"สนธิญา" แจงยิบส่งหนังสือขอโทษ "เสรีพิศุทธ์" ทำตามคำแนะนำศาล มองไม่ได้เสียเกียรติ​ เพราะทางการเมืองตนก็ไม่มีเกียรติอยู่แล้ว ระบุ ไม่เป็นไรหากไม่รับคำขอโทษ พร้อมสู้ต่อในชั้นศาล เตือนสื่อ-เกรียนคีบอร์ด เผยแพร่ข้อมูลส่วนตัว - คุกคามชีวิตส่วนตัว

1 มิ.ย. 66 นายสนธิญา สวัสดี​ อดีตที่ปรึกษาประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ทำหนังสือไปกราบขอโทษ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย หลังถูกศาลอาญาชั้นต้นพิพากษาจำคุก 6 เดือน ปรับ 5 หมื่นบาท โทษจำรอลงอาญา 2 ปีและศาลแพ่งพิพากษาให้ชดใช้ค่าเสียหายอีก 2 ล้านบาท ว่า เรื่องนี้ยังอยู่ในชั้นศาล ซึ่งศาลก็แนะนำว่าควรจะมีการพูดคุยกัน ตนจึงทำหนังสือตามคำแนะนำของผู้พิพากษาและทนายความไปขอโทษพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ ส่วนพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ จะพิจารณาอภัยให้หรือไม่ ก็แล้วแต่ท่าน แต่สิ่งที่ตนทำไป คือทำตามข้อตกลงในชั้นศาล

 

ทั้งนี้ ส่วนตัวไม่คิดว่า เป็นการเสียศักดิ์ศรี เพราะในทางการเมือง ตนก็ไม่ได้มีศักดิ์ศรีอะไรอยู่แล้วส่วนที่พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ ไปซาวด์เสียงในโซเชียลมีเดีย ก็เป็นสิทธิ์ของท่าน แล้วก็ขึ้นอยู่กับท่านด้วยว่า จะเชื่อประชาชนหรือไม่อย่างไร แต่ประชาชนที่เข้าไปตอบแบบสอบถามก็มีข้อมูลไม่ลึกซึ้ง ว่า คดีที่ฟ้องมันคือเรื่องอะไร

 

นายสนธิญา กล่าวอีกว่า ตอนนี้ตนได้รับความเดือดร้อน เพราะเอกสารที่พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ โพสต์ลงไปในโซเชียลมีเดีย มีทั้งเบอร์โทรศัพท์และข้อมูลของตน ตอนนี้มีสายจากบุคคลภายนอกโทรเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จึงอยากบอกว่า การกระทำดังกล่าวโดยเฉพาะการเผยแพร่หนังสือขอโทษเป็นการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลตาม พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือ PDPA จึงขอความร่วมมือสื่อมวลชน และโซเชียลมีเดีย ให้ระมัดระวังการเผยแพร่รวมไปถึงการแสดงความคิดเห็นของประชาชน ขอให้ลบข้อมูล เพราะตนได้รับความเดือดร้อน ได้แคปหลักฐานไว้หมดแล้ว ทั้งสื่อมวลชนหรือต้นทางที่โพสต์ แต่ตนขอพิจารณาอีกครั้งว่าจะมีการฟ้องร้องกลับหรือไม่

 

"เตือนไปถึงเกรียนคีย์บอร์ด ถ้าไม่ลบให้ผม สิ่งที่ด่าถ้าไม่ลบภายในวันนี้จะดำเนินคดี ส่วนสื่อมวลชนก็ให้เกียรติกับตนเองทุกครั้ง และยินดี เราขอกันกินมากกว่านี้ บางส่วนก็ไม่จำเป็นต้องขอร้องใคร เพราะผมทำด้วยความสุจริตใจ ถ้าเรื่องที่เกิดขึ้นสามารถให้อภัยหรือยกโทษกันได้ก็จบกันไป แต่เรื่องไหนที่ยกโทษและให้อภัยไม่ได้ก็สู้กันในชั้นศาลต่อไป"

 

เมื่อถามว่าพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ระบุว่าเป็นการฟ้องเพื่อสั่งสอนไม่ให้ฟ้องเรื่อยๆนั้น นายสนธิญา ย้ำว่าตนไม่ได้ฟ้อง แต่มาร้องเพื่อขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง ทุกเรื่องที่มายื่นตนไม่ได้ฟ้อง และหลายเรื่องยังมีข้อสงสัยจึงต้องไปทำหน้าที่ และอีกหลายเรื่องปรากฎในโซเชียลมีเดีย ใครกดเข้าไปก็เห็น ซึ่งเป็นสิทธิทางสังคมที่พึงกระทำได้ ส่วนตัวไม่ได้มีอะไรกับพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ แต่อยากให้เรื่องเหล่านี้มีความกระจ่าง ส่วนตัวไม่รู้จักกับพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เจอกันเพียงไม่กี่ครั้ง และเคารพในเกียรติและศักดิ์ศรี ซึ่งกันและกัน และเกียรติยศและศักดิ์ศรีของตนเองอยู่ที่ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน ว่าตนผิดหรือถูก