เปิดแชตหนุ่มดับคาทุ่ง รุ่นพี่ชวนออกบ้าน แม่โชว์ผ้าเปื้อนโคลนเชื่อถูกฆ่า

จ.บุรีรัมย์ มีชายคนหนึ่งหายออกจากบ้าน กระทั่งเพื่อนไปพบเป็นศพอยู่ในกระท่อมกลางไร่มัน ชื่อ นายวีระยุทธ หรือแมน อายุ 23 ปี ซึ่งครอบครัวสงสัยว่า อาจถูกอุ้มไปฆ่าหรือไม่ โดยแพทย์ลงความเห็นว่า เสียชีวิตจากการบาดเจ็บที่ศีรษะ ทั้งตอนที่นำส่งโรงพยาบาล พ่อตั้งข้อสังเกตว่า ที่คอมีรอยแดงคล้ายถูกรัด ศีรษะมีรอยปูดเหมือนถูกทำร้าย ยิ่งกว่านั้น ชุดที่สวมใส่ก็เปื้อนดินคล้ายมีการต่อสู้ แล้วแม่ยังฝันว่าลูกมาบอกว่าถูกฆาตกรรม และมีแชตเรียกให้ผู้ตายไปพบก่อนเจอเป็นศพอยู่ที่กระท่อม

ทีมข่าวได้พบกับนางกาญจนา อายุ 45 ปี แม่ของนายวีระยุทธ ที่เสียชีวิตปริศนาในกระท่อม เมื่อวันที่ 28 มี.ค. 66 ที่ผ่านมา นางกาญจนา เล่าให้ทีมข่าวช่อง 8 ฟังว่า เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 26 มีนาคม มีกลุ่มวัยรุ่น 4 คน คือนายราช นายเอ๋ นายต่อ และนายโอ้ต มาถามหาลูกชายที่บ้าน แต่ไม่เจอลูกชาย

กระทั่งต่อมา เวลา 19.00 น. น้องแมน ลูกชายบอกว่าจะขอไปนอนบ้านญาติ แล้วน้องแมนได้ขี่รถมอเตอไซค์ไปนอนบ้านญาติ

เวลา 20.00 น. หลังจากทานข้าวที่บ้านญาติเสร็จ น้องแมนได้บอกกับญาติว่า จะขอกลับไปบ้านแม่ แต่ลูกชายก็ไม่ได้กลับมาหาตัวเอง

เวลา 21.32 มีแชตเฟซบุ๊กจากนายชัยวัช หรือคิม (เพื่อนที่รู้จักกับแมน) โทรเฟซมาหาน้องแมน ว่าให้ออกไปหาข้างนอก จากนั้นแมนก็ตอบไปว่า “กำลังออกไปหา”

กระทั่งวันที่ 27 มีนาคม เวลา 05.45 ญาติที่ลูกชายขี่รถออกไปหาช่วงค่ำ โทรศัพท์มาถามตัวเองว่าเห็นน้องไหม เพราะน้องแมนบอกว่าจะกลับมานอนบ้าน ตัวเองก็บอกไม่เห็น จากนั้นตัวเองก็แชตหาลูกชาย แต่เขาก็ไม่ตอบ

จนกระทั่งเวลา 08.00 น. (27 มีนาคม) นายโอเล่ เพื่อนของลูกชาย ได้ขี่รถมอเตอไซค์สีน้ำเงินของลูกชาย มาบอกที่บ้านว่า เจอน้องแมนเป็นลมหมดสติที่กระท่อมกลางทุ่งนา ตอนนั้นตัวเองก็คิดแต่ว่าลูกชายคงเป็นลมทั่วไป เลยถามนายโอเล่ไปว่า “ไม่ใช่โอเล่ไปตีลูกแม่เหรอ” นายโอเล่ ก็ตอบว่า “ผมไม่ได้ตี” แล้วหน้าตานายโอเล่ตอนนั้นก็ดูมีพิรุธ ตาแดง เหมือนจะร้องไห้

จากนั้นนายโอเล่ ก็พาญาติของตัวเองไปดูที่กระท่อมจุดที่เจอศพน้องแมน แต่พาไปผิดกระท่อม ซึ่งตัวเองก็แปลกใจว่า ทำไมโอเล่เป็นคนเจอร่างลูกชายแท้ๆ ทำไมจำกระท่อมผิด

หลังจากนั้นตัวเองได้เดินทางไปที่เกิดเหตุตามหลัง แต่ก็ไม่เจอร่างลูกชายแล้ว เนื่องจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้มารับร่างลูกชายส่งโรงพยาบาล จากนั้นตัวเองก็ตามไปที่โรงพยาบาลก็พบว่าลูกชายได้เสียชีวิตแล้ว ซึ่งแพทย์ก็ได้ลงสาเหตุการตายว่า “เสียชีวิตจากการบาดเจ็บบริเวณศีรษะ” บวกกับตอนที่ตัวเองรับศพลูกชายมาประกอบพิธีทางศาสนา ก็พบว่า สภาพศพศีรษะบวม มีรอยช้ำที่ลำคออีกด้วย

เหตุที่เกิดขึ้น ตัวเองก็ติดใจสาเหตุการตายของลูกชายเพราะว่าได้พบพิรุธหลายอย่าง อาทิ สภาพศพที่แพทย์ลงความเห็นว่าเสียชีวิตจากการบาดเจ็บที่ศีรษะ ทำไมนายโอเล่ชี้จุดพบร่างลูกชายผิด คือบอกกับญาติว่าเห็นลูกชายนอนศีรษะไปทางทิศตะวันออก แต่แพทย์บอกว่าศพศีรษะไปทิศตะวันตก, ทำไมโอเล่ชี้เถียงนาที่เกิดเหตุผิดอัน ทำไมก่อนเกิดเหตุ เพื่อน 4 คน ถึงมาถามหาลูกชายที่บ้าน, และคืนเกิดเหตุ ทำไมนายคิม ถึงโทรให้ลูกชายออกไปหา

ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ ตัวเองเชื่อว่าลูกชายน่าจะถูกฆ่าจากที่อื่น แล้วนำศพมาอำพรางที่กระท่อม เพราะจากที่ตัวเองไปดูที่กระท่อมแล้วไม่มีร่องรอยการต่อสู่ แต่ที่กางเกงและเสื้อของลูกชายเต็มไปด้วยดินโคลนจำนวนมาก

ยอมรับว่าเมื่อปีที่แล้ว ลูกชายเคยต้องโทษคดียาเสพติดมา แต่เขาก็เป็นเสาหลักของบ้าน ทำงานหาเงินมาสร้างบ้านหลังนี้ ให้กับครอบครัว

หลังให้สัมภาษณ์แม่ของน้องแมน ได้พาทีมข่าวไปดูชุดที่น้องแมนสวมใส่ในวันเสียชีวิต ซึ้งแม่เอากางเกงยีนส์ เสื้อกีฬา และเข็มขัดมาให้ทีมข่าวดู ก็พบว่ามีดินโคลนติดเต็มกางเกง และเข็มขัดจำนวนมากเหมือนกับว่าลูกลายไปล้มลุกคลุกคลานมาก่อนตาย แต่พอดูกระท่อมที่พบศพแล้วไม่มีร่องรอยการต่อสู้หรือรอยดินโคนแต่อย่างใด จึงเชื่อว่าลูกชายน่าจะถูกฆ่ามาจากที่อื่นแล้วนำศพมาทิ้งที่กระท่อม

นอกจากนี้ แม่ยังทำพิธีตามความเชื่อ คือ ใช้ต้นบอนมาทาปากที่รูปของลูกชาย และนำเหล้าขาวมาไหว้ เพื่อให้ลูกดื่มเพราะคนเมาจะพูดทุกอย่างออกมา แล้วที่ใช้ต้นบอนทาปาก เพราะจะได้คันปากแล้วพูดออกมาว่าใครทำร้ายเขาจนเสียชีวิต

ทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินทางมายังจุดเกิดเหตุ โดยมีนางกาญจนา แม่ของผู้เสียชีวิตมาด้วย เมื่อถึงที่เกิดเหตุ พบว่าเป็นกระท่อมกลางทุ่งนา โดยเมื่อถึงที่เกิดเหตุ แม่ได้ไปจับดินมา 1 ก้อน ก่อนอธิษฐานถึงแม่ธรณีว่าช่วยให้คดีของลูกชายคลี่คลาย และให้จับคนร้ายให้ได้เร็วๆ ด้วย

ทีมข่าวช่อง 8 ยังได้รับแชตการสนทนาระหว่างนายคิม กับผู้ตาย พบว่าเวลา 21.32 น. ของวันที่ 26 มีนาคม คืนที่นายแมนหายตัวไป นายคิม ได้โทรเฟชบุ๊กหานายแมน และมีการคุยกัน 37 วินาที จากนั้นนายแมน ก็พิมพ์ตอบกลับไปว่า “พี่อยู่คนเดียวจริงๆนะ” แล้วนายคิม ก็พิมพ์ตอบกลับมา 2 ข้อความ แต่ทั้ง 2 ข้อความข้อความถูกยกเลิกไปแล้ว // นายแมน (คนตาย) จึงพิมพ์กลับไปว่า “ครับ กำลังไป”

แชตหน้าที่ 2 นายแมน (คนตาย) ถ่ายภาพถนนที่เจ้าตัวกำลังขับรถไป แล้วพิมพ์ข้อความบอกนายคิมว่า “รอก่อนพี่”

แชตหน้าที่ 3 นายแมน (คนตาย) โทรหานายคิม 23 วินาที แล้วนายแมนก็พิมพ์ข้อความไปว่า “พี่ยุไหน แบบไหนนิ พี่”

จากนั้นเวลา 21.55 น. นายแมน (คนตาย) ได้โทรหานายคิมจำนวน 2 สายแต่นายคิมไม่รับ จากนั้นนายแมน พิมพ์กลับไปว่า “ผมเข้าแล้วนิ”

ทีมข่าวช่อง 8 เดินทางมาที่บ้านของนายคิม แต่ไม่เจอตัวนายคิม เจอกับแม่ของนายคิม ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวว่า ตอนนี้ตัวเองไม่รู้ว่าลูกชายออกไปเที่ยวเล่นที่ไหน เนื่องจากติดต่อลูกชายไม่ได้เพราะโทรศัพท์ตำรวจก็ยึดเอาไปแล้ว

ถามว่า ก่อนเกิดเหตุทำไมลูกชายได้โทรหาผู้ตายนั้น แม่บอกกับทีมข่าวว่า จากการสอบถามนายคิม ยอมรับว่าคืนก่อนเกิดเหตุ โทรหาผู้ตายให้ออกมาหาจริง แต่หลังจากนั้นผู้ตายบอกว่ามาหาไม่ได้เพราะจะกลับเข้าบ้านของเขา ซึ่งคิมก็กลับเข้าบ้านนอนและไม่ได้ไปเจอกับผู้ตายแต่อย่างใด

สำหรับคิมและผู้ตายก็รู้จักกันในฐานะเพื่อนของเพื่อน ไม่ได้สนิทกันมาก และลูกชายก็ไม่เคยมีเรื่องกับนายแมนมาก่อน

ต่อมาทีมข่าวช่อง 8 เดินทางมายังบ้านของนายโอเล่ เพื่อนที่ไปพบร่างคนตายเป็นคนแรก แต่เจ้าตัวไม่อยู่บ้าน ทีมข่าวได้พูดคุยแม่ของนายโอเล่ ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวว่า ตอนนี้ลูกชายออกไปเล่นกับเพื่อนๆ โดยลูกชายก็ได้ให้ปากคำกับตำรวจเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวไปหมดแล้ว ตัวเองเชื่อว่าลูกชายไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ส่วนที่ลูกชายจำสถานที่เจอร่างน้องแมนผิดนั้น ตัวเองก็ยังไม่ได้สอบถามในเรื่องนี้

ส่วนความคืบหน้าทางคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างสอบสวนกลุ่มเพื่อนของผู้เสียชีวิตเพื่อคลี่คลายคดี และหาสาเหตุการตายต่อไป

รุ่นพี่เรียกก่อนตาย