"บิ๊กตู่" โต้กลับ "พิธา" ถามข้าราชการแล้ว บอกไม่ใครขอพบให้ข้อมูล ชี้ ตั้งรัฐบาลใหม่ ต้องผ่านการตรวจสอบ-รับรองก่อน แต่คาดหวังว่าประเทศไทยจะมีรัฐบาลที่ดีได้ พร้อมสู้ต่อภายใต้ "รทสช." ลั่น ขวางเต็มที่ปมแก้ ม.112

31 พ.ค. 66 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมสภากลาโหม ครั้งที่ 5/2566   ว่า ไม่ได้มีการสั่งให้ดูแลอะไรเป็นพิเศษ เพราะเขามีหน้าที่ตามกฏหมายอยู่แล้ว ทั้งทหารและตำรวจในการดูแลตามหน้าที่ ไม่ต้องกำชับอะไร ทุกอย่างพัฒนาไปตามสถานการณ์ อย่างไรก็ตามในวงการประชุมสภาสภากลาโหมไม่ได้มีการพูดถึงสถานการณ์หลังการเลือกตั้ง เพราะไม่ได้เกี่ยวข้องกัน เพียงแต่ได้มีการหารือกันในเรื่องการป้องกันประเทศพัฒนา และแผนพัฒนากองทัพ รวมถึงสถานการณ์ในภูมิภาค ผลงานของทุกเหล่าทัพ แผนพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อให้สอดคล้อง เพราะในอนาคตเพราะในอนาคตจะต้องใช้เทคโนโลยีมากขึ้น เพื่อป้องกันประเทศและเรื่องการฝึกร่วม

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของการปฏิรูปกองทัพเรามีแผนอยู่แล้ว ซึ่งการที่จะปรับจะต้องดูบริบทของประเทศไทยด้วย เพราะประเทศไทยไม่เหมือนชาติอื่นจะไปยึดแบบประเทศไหนมาใช้ ก็อาจจะไม่เหมาะสม เราจะใช้วิธีการผสมผสาน เพราะแต่ละประเทศมีความแตกต่างกัน เราต้องเป็นเรา ภายใต้ทรัพยากรที่เรามีอยู่

เมื่อถามถึงกรณีที่ยังนั่งเป็นรักษาการนายกรัฐมนตรี แต่ 8 พรรคร่วมรัฐบาลมีการจัดตั้งคณะกรรมการประสานงานในช่วงเปลี่ยนผ่านมองอย่างไร นายกฯกล่าวว่า ไม่มีความคิดเห็นเรื่องนี้ถือว่าเป็นสิทธิที่ท่านจะทำ ส่วนจะทำได้หรือไม่ได้นั้น เป็นสิทธิ ทำแล้วไม่กระทบกับหน่วยงานราชการก็ไม่มีปัญหา แต่มันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทุกคนเลยมองว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจอะไรทำนองนี้ แต่ก็ทำไป

เมื่อถามย้ำว่า จะทำให้ข้าราชการอึดอัดใจหรือไม่นายกฯ กล่าวว่า คงไม่ เพราะเราเองก็เชื่อมการทำงานของเราอยู่ ตามกฎระเบียบ อะไรก็ตามที่ทำนอกกรอบวินัยของข้าราชการก็มีความผิด และตน ถ้าตรวจสอบแล้ว ยังไม่มีใครไปพบอะไรกับใคร

"ก็ไม่รู้ ผมถามข้าราชการว่าเขาขอมาหรือไม่ เขาก็บอกว่าไม่มี ผมก็ต้องถามคนของผม ใครจะพูดอะไรก็ตามอย่าเชื่อทั้งหมด ต้องหาข้อมูลข้อเท็จจริง"

เมื่อถามอีกว่าจะกระทบกับสิ่งที่นายกฯได้สั่งข้าราชการว่าให้เตรียมข้อมูล เพื่อส่งมอบงานให้รัฐบาลชุดต่อไปหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า มันก็เป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว เราต้องสรุปงานทั้งหมด เพื่อส่งมอบให้รัฐบาลชุดต่อไป ว่า 4 ปีที่ผ่านมาทำอะไรไปบ้าง ปัญหาและอุปสรรคต่างๆคืออะไร เพราะทุกวันมีความคืบหน้าเพียงแต่ว่าอุปสรรคไม่ได้แก้กันง่ายๆ บางอย่างมีข้อกฎหมาย รวมถึงสัญญาต่างๆ จะต้องมีการแก้ไขจะต้องไปดูว่าจะแก้ไขกันอย่างไร ซึ่งตนอยากจะทำเรื่องเหล่านี้ แต่ทำได้ยาก เพราะหลายอย่างมันทำไปแล้ว มีทั้งสัญญาเดิมและสัญญาเก่า ถ้าหากเขาทำได้ก็ทำ

เมื่อถามว่า จะให้กำลังใจคนที่จัดตั้งรัฐบาลอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า คาดหวังว่าประเทศไทยจะมีรัฐบาลที่ดีได้ เราผ่านการเลือกตั้งมาแล้ว เพียงแต่ว่ามันยังมีอีกหลายขั้นตอน เพราะขณะนี้ยังไม่ได้มีการรับรอง ตนเข้าไปยุ่งเกี่ยวไม่ได้ตรงนี้ แต่ถ้าเขาผ่านการตรวจสอบและได้รับการรับรอง ถึงจะจัดตั้งรัฐบาลได้ไม่ใช่หรือ ทุกอย่างเป็นไปตามกลไก

เมื่อถามต่อว่าในฐานะที่เป็นประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ หรือ รทสช. หากใครมาแก้มาตรา 112 จะขวางใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า แน่นอนอยู่แล้ว ไม่ถามก็ต้องเป็นอย่างนั้น เพราะมันอยู่ในหัวใจของทหารตำรวจและข้าราชการทุกคน และประชาชนอีกจำนวนมาก เขาก็ไม่เห็นด้วยตรงนี้ก็แค่นั้น แล้วถามว่าทำๆไม

เมื่อถามว่า พรรคก้าวไกลจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้และพรรคเพื่อไทยมาจัดตั้งรัฐบาลพรรครทสช. ร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ

เมื่อถามถึงกรณีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะฝ่ายกฎหมาย ระบุว่า นายพิธา ถูกดำเนินคดีเรื่องการถือหุ้นสื่ออาจจะต้องมีการเลือกตั้งใหม่ทั่วประเทศหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เรื่องกฎหมาย ให้ไปถามนายวิษณุ

เมื่อถามย้ำว่าพรรค รทสช.และพล.อ.ประยุทธ์ จะสู้ต่อหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า พรรคก็ยังอยู่ ส่วนหวังอะไรกับรัฐบาลใหม่มากที่สุด ที่กำลังจะเข้ามาไม่ว่าใครก็ตาม นายกฯ กล่าวว่า อยากให้บ้านเมืองสงบ ปลอดภัย มีการพัฒนาที่ยั่งยืน

เมื่อถามอีกว่า หวังหรือไม่ว่า สิ่งที่ทำมา 8 ปีจะไม่เสียหายตอนนี้ นายกฯ กล่าวว่า ก็ต้องอย่างนั้นแหละ