"สนธิญา" ยื่น "กกต." ให้ถาม"เพื่อไทย" ปมนโยบายแจกเงินหมื่นจะชะลอถึงชาติไหน โต้กลับปมถูก"เพื่อไทย"ฟ้อง ถ้าร้องเท็จยอมเดินเข้าคุก แต่ถ้าไม่ผิด เจอโทษยุบพรรคแน่

9 มิ.ย. 666 นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษากรรมาธิการ การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เข้ายื่นต่อ กกต. เพื่อให้สอบถามไปยังพรรคเพื่อไทยในกรณีที่พรรคขอชะลอนโยบายแจกเงินดิจิทัลจำนวน 10,000 บาท แก่ประชาชนอายุ 16 ปีขึ้นไป โดยนายสนธิญา กล่าวว่า อยากให้ กกต.สอบถามไปยังพรรคเพื่อไทยว่าการชะลอนโยบายแจกเงิน 10,000 บาทนั้นจะชะลอไปถึงปีไหน หรือถึงชาติไหน จะแจกหรือไม่แจก เพราะเป็นนโยบายหลังของพรรคเพื่อไทยที่มีการโฆษณาให้กับประชาชนคนไทยทั้งประเทศ และตนเชื่อว่าคนไทยหลายล้านคนที่เลือกพรรคเพื่อไทยเพราะด้วยนโยบายเหล่านี้ แต่เมื่อพรรคเพื่อไทยประกาศว่าจะชะลอนโยบายนี้ตนจึงมาท้วงถามที่ กกต. เพื่อสอบถามไปยังพรรคเพื่อไทยด้วยว่านโยบายนั้นที่เป็นความหวังของประชาชนจะยังดำเนินการต่อไปเมื่อไหร่ และถ้าหากพรรคเพื่อไทยบอกว่านโยบายนี้ไปทับซ้อนกับนโยบายของพรรคก้าวไกลตนเองก็อยากถามตรงไปยังพรรคก้าวไกลว่า หากพรรคเพื่อไทยชะลอแจกเงิน 10,000 บาท พรรคก้าวไกลจะทำนโยบายแจกเงิน 3,000 บาทให้ผู้สูงอายุหรือไม่

นายสนธิญา กล่าวอีกว่า หากพรรคก้าวไกล ไม่ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แน่นอนว่าพรรคเพื่อไทย จะต้องมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลต่อจากก้าวไกล จึงให้ กกต.ถามไปยังพรรคเพื่อไทย ว่าถ้าได้กลับมาเป็นพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลนโยบายแจกเงิน 10,000 บาทนั้น พรรคเพื่อไทยจะหยิบยกมาเป็นนโยบายแรกหรือไม่

พร้อมขอฝากไปยังพรรคเพื่อไทย ว่า ท่านประกาศเป็นฝ่ายประชาธิปไตย แต่จะฟ้องร้องตน ตนก็คงต้องติดคุก เดินเข้าคุก ถ้าศาลพิจารณาว่าผิดจริง แต่ฝากพรรคเพื่อไทย ระวัง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 101 วรรคสองด้วย เพราะ หากศาลชี้ว่า ตนไม่ได้ร้องเท็จพรรคเพื่อไทย ก็ถูกดำเนินคดีในมาตรานี้ เพราะเขาบัญญัติไว้ว่า พรรคการเมืองที่กล่าวหาประชาชนที่มาร้องจะมีโทษเป็น 2 เท่า นั้นคือ ยุบพรรค และตัดสิทธิกรรมการบริหารและหัวหน้าพรรคการเมืองนั้นๆด้วย เรื่องนี้จึงของให้พึ่งสังวรไว้ด้วย และตนยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาร้ายต่อพรรคเพื่อไทยหรือพรรคอื่นใด