรียนของโรงเรียนในปีการศึกษา 2566 เนื่องจากไม่มีผู้ปกครองพามามอบตัว ทำให้ไม่มีฐานข้อมูลในระบบว่าเป็นนักเรียนของโรงเรียน รวมถึงไม่ปฏิบัติตามระเบียบ เช่น ไม่แต่งชุดนักเรียน ไม่เรียนตามเวลา ฯลฯ

ล่าสุด วันนี้ (15 มิ.ย.66) นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ตนหารือเรื่องดังกล่าวกับผู้อำนวยการโรงเรียน และกรรมการสถานศึกษาแล้ว โดยโรงเรียนชี้แจงรายว่า หยกมีชื่อเข้าเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ แต่ในวันมอบตัววันที่ 2 เม.ย.66 หยก ไม่สามารถมารายตัวได้ เนื่องจากยังถูกควบคุมตัวอยู่ในสถานพินิจ ทางโรงเรียนจึงกันที่นั่งไว้ให้และยืดระยะเวลารายงานตัวเข้าเรียน จนถึงวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันที่ทางโรงเรียนต้องส่งข้อมูลนักเรียนให้กับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) แต่หยกก็ไม่ได้มารายงานตัวในวันดังกล่าว จึงไม่มีชื่อในฐานข้อมูลระบบ

อย่างไรก็ตาม แม้ หยกจะไม่มารายงานตัว ทางโรงเรียนและราชการ ก็พร้อมให้หยกเข้าเรียน เพียงแต่ต้องปฏิบัติตามระเบียบที่ทางโรงเรียนกำหนดไว้ ซึ่งกฎระเบียบของโรงเรียนมีการทำประชาพิจารณ์สอบถามความคิดเห็นจาก 3 ส่วนคือ ครู นักเรียน และผู้ปกครอง ก่อนออกมาเป็นข้อกำหนดที่ใช้ร่วมกันภายในสถานศึกษา ดังนั้น อยากให้สังคมมีความเข้าใจในส่วนนี้ แต่หาก หยก ไม่อยากทำตามกติกาดังกล่าว ก็สามารถเลือกเรียนได้ในช่องทางอื่น ๆ ทั้งการศึกษานอกระบบ หรือการเรียนด้วยตัวเองที่บ้านหรือโฮมสคูล

ส่วนเรื่องการแต่งกายมาโรงเรียน ทางศธ. กำหนดระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยเครื่องแบบนักเรียน พ.ศ.2551 ไว้เป็นกรอบ แต่ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของสถานศึกษา และผ่านความเห็นร่วมกัน 3 ฝ่าย คือ ครู นักเรียน และผู้ปกครอง ซึ่งบางแห่งกำหนดให้มีการแต่งกายชุดไพรเวตสัปดาห์ละ 1 วัน รวมถึงเรื่องทรงผมด้วย ทั้งนี้ ส่วนตัวอยากให้สังคมมีความเข้าใจ เพราะโรงเรียนเป็นสถานที่บ่มเพาะให้เด็กเป็นคนดี สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ สิ่งที่กำหนดขึ้นมาเป็นกรอบ เพื่อให้สังคมสามารถอยู่ร่วมกันได้

เมื่อถามว่า กรณีโรงเรียนออกระเบียบในคู่มือนักเรียน ครูและผู้ปกครองของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ระบุว่า "ต้องไม่อยู่ระหว่างการดำเนินคดีความ หรือการถูกลงโทษทางกฎหมาย" นั้น ตนยังไม่ทราบรายละเอียด แต่ในการยกร่างแถลงการณ์ของกรรมการสถานศึกษา ไม่มีเรื่องดังกล่าว และโรงเรียนไม่สามารถออกข้อกำหนดนี้ได้ เพราะถือเป็นการริดรอนสิทธินักเรียน