"ศิธา" เปิดใจ หากเป็นตัวปัญหา ยินดีลาออกจากพรรคหรือไม่ร่วมรัฐบาล ลั่น ถอยได้อีก ยอมขอโทษทุกอย่าง-ถอนทุกคำที่ติดใจ เพราะส่วนตัวไม่มีปมขัดแย้ง​กับ "หมอชลน่าน" เผยยังเคยเชียร์นั่งแคนดิเดตนายกฯเพื่อไทยเลย พร้อมยืนยัน ไม่ได้เสียมารยาทวันแถลง MOU เพียงแต่ต้องการเสนอโมเดล ที่เป็นบทเรียนให้กับฝ่ายเผด็จการ

นายศิธา ทิวารี แคนดิเดตนายกพรรคไทยสร้างไทย เปิดใจเคลียร์ประเด็น ที่มีข้อพิพาทกับนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ถึงกรณีการตั้งคำถามวัน เซ็น MOU จัดตั้งรัฐบาล ว่า ที่โพสต์ว่ายินดีลาออกจากพรรคไทยสร้างไทย หากตนเองเป็นเงื่อนไขทำให้การจัดตั้งรัฐบาลมีปัญหา ก็พร้อมที่จะลาออกหรือหากพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลรวมเสียงพอแล้วที่จะจัดตั้งรัฐบาลพรรคไทยสร้างไทยก็ยินดีที่จะไม่ร่วมรัฐบาล แต่ก็จะยกมือสนับสนุนให้ไม่ว่าจะเป็นแคนดิเดตนายกของพรรคเพื่อไทยหรือพรรคก้าวไกล // 6 เสียงของเรายินดียกมือโหวดให้ เราจะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาลไม่ได้เป็นเงื่อนไขที่จะสนับสนุนให้ประชาธิปไตยเดินหน้า ซึ่งเรื่องนี้เป็นหลักการที่ยืนยัน มาตั้งแต่ต้นไม่ใช่พูดเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยืนยันจะไม่เป็นตัวขัดขวางการเดินหน้าของประชาธิปไตยหรือการจัดตั้งรัฐบาลเด็ดขาด

"วันนี้มีการถามว่าพรรคก้าวไกล จะเอา 6 เสียงหรือเอา 141 เสียง ถ้าเอา 6 เสียงไว้ก็จะพิจารณาตัวเอง มันกลายเป็นว่าตัวผมคนเดียวทำให้ 2 คนเขาแตกกัน แล้วแฟนคลับก็จะไปคิดแบบนี้ ตอนนี้มันเป็นแบบนี้ ผมเลยบอกมันไม่ใช่ เพราะเป็นฝ่ายค้านก็ได้ หรือเราขยับออกมาก่อนเลยก็ได้แล้วคุณก็ว่ากันจะเชิญหรือไม่เชิญ เราก็โหวตให้ หรือควรจะเอาไทยสร้างไทยไปร่วมรัฐบาลผมก็ลาออกจากพรรค ถ้าเกิดผมเป็นปัญหา ผมยินดี ขยับออกให้ไม่ต้องกังวลเลยยินดีเอาตัวผมออกจากสมการ ถ้าจะไม่ร่วมรัฐบาลหรืออะไรกันมันก็จะไม่เกี่ยวกับผมแล้ว ซึ่งส่วนตัวก็ไม่ได้ว่าอะไรทั้งขออภัยและขอโทษไปแล้ว "

เมื่อถามว่าเหมือนอยากจะให้ขอโทษแบบมีสำนึก นายศิธา กล่าวว่า ต้องไปอ่านโพสต์ แล้วดูว่าที่ผมขอโทษแบบมีสำนึกหรือยัง ซึ่งตนคิดว่า ตอนแรกแก่ไม่ได้โกรธ เพราะตอนกินข้าวก็ยังมีการพูดคุยกัน แต่แกกลับมาให้สัมภาษณ์ว่า ได้ต่อว่าผมแรงเกินไป และตอนมาให้สัมภาษณ์ในรายการก็มาว่าผมเสียมารยาท ทำไมถึงไม่พูดตั้งแต่วันนั้นที่คุยกันเลย ทำให้ตนต้องโพสต์ไปแบบนั้น พร้อมยืนยันว่า วันแถลงข่าวที่ตนตั้งคำถามไม่ได้มีเจตนาจะเสียมารยาท แต่ต้องการจะเสนอโมเดล ที่เป็นบทเรียนให้กับฝ่ายเผด็จการ แต่หากมันเป็นการไม่มีมารยาทตนก็ขอโทษขออภัย แล้วก็ขอให้บอกมาว่าตรงไหนที่ผมยังไม่สำนึก

เมื่อถามว่านายแพทย์ชลน่าน ติงว่าคุณศิธา ก็นั่งอยู่ในวงยกร่าง MOU ทำไมไม่เสนอประเด็นนี้เข้ามา นายศิธา กล่าวว่า วันนั้นกว่าจะออกมาเซ็น MOU ก็เกินเวลาที่นัดหมายไปมากแล้ว และการที่ตนจะไปพูดอะไรก่อนที่จะเซ็นมันก็ไม่ใช่ แต่เมื่อเซ็น MOU จบตนก็ขอเสนอแนวคิด

เมื่อถามว่าได้มีโอกาสคุยกับนายแพทย์ชลน่าน หลังจากเกิดเรื่องหรือไม่นายศิธา กล่าวว่า ยังไม่ได้พูดคุยกันเลย และตนคงไม่เป็นฝ่ายโทรไป เพราะสำหรับตนจบไปตั้งแต่วันนั้นแล้ว แต่หากนายแพทย์ชลน่าน โทรมาก็พร้อมที่จะพูดคุย และไม่ขอวิจารณ์เหตุผล ว่า เรื่องไหนที่ทำให้หมอชลน่าน ให้สัมภาษณ์เดือดขนาดนี้
เมื่อถามว่า หลายคนประเมิน นี่จะเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวทำให้การจัดตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จหรือไม่ นายศิธา กล่าวว่า

"ไม่หรอกครับ น้ำผึ้งหลายๆหยดก็ยิ่ง หวาน อย่างที่ผมบอกผมไม่ร่วมรัฐบาลก็ได้ แต่ก็พร้อมสนับสนุนให้หรือจะให้ผมออกไปก็ได้ ผมว่าตอนนี้มันก็เลยจากคืบจากศอกมาเมตรแล้ว แต่ไม่เป็นไรก็ยังถอยได้อีก เพียงแต่ขอรู้เหตุผลเท่านั้นเอง และตอนนี้พรรคก้าวไกล ก็ไม่ได้ประสานอะไรมาเคลียร์ในเรื่องนี้ด้วย เพราะส่วนตัวคิดว่าพรรคก้าวไกลเข้าใจกับการสื่อสารของตน"

เมื่อถามว่า อยากฝากอะไรถึงนายแพทย์ชลน่านหรือไม่ นายศิธา กล่าวว่า ไม่ขอฝากอะไร เพราะส่วนตัวไม่เคยพูดจาให้ร้ายพี่หมออยู่แล้ว ก่อนเลือกตั้ง ก่อนที่จะส่งแคนดิเดตนายกฯ ตนไปออกรายการ ตนยังเคยบอกว่า ถ้าเป็นพรรคเพื่อไทย ตนจะเอาหมอชลน่านเป็นแคนดิเดตนายกฯ เพราะเขามีภาพลักษณ์ที่เป็นคนรุ่นใหม่ สื่อสารกับทุกคนได้ ดังนั้น สำหรับตนเองกับพี่หมอชลน่านไม่ได้มีอะไรกันเลย

เมื่อถามว่าประเด็นที่หมอชลน่าน อาจจะเดือดมากๆ เพราะถูกกล่าวหาว่า ไปรับบรีฟจากใครมา นายศิธา กล่าวว่า วันนั้นพี่หมอชลน่าน ไม่ได้พูดเรื่องนี้กับตน ทำให้ตนเข้าใจว่าไปคุยอะไรกับผู้ใหญ่มาหรือไม่ หากไม่พอใจคำนี้ตนขอถอน แล้วโกรธคำไหนอีกก็บอก เอารายคำเลยก็ได้ ลิตส์มาเลย และถ้ามองว่ามันกลายเป็นการดูถูกพรรคเพื่อไทยด้วยตนก็ขอโทษอีก ถ้ารวมๆตรงนี้ขอโทษน่าจะหลายคำแล้ว

เมื่อถามว่า เรื่องนี้มันหนักหนาถึงขนาดที่หมอชลน่าน จะต่อยเลยเหรอพี่ นายศิธา กล่าวว่า มันไม่มีหรอก ตนคิดว่ามันเป็นจังหวะที่เขาไม่ได้ให้สัมภาษณ์แล้ว แต่นักข่าวกลับไปได้ยิน ดังนั้น คงไม่มีเจตนา และแกจะพูดอะไรก็ได้เพราะแกไม่ได้ทำจริง